บลูมเบิร์ก/รอยเตอร์ - โจ ไบเดน ตัวแทนพรรคเดโมแครตลงสู้ศึกประธานาธิบดี ในวันพฤหัสบดี(27ส.ค.) ประณามความรุนแรงที่มีบ่อเกิดจากการประท้วง และกล่าวหาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าต้องการให้เกิดการประท้วงรุนแรงเพื่อเพิ่มโอกาสให้ได้รับเลือกตั้งกลับมาดำรงตำแหน่งอีกสมัย อย่างไรก็ตามสถานการณ์ล่าสุดที่เมืองเคโนชา เริ่มกลับคืนสู่ความสงบ หลังต้องเผชิญเหตุจาดจลและปล้นสะดมหลายคืนติดต่อกัน
"เขามองเรื่องนี้ว่าเป็นประโยชน์ทางการเมืองแก่เขา แก่นแท้ของเขาคือความรุนแรง" ไบเดน บอกกับสำนักข่าวเอ็มเอสเอ็นบีซี "เขายุยงเรื่องนี้ เขาไม่ยอมทำให้สถานการณ์ความรุนแรงลดน้อยถอยลง นี่คืออเมริกาในแบบของเขา" ไบเดนกล่าว
อดีตประธานาธิบดีรายนี้อ้างคำกล่าวของ เคลลีแอนน์ คอนเวย์ ผู้ช่วยของทรัมป์ ที่พูดว่าสถานการณ์ความยุ่งเหยิงจะเป็นเรื่องดีสำหรับฝ่ายของเธอ "เคยมีประธานาธิบดีคนไหนบ้าง เคยมีโฆษกประธานาธิบดีคนไหนบ้างที่พูดแบบนี้?" ไบเดนระบุ
ไบเดน บอกว่าเขาพร้อมเดินทางไปเยือนวิสคอนซิน หลังเกิดการประท้วงรุนแรงที่นั่นต่อเนื่องหลายวัน ต่อกรณีตำรวจก่อเหตุยิง จาค็อบ เบลค ชายผิวสี แต่มันจะต้องเป็นไปอย่างปลอดภัยและระบุว่าเขาไม่ต้องการเป็น "ส่วนหนึ่งของปัญหา"
ด้านวุฒิสมาชิก คามาลา แฮร์ริส คู่ชิงรองประธานาธิบดีของไบเดน ประณามการประท้วงรุนแรงและปล้นสะดมเช่นกัน แต่อีกด้านหนึ่งก็เรียกร้องขอให้ปกป้องการเดินขบวนอย่างสันติ
"เราต้องปกป้องการชุมนุมอย่างสันติเสมอ เราไม่ควรทำให้การชุมนุมยุ่งเหยิง ด้วยฝีมือพวกปล้นสะดมและพวกที่มีพฤติกรรมรุนแรง" เธอกล่าว เรียกร้องประชาชนไม่ควรปล่อยให้พวกศาลเตี้ยสร้างความสับสนแก่ประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับการเหยียดผิวอย่างเป็นระบบ
เสียงประณามจาก ไบเดน และคู่ชิงรองประธานาธิบดี มีขึ้นในขณะที่สถานการณ์ที่ค่อนข้างสงบได้หวนคืนสู่เมืองเคโนชา รัฐวิสคอนซิน แล้วในวันพฤหัสบดี(27ส.ค.) หลังจากก่อนหน้านี้เกิดเหตุจลาจลหลายคืนติดต่อกัน
เหตุการณ์ตำรวจผิวขาวยิงเบล็คซึ่งเป็นชายหนุ่มผิวดำ จุดชนวนการประท้วงที่ลุกลามกลายเป็นความรุนแรงติดต่อกันหลายคืนในเมืองเคโนชา โดยมีทั้งการปะทะกับตำรวจ การวางเพลิง และการปล้นชิง ขณะที่เมื่อวันอังคาร (25ส.ค.) ต่อกับก่อนรุ่งสางวันพุธ (26ส.ค.) มีการใช้อาวุธปืนที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คนและบาดเจ็บ 1 คน
ในความพยายามกอบกู้ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง พวกเจ้าหน้าที่ระบุในวันพฤหัสบดี(27ส.ค.) รัฐแอริโซนา, แอละแบมาและมิชิแกน จะส่งกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิไปยังเมืองแห่งนี้ เพื่อเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ที่ประจำการอยู่ในปัจจุบัน
"เมื่อคืนนี้ สถานการณ์สงบมากๆ" นายอำเภอเคโนชา เคาน์ตี กล่าวระหว่างแถลงข่าว "หวังว่า เราได้ก้าวผ่านจุดพีคสูงของสิ่งที่เราเผชิญแล้ว"
สถานการณ์ที่กลับคืนสู่ความสงบ มีขึ้นหลังจากอัยการสูงสุดรัฐวิสคอนซิน ระบุตัวตนนายรัสเตน เชสกี้ คือตำรวจที่ก่อเหตุรัวยิง 7 นัด ใส่บริเวณหลังของ จาค็อบ เบลค ตอนที่ชายวัย 29 ปีรายนี้กำลังเปิดประตูรถ ทั้งนี้อัยการสูงสุดยังเผยด้วยว่าคณะสืบสวนพบมีดเล่มหนึ่งตกอยู่บริเวณพื้นรถของเบลค
ถ้อยแถลงดังกล่าวเกิดขึ้นพร้อมๆกับข่าวคราวการจับกุมผู้ต้องสงสัยวัย 17 ปีคนหนึ่ง ซึ่งถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม ต่อเหตุยิงกันในคืนก่อนหน้านี้ ท่ามกลางสถานการณ์ความยุ่งเหยิงในเมืองเคโนชา ดินแดนริมทะเลสาบที่มีประชากร 100,000 คนและอยู่ห่างจากเมืองมิลวอกีไปราวๆ 60 กิโลเมตร
คลื่นความช็อกจากเหตุการณ์ต่างๆในเมืองเคโนชา สามารถสัมผัสได้ทั่วสหรัฐฯ เช่นเกี่ยวกับในหมู่นักกีฬาอาชีพ โดยเริ่มจากบาสเก็ตบอลอาชีพ “เอ็นบีเอ” ที่นำขบวนบอยคอตต์การแข่งขันเมื่อวันพุธ (26 ส.ค.) และจุดกระแสให้กีฬาประเภทอื่นๆลุกขึ้นมาต่อต้านการเหยียดผิวเช่นกัน
โทนี เอเวอร์ส ผู้ว่าการรัฐวิสคอนซิน เผยว่า ได้เพิ่มทหารจากกองกำลังพิทักษ์ชาติเป็น 2 เท่าตัวจากเดิมที่มีอยู่แล้ว 500 นาย รวมทั้งประกาศใช้คำสั่งเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 19.00-7.00 น.
กระนั้น ผู้ประท้วงราว 200 คนฝ่าฝืนคำสั่งดังกล่าวในคืนวันพุธ(26ส.ค.) และเดินขบวนอย่างสงบพร้อมตะโกนข้อความ “ชีวิตคนดำสำคัญ” และ “ไม่มีความยุติธรรมก็ไม่มีสันติภาพ” ขณะที่เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายคอยสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ โดยกำลังทหารไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมแต่อย่างใด