รอยเตอร์ - ประชาชนราว 1,000 คนเข้าร่วมเดินขบวนเป็นระยะทาง 1 ไมล์(1.6กิโลเมตร) ในเมืองเคโนชา รัฐวิสคอนซิล เมื่อวันเสาร์(29ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ตะโกน "ชีวิตคนดำมีค่า" และ "ไม่มีความยุติธรรม ไม่มีสันติ" ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงแผนเดินทางเยือนเมืองถูกสั่นคลอนด้วยสถานการณ์ความรุนแรงแห่งนี้ในสัปดาห์หน้า
จาค็อบ เบล็ค ซีเนียร์ บิดาของจาค็อบ เบล็ค ชายผิวสีวัย 29 ปี ที่ถูกตำรวจผิวขาวรัวยิงเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว(23ส.ค.) โหมกระพือสถานการณ์ความไม่สงบ เรียกร้องพวกผู้ประท้วงละเว้นจากกาปล้นสะดมและทำลายทรัพย์สิน ซึ่งบดบังการประท้วงอย่างสันติ
"คนดีๆในเมืองเข้าใจดี หากเราฉีกเมืองนี้เป็นชิ้นๆ เราก็ไม่เหลืออะไร" เขาบอกกับที่ชุมนุมบริเวณสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นศูนย์กลางการชุมนุมสนับสนุนลูกชายของเขา จาค็อบ เบล็ค จูเนียร์ "หยุดเถิด แล้วแสดงให้พวกเขาเห็นอีกคืนว่า เราไม่ได้ทำร้ายเมือง"
เหตุรัวยิงใส่ เบล็ค ต่อหน้าลูกๆของเขา 3 คน เปลี่ยนเมืองแห่งนี้ซึ่งมีประชากรราว 100,000 คน และมีคนขาวเป็นคนส่วนใหญ่ ทางใต้ของมิลวอกี กลายเป็นจุดเชื้อไฟล่าสุดของการประท้วงต่อต้านพฤติกรรมโหดเหี้ยมและเหยียดผิวของตำรวจที่ลุกลามทั่วสหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยในวันเสาร์(29ส.ค.) ว่า ทรัมป์ จะเดินทางเยือน เคโนชา ในวันอังคาร(1ก.ย.) เพื่อพบปะกับเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายและประเมินความเสียหายภายในเมือง
เบล็ค ซึ่งรอดชีวิต แต่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเป็นอัมพาตตั้งแต่เอวลงไป จะเข้าร่วมการพิจารณาคดีของศาลในสัปดาห์หน้า จากห้องรักษาตัวของโรงพยาบาล เกี่ยวกับข้อกล่าวหาทางอาญาที่มีต่อตัวเขา ซึ่งมีติดตัวก่อนหน้าถูกตำรวจรัวยิง ทนายความของเขาเปิดเผยกับรอยเตอร์ พร้อมระบุว่าลูกความรายนี้จะปฏิเสธข้อกล่าวหา
ความโกรธแค้นต่อเหตุยิงเบล็ค ซึ่งถูกบันทึกภาพเอาไว้ได้และถูกเผยแพร่อย่างกว้างขวางบนสื่อสังคมออนไลน์ ได้นำมาซึ่งการปะทะบนท้องถนนประราย ในนั้นรวมถึงกรณีผู้ประท้วงขว้างพลุไฟและก้อนอิฐเข้าใส่ตำรวจในชุดปราบจลาจล ส่วนเจ้าหน้าที่ตอบโต้ด้วยแก๊สน้ำตาและกระสุุนยาง และในคืนวันอังคาร(25ส.ค.) เกิดเหตุวัยรุ่นผิวชาวในปืนไรเฟิลอัตโนมัติยิงผู้ชุมนุม 3 คน โดย 2 ในนั้นเสียชีวิต
ไคล์ ริทเทนเฮาส์ ผู้ต้องสงสัยวัย 17 ปี ของเหตุยิงในคืนวันอังคาร(25ส.ค.) ยอมมอบตัวกับตำรวจในวันต่อมา ใกล้บ้านพักของเขาในอิลลินอยส์ ใกล้เขตแดนของวิสคอนซิน
จนถึงวันศุกร์(28ส.ค.) มีกำลังพลจากกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิมากกว่า 1,000 นายที่เข้าประจำการในเมืองเคโนชา โดยจำนวนมากมาจากรัฐอื่น ในขณะที่เคโนชา บังคับใช้เคอร์ฟิวตั้งแต่ 19.00น. ในความพยายามรักษาความสงบเรียบร้อย
เมื่อวันเสาร์(29ส.ค.) มีรายงานว่า เบล็ค ถูกใส่กุญแจมือไปจนถึงโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่จึงได้ถอดกุญแจมือให้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองเคโนชา กล่าวว่า เบลคถูกควบคุมตัวตามหมายจับก่อนหน้านี้ และการสวมใส่กุญแจมือก็เป็นไปตามนโยบาย แต่ทนายความของนายเบลค กล่าวกับสื่อสหรัฐว่า หมายจับเหล่านี้ ถูกยกเลิกไปแล้ว
พ่อของเบล็ค กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังจากเดินทางไปเยี่ยมลูกชายในโรงพยาบาลว่า เขาไม่พอใจอย่างมากกับการที่เบลคต้องนอนอยู่บนเตียงคนไข้โดยที่ยังถูกใส่กุญแจมือ ทั้งๆที่เขาไม่สามารถไปไหนได้แล้ว เนื่องจากเป็นอัมพาต
ในคลิปวิดีโอที่ผู้เห็นเหตุการณ์ถ่ายเอาไว้และถูกนำออกเผยแพร่โดยมีผู้ชมกันอย่างกว้างขวางนั้น หลังจากเกิดการต่อสู้กับตำรวจ เบล็คสลัดหลุดออกมาได้ และเดินหนีตำรวจ โดยเดินอ้อมรถยนต์เอสยูวีของเขามายังฝั่งที่นั่งคนขับ ขณะพวกเจ้าหน้าที่ใช้ปืนจี้เดินตามมาติดๆ พร้อมกับตะคอกใส่ ทันใดนั้นขณะที่ เบล็ค เปิดประตูและเอียงตัวเข้าไปภายใน ตำรวจนายหนึ่งก็คว้าเสื้อของเขาจากด้านหลัง แล้วรัวเป็นเข้าใส่เป็นชุด
ตำรวจไม่ได้อธิบายว่าทำไมถึงต้องลงมือยิงเบล็ค ส่วนพยานที่เห็นเหตุการณ์หลายรายระบุว่า ลูกชายวัยเยาว์ 3 ของเบลคกำลังอยู่ในรถคันดังกล่าวในตอนเกิดเหตุ
เมื่อวันศุกร์(28ส.ค.) สหภาพตำรวจเมืองเคโนชา ออกมาปกป้องเจ้าหน้าที่ โดยอ้างว่า เบล็ค มีอาวุธมีด ต่อสู้กับตำรวจและได้รับโอกาสสำหรับให้ความร่วมมือหลายต่อหลายครั้ง ก่อนตำรวจตัดสินใจยิงเข้าใส่
ครอบครัวของเบล็คและทนายความของเขา ตอบโต้ว่าเบล็คไม่ได้ยั่วยุหรือคุกคามตำรวจเลย "อะไรที่ทำให้พวกเขามีสิทธิ์พยายามฆ่าลูกชายของผม พวกเขามีสิทธิ์อะไรที่คิดว่าลูกชายของผมเป็นสัตว์" พ่อของเบล็คบอกกับฝูงชน "ผมเหนื่อยหน่ายกับมันมาก"