xs
xsm
sm
md
lg

รบ.ทรัมป์ตั้งท่าหนุนดีล‘ออราเคิล-ติ๊กต็อก’ แม้ตกลงเป็น ‘หุ้นส่วน’ กันไม่ใช่ ‘ซื้อขายกิจการ’

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ขุนคลังสหรัฐฯ ยืนยันในวันจันทร์ (14 ก.ย.) ได้รับข้อเสนอการจับมือเป็นพันธมิตรระหว่าง “ออราเคิล” กับ “ติ๊กต็อก” แล้ว และจะเริ่มพิจารณาในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความสงสัยของผู้สังเกตการณ์จำนวนมากว่า ดีลนี้ช่วยคลี่คลายความกังวลเรื่องความมั่นคงของอเมริกาอย่างไร

ภายหลังสื่อดังหลายเจ้ารายงานโดยอ้างแหล่งข่าวกันตั้งแต่วันอาทิตย์ (13) ทางไบต์แดนซ์ บริษัทจีนที่เป็นเจ้าของแอปติ๊กต็อกได้ออกคำแถลงเมื่อวันจันทร์ (14) ว่า ได้ส่งข้อเสนอถึงกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ซึ่งบริษัทเชื่อว่า จะสามารถคลี่คลายข้อกังวลด้านความมั่นคงของคณะบริหารของสหรัฐฯ ได้ และอนุญาตให้บริษัทให้บริการผู้ใช้ที่มีอยู่ถึงราว 100 ล้านรายในอเมริกาต่อไป

คำแถลงนี้ออกมาภายหลัง สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังอเมริกา ให้สัมภาษณ์โทรทัศน์ซีเอ็นบีซีในวันเดียวกันว่า ได้รับข้อเสนอดังกล่าวในช่วงสุดสัปดาห์ โดยเนื้อหาของข้อเสนอนั้นครอบคลุมถึงเงื่อนไขที่ออราเคิลจะเป็นหุ้นส่วนด้านเทคโนโลยีที่ไว้ใจได้ของติ๊กต็อก

ด้านออราเคิลได้ออกแถลงในวันจันทร์ (14) เช่นกัน ยืนยันว่าบริษัทเป็นส่วนหนึ่งในข้อเสนอที่ไบต์แดนซ์ยื่นต่อกระทรวงการคลัง

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางการเปิดเผยเหล่านี้ ยังมีรายละเอียดมากมายที่คนนอกอยากรู้

ในวันอาทิตย์ (13) ไมโครซอฟท์ที่เสนอซื้อกิจการในสหรัฐฯของติ๊กต็อกเป็นรายแรก แถลงว่าข้อเสนอของตนได้ถูกไบต์แดนซ์ปฏิเสธแล้ว แต่บริษัทยืนยันว่าข้อเสนอนี้จะช่วยปกป้องผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของชาติด้วยการดำเนินการเปลี่ยนแปลงอย่างมโหฬารเพื่อรับประกันความมั่นคง ความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัยออนไลน์ และมาตรการป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด

เปรียบเทียบกับคำแถลงของออราเคิลในวันจันทร์ที่ย้ำเพียงผลงานการจัดหาโซลูชันเทคโนโลยีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงนาน 40 ปีของตนเองเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนมนูชินหนุนหลังออราเคิลเต็มที่ด้วยการให้สัมภาษณ์ว่า ข้อเสนอดังกล่าวตอบโจทย์ด้านความมั่นคงของชาติหลายประเด็น นอกจากนั้นเขายังพูดในแง่บวกเกี่ยวกับความมุ่งมั่นในการทำให้การดำเนินงานในตลอดทั่วโลกของติ๊กต็อก มารวมศูนย์อยู่ในสำนักงานใหญ่ซึ่งจะตั้งอยู่ในสหรัฐฯ โดยที่จะว่าจ้างพนักงานเพิ่มอีก 20,000 ตำแหน่ง ขณะที่ทั้งออราเคิลและติ๊กต็อกไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้เลย

ทั้งหลายทั้งปวงเกี่ยวกับปัญหากิจการในสหรัฐฯของติ๊กต็อก ปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม จากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขีดเส้นตายให้ไบต์แดนซ์ ขายกิจการของติ๊กต็อกในอเมริกาให้บริษัทอเมริกันภายในกลางเดือนนี้ ไม่เช่นนั้นจะถูกแบน โดยอ้างแบบไม่มีหลักฐานว่า แพล็ตฟอร์มวิดีโอสั้นของติ๊กต็อกอาจเป็นเครื่องมือสอดแนมของปักกิ่ง

เรื่องยิ่งซับซ้อนเมื่อจีนออกกฎระเบียบใหม่ที่บ่งบอกว่า ไบต์แดนซ์ไม่สามารถขายเทคโนโลยีที่ใช้ในอัลกอริทึมของติ๊กต็อกให้ต่างประเทศได้ ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลจีนเสียก่อน

การที่ไบต์แดนซ์ปฏิเสธไมโครซอฟท์ ซึ่งแสดงท่าทีชัดเจนว่าต้องการซื้อกิจการในสหรัฐฯของติ๊กต็อก และกระทั่งในประเทศอื่นๆ ด้วย โดยครอบคลุมถึงเทคโนโลยี แล้วหันไปเลือก ออราเคิล ที่เวลาพูดถึงดีลนี้ ไม่ได้เอ่ยว่าเป็นการซื้อขายกิจการหรือการเข้าครอบครองกิจการ หากเน้นในเรื่องความเป็นหุ้นส่วนกับติ๊กต็อก ทำให้ผู้สังเกตการณ์มองกันว่า นี่เป็นทางเลือกที่ไบต์แดนซ์หวังว่าจะสามารถสร้างความพึงพอใจให้แก่ทั้งคณะบริหารทรัมป์และรัฐบาลจีน

ทั้งนี้ ออราเคิล บริษัทซอฟต์แวร์ชั้นนำทางด้านธุรกิจของอเมริกาแห่งนี้ มีผู้ร่วมก่อตั้งคือ แลร์รี เอลลิสัน ซึ่งเป็นหนึ่งในจำนวนน้อยคนนักในวงการเทคโนโลยีสหรัฐฯ ที่ออกมาประกาศสนับสนุนทรัมป์ และในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ยังได้จัดงานที่คฤหาสน์ของตนในแคลิฟอร์เนียเพื่อระดมหาเงินบริจาคให้แก่ทีมรณรงค์หาเสียงของทรัมป์ ไม่เพียงเท่านั้นออราเคิลยังว่าจ้างอดีตผู้ช่วยระดับท็อปคนหนึ่งของรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ มาทำงานด้วย รวมทั้ง ซาฟราน แคตซ์ ซีอีโอของออราเคิล เคยอยู่ในทีมงานรับมอบตำแหน่งของทรัมป์

น่าสังเกตด้วยว่า การตัดสินใจนี้ยังมีขึ้นหลังจากปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาด้านการค้าของทรัมป์ ออกมาวิจารณ์ไมโครซอฟท์ บริษัทซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่ของโลก

จนถึงเวลานี้ทั้งออราเคิล ติ๊กต็อก และกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ไม่ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับโครงสร้างข้อเสนอการเป็นพันธมิตรนี้

ดีเร็ก ซิสเซอร์ส จากกลุ่มคลังสมอง อเมริกัน เอ็นเตอร์ไพร์ อินสติติวต์ บอกว่า ตอนนี้คงระบุไม่ได้ว่า การตัดสินใจนี้ผิดหรือไม่ แต่ที่รู้คือ คณะบริหารไม่ควรนำเรื่องนี้ซึ่งเป็นเรื่องวงการธุรกิจมาเป็นประเด็นการเมือง

ขณะที่ พอล ทริโอโล นักวิเคราะห์ของยูเรเซีย ตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าไบต์แดนซ์ดึงออราเคิลมาเป็นพันธมิตร แต่ไบต์แดนซ์ยังเป็นเจ้าของติ๊กต็อกอยู่ เท่ากับว่า ไม่มีการขายกิจการให้บริษัทอเมริกันอย่างที่ทรัมป์เรียกร้อง ทั้งนี้จีนย่อมไม่ต้องการอนุมัติข้อตกลงที่บริษัทท้องถิ่นของตนถูกบังคับให้ขายหรือปล้นทรัพย์สินทางปัญญา อย่างไรก็ดี ทรัมป์คงไม่สามารถยกเลิกการแบนง่ายๆ โดยที่ไม่ได้อะไรกลับมาเป็นชิ้นเป็นอัน

ทริโอโลสำทับว่า การหาทางออกเพื่อรักษาหน้าของทุกฝ่ายน่าจะยากมากๆ

ตามกระบวนการแล้ว ข้อเสนอของติ๊กต็อกกับออราเคิล ยังต้องได้รับการตรวจสอบจากคณะกรรมาธิการด้านการลงทุนของต่างชาติในอเมริกา (ซีเอฟไอยูเอส) ที่มีรัฐมนตรีคลังเป็นประธานและมีหน้าที่ศึกษาการผนวกกิจการในแง่ความมั่นคงของชาติ

มนูชินคาดว่า ซีเอฟไอยูเอสจะพิจารณาข้อเสนอนี้ในสัปดาห์นี้และจัดทำข้อเสนอแนะถึงทรัมป์ต่อไป ซึ่งทรัมป์สามารถอนุมัติหรือปฏิเสธก็ได้ กระนั้น ดูเหมือนตอนนี้ผู้นำสหรัฐฯ ออกโรงเชียร์ออราเคิลอยู่แล้ว โดยเคยออกมายกย่องว่าเป็น “บริษัทที่ยิ่งใหญ่” ที่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้

ทั้งนี้ หากรัฐบาลสหรัฐฯ อนุมัติข้อเสนอนี้ ติ๊กต็อกจะได้รับอนุญาตให้ดำเนินการในอเมริกาได้ต่อไป

อย่างไรก็ดี พอล แฮสเวลล์ หุ้นส่วนบริษัทกฎหมาย พินเซนต์ เมสันส์ในฮ่องกง ชี้ว่า ด้านต่อไปคือข้อตกลงระหว่างออราเคิล-ติ๊กต็อกจะหลีกเลี่ยงข้อจำกัดการส่งออกของจีนได้หรือไม่ โดยเรื่องนี้จะขึ้นอยู่กับว่า หลังจากนี้ใครจะเป็นผู้ควบคุมกิจการของติ๊กต็อกในอเมริกา

(ที่มา: เอเอฟพี, เอพี, รอยเตอร์)




กำลังโหลดความคิดเห็น