ยุโรปรายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เกินกว่า 6 ล้านคน นับตั้งแต่มันปรากฏตัวในภูมิภาคแห่งนี้ เมื่อเดือนมกราคม ขณะที่หลายชาติเริ่มเผชิญกับสถานการณ์เลวร้ายจากการแพร่ระบาดระลอก 2 ในนั้นรวมถึงฝรั่งเศสและ สหราชอาณาจักร ที่มีผู้ติดเชื้อเกินกว่า 10,000 คนต่อวัน
จากการนับของเอเอฟพี พบว่า จนถึงเวลานี้ทวีปยุโรปมีจำนวนผูุ้ติดเชื้อสะสมรวมกันที่ 6,000,940 คน และเสียชีวิต 237,716 คน มากที่สุดคือ รัสเซีย (ติดเชื้อ 1,248,619 คน เสียชีวิต 21,865 คน) รองลงมาคือ สเปน (ติดเชื้อ 825,410 คน และเสียชีวิต 32,486 คน) ตามด้วย ฝรั่งเศส (ติดเชื้อ 669,235 คน และเสียชีวิต 32,365 คน) และ สหราชอาณาจักร (ติดเชื้อ 530,113 คน และเสียชีวิต 42,445 คน)
ในรอบ 7 วันที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วยุโรป 543,137 คน เพิ่มขึ้นถึง 26% จากหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ซึ่งอยู่ที่ 431,951 คน นอกจากนี้แล้ว อัตราการเสียชีวิตในช่วงเวลาเดียวกัน ก็เพิ่มขึ้น 17% จาก 4,765 คน เป็น 5,562 คน
จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่วนหนึ่งมาจากหลายชาติในยุโรปยกระดับการตรวจเชื้อกว้างขวางขึ้น อาทิ ในฝรั่งเศส ซึ่งมีการตรวจเชื้อประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนในแต่ละสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ยอดที่แท้จริงอาจสูงกว่านี้ เพราะยังมีเคสที่ไม่แสดงอาการอีกมากที่ตรวจไม่พบ
ฝรั่งเศสในวันพุธ (7 ต.ค.) รายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวัน ทุบสถิติสูงสุดเป็นวันที่ 2 ในรอบ 5 วัน หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมอีกเกือบ 19,000 คน ขณะที่ตัวเลขผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจากการติดเชื้อโควิด-19 ยังคงอยู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขฝรั่งเศส ระบุว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 18,746 คน ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำลายสถิติเดิม 16,972 คน ที่เพิ่งทำเอาไว้เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม และเพิ่มขึ้นอย่างมากจากระดับ 10,489 คนของวันอังคาร (6 ต.ค.)
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของฝรั่งเศสยังเผยด้วยว่ามีคนไข้โควิด-19 มากกว่า 7,500 คนที่ปัจจุบันกำลังรักษาตัวในโรงพยาบาล เพิ่มขึ้นถึง 65% จากระดับต่ำสุด 4,530 คน เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา
ด้าน อิตาลี ตัดสินใจบังคับสวมหน้ากากยามอยู่กลางแจ้งทั่วประเทศ ในความพยายามสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หลังจากยอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน
คำสั่งดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หลังพบผูู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่แหล่งข่าวรัฐบาลเปิดเผยว่ามีความเป็นไปได้ที่มันจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพฤหัสบดี (8 ต.ค.) เป็นต้นไป
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้น หลังจากหลายแคว้นของอิตาลี ในนั้นรวมถึงลาซิโอ ซึ่งอยู่รอบๆ กรุงโรม ได้บังคับสวมหน้ากากไปก่อนหน้าแล้ว
ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขอิตาลี รายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่ 3,678 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจาก 2,677 คนของวันอังคาร (6 ต.ค.) และขยับขึ้นเหนือระดับ 3,000 คน เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 333,940 คน
อิตาลีเป็นชาติแรกในยุโรปได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างหนักหน่วง และเป็นชาติที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของทวีปรองจากสหราชอาณาจักร โดยจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 36,061 คน นับตั้งแต่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แพร่ระบาดในประเทศเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
ด้านสหราชอาณาจักร รายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวันมากกว่า 14,000 คนมา 2 วันติดแล้ว ส่งผลให้นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ต้องสั่งผิดบาร์และร้านอาหารทั่วภูมิภาคทางเหนือของอังกฤษ ในนั้นรวมถึงแมนเชสเตอร์และลิเวอร์พูล ตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป ในความพยายามสกัดการแพร่ระบาด
(ที่มา : เอเอฟพี/รอยเตอร์)
