เอเจนซีส์ – ประเด็นการเหยียดเชื้อชาติและการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐจุดชนวนการประท้วงในอเมริกาอีกครั้ง โดยมีรายงานว่า ตำรวจ 2 นายถูกยิงได้รับบาดเจ็บในเมืองหลุยส์วิลล์ รัฐเคนทักกี เมื่อวันพุธ (23 ก.ย.) ระหว่างเหตุชุมนุมประท้วงคณะลูกขุนใหญ่ที่ไม่สั่งฟ้องตำรวจผิวขาว 3 นาย ข้อหาฆาตกรรมในคดีบุกค้นอพาร์ตเมนต์ของ บริออนนา เทย์เลอร์ และทำให้นักเทคนิคการแพทย์ฉุกเฉินสาวผิวดำผู้นี้ ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อเดือนมีนาคม
ทว่า คณะลูกขุนใหญ่มีคำวินิจฉัยในวันพุธ เพียงแค่ตั้งข้อหาตำรวจ 1 ใน 3 คือ เบร็ตต์ แฮนคิสัน ซึ่งเป็นตำรวจสายสืบ 3 กระทงจากการทำให้เพื่อนบ้านของเทย์เลอร์ตกอยู่ในอันตราย ซึ่งตามกฎหมายของเคนทักกีถือเป็นการกระทำผิดทางอาญาสถานเบาที่สุดโดยมีโทษจำคุกเพียง 5 ปี ทั้งนี้ คณะลูกขุนใหญ่ (grand jury) ซึ่งเป็นระบบที่ยังมีใช้อยู่ในสหรัฐฯ เป็นคณะบุคคลที่มาจากประชาชนธรรมดา ถูกเรียกมาให้วินิจฉัยว่าในคดีอาญาที่เป็นปัญหา มีหลักฐานเพียงพอสำหรับการดำเนินการฟ้องร้องหรือไม่
คำวินิจฉัยของคณะลูกขุนใหญ่นี้มีขึ้นหลังจากผ่านไปกว่า 6 เดือนที่เทย์เลอร์ นักเทคนิคการแพทย์ฉุกเฉิน วัย 26 ปี เสียชีวิตต่อหน้าแฟนหนุ่มที่มีอาวุธ หลังตำรวจผิวขาวนอกเครื่องแบบ 3 คนบุกเข้าไปในอพาร์ตเมนต์ตามหมายค้นในคดียาเสพติด
ตำรวจบุกเข้าไปในอพาร์ตเมนต์หลังเวลาเที่ยงคืนเล็กน้อย ขณะที่ เทย์เลอร์ นอนอยู่ที่เตียงพร้อมแฟนหนุ่มชื่อ เคนเนธ วอลเกอร์ ซึ่งเคยถูกตัดสินลงโทษฐานเป็นนักค้ายาเสพติด
วอลเกอร์ซึ่งให้ปากคำในเวลาต่อมาว่า คิดว่าแฟนเก่าของเทย์เลอร์บุกเข้ามา ได้ใช้ปืนมีทะเบียนของเขายิงใส่ผู้บุกรุก
พวกเจ้าหน้าที่บอกว่า กระสุนปืนของวอลเกอร์ยิงถูกตำรวจคนหนึ่งที่ขา เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 จึงยิงตอบโต้รวม 32 นัด เทย์เลอร์ถูกยิงระหว่างเหตุชุลมุน และเสียชีวิตที่พื้นห้องโถง
ระหว่างเกิดเหตุ ตำรวจทั้ง 3 ไม่ได้เปิดกล้องประจำตัวของพวกตน ทั้งที่ตามระเบียบแล้วเป็นสิ่งที่ต้องทำ
การเสียชีวิตของเทย์เลอร์กลายเป็นสัญลักษณ์การต่อสู้เพื่อสิทธิคนดำ และภาพของเธอเป็นที่คุ้นตาระหว่างการประท้วงต่อต้านการเหยียดผิวและการใช้ความรุนแรงของตำรวจในเมืองต่างๆ ทั่วอเมริกาตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
ภายหลังการตัดสินของคณะลูกขุนใหญ่ ผู้ประท้วงนับพันคนออกไปชุมนุมบนถนนหลายสายในเมืองหลุยส์วิลล์ทันทีและเดินขบวนอย่างสันติเป็นส่วนใหญ่จนกระทั่งเกิดเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดขณะที่ตำรวจติดอาวุธหนักเคลื่อนเข้าใกล้ฝูงชน และใช้สารเคมีที่ทำให้เกิดการระคายเคืองและระเบิดแสงเพื่อกดดันให้ผู้ประท้วงสลายตัวก่อนที่คำสั่งเคอร์ฟิวจะมีผลบังคับใช้ในเวลา 21.00 น.
ทั้งนี้นอกจากคำสั่งเคอร์ฟิวแล้ว หลุยส์วิลล์ยังประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อป้องกันเหตุการณ์รุนแรงจากการประท้วง
โรเบิร์ต ชโรเดอร์ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจหลุยส์วิลล์แถลงว่า ตำรวจ 2 นายถูกยิงได้รับบาดเจ็บแต่อาการทรงตัวแล้วทั้งคู่ และจับผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน
หลังเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่สลายตัว และมีผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 46 คนตลอดการประท้วงตั้งแต่ช่วงกลางวัน
นอกจากนั้นยังมีการประท้วงในหลายเมืองของอเมริกา ซึ่งรวมถึงนิวยอร์ก บอสตัน วอชิงตัน ลอสแองเจลิส แอตแลนตา และชิคาโก
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังเร่งหาเสียงโดยชูนโยบายการรักษาความสงบเรียบร้อย ทวิตให้กำลังใจตำรวจ 2 นายที่ถูกยิงในการประท้วง อีกทั้งยังต่อสายคุยกับผู้ว่าการรัฐเคนทักกี เพื่อเสนอความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลาง
ด้านโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต กล่าวว่า คณะลูกขุนใหญ่ล้มเหลวในการมอบความยุติธรรมให้เทย์เลอร์ แต่เขาหวังว่า การสอบสวนของกระทรวงยุติธรรมที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ จะคืนความยุติธรรมให้เทย์เลอร์
แดเนียล คาเมรอน อัยการใหญ่รัฐเคนทักกี แถลงเมื่อวันพุธว่า สาเหตุที่คณะลูกขุนใหญ่ไม่ตั้งข้อหาตำรวจ
2 ใน 3 นาย ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์บุกอพาร์ตเมนต์เทย์เลอร์เมื่อวันที่ 13 มีนาคม เนื่องจากทั้งคู่ยิงต่อสู้กับเคนเนธ วอล์กเกอร์ แฟนหนุ่มของผู้ตาย และหนึ่งในนั้นคือ จ่าสิบตำรวจโจนาธาน คอสโกรฟ ถูกยิงที่ต้นขา
ทว่า วอล์กเกอร์ให้การว่า เขาคิดว่า ตำรวจเป็นผู้บุกรุกเนื่องจากไม่มีการแสดงตัว ซึ่งตรงข้ามกับคำให้การของเพื่อนบ้านและตำรวจทั้งสามนาย
คาเมรอนเสริมว่า การตั้งข้อหาแฮนคิสันมาจากข้อเท็จจริงว่า กระสุนบางส่วนจากทั้งหมด 10 นัดที่เขายิงออกไป ทะลุผนังอพาร์ตเมนต์ของเทย์เลอร์เข้าไปในห้องที่อยู่ติดกันที่มีพ่อแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ และลูกเล็กอีกคนอาศัยอยู่
นอกจากนั้นยังไม่มีหลักฐานที่สรุปได้ว่า กระสุนของแฮนคิสันยิงถูกเทย์เลอร์ ทว่า จากการสอบสวนของผู้เชี่ยวชาญด้านกระสุนปืนพบว่า ในบรรดากระสุน 6 นัดที่เจาะเข้าร่างเทย์เลอร์ มีเพียงนัดเดียวที่ทำให้เธอเสียชีวิตซึ่งเป็นกระสุนจากปืนของไมเลส คอสโกรฟ ตำรวจสายสืบอีกนายซึ่งยิงป้องกันตัว
เบนจามิน ครัมป์ นักกฎหมายสิทธิมนุษยชนชื่อดังและเป็นทนายให้ครอบครัวเทย์เลอร์ ประณามการตัดสินของคณะลูกขุนใหญ่ที่ปล่อยให้ตำรวจทั้งสามนายพ้นจากความผิดในการทำให้เทย์เลอร์เสียชีวิต
แอนดี้ เบเชียร์ ผู้ว่าการรัฐเคนทักกี เรียกร้องให้คาเมรอนเปิดเผยหลักฐานในการสอบสวนทั้งหมดเพื่อคลี่คลายความสงสัยของประชาชน
ทั้งนี้ แฮนคินสันถูกปลดเมื่อเดือนมิถุนายน หลังการสอบสวนพบว่า เขาเพิกเฉยอย่างร้ายแรงต่อคุณค่าของชีวิตขณะบุกเข้าไปและยิงสะเปะสะปะในอพาร์ตเมนต์ของเทย์เลอร์ ส่วนคอสโกรฟและแมตทิงลีย์ ถูกย้ายไปทำงานด้านธุรการทั่วไป
นอกจากนั้นต้นเดือนนี้ เมืองหลุยส์วิลล์ยังตกลงจ่ายค่ายอมความให้ครอบครัวเทย์เลอร์ 12 ล้านดอลลาร์
เพื่อเริ่มต้นกระบวนการเยียวยา