เอเจนซีส์ – บาสเก็ตบอลอาชีพ “เอ็นบีเอ” นำขบวนบอยคอตต์การแข่งขันเมื่อวันพุธ (26 ส.ค.) และจุดกระแสให้กีฬาประเภทอื่นๆ ลุกขึ้นมาต่อต้านการเหยียดผิว ขณะที่ทางการรัฐวิสคอนซินเปิดเผยชื่อตำรวจผิวขาวซึ่งรัวกระสุนใส่แผ่นหลังชาวผิวดำ จาค็อบ เบล็ค จนกลายเป็นอัมพาตที่เมืองเคโนชา พร้อมระบุด้วยว่า เหยื่อกระสุนผู้นี้มีมีดอยู่ในรถ ในอีกด้านหนึ่ง ก็มีการจับกุมวัยรุ่นผิวขาวซึ่งก่อเหตุยิงผู้ประท้วงเสียชีวิต 2 และบาดเจ็บ 1 คนในคืนวันอังคาร (25)
เหตุการณ์ตำรวจผิวขาวยิงเบล็คซึ่งเป็นชายหนุ่มผิวดำ จุดชนวนการประท้วงที่ลุกลามกลายเป็นความรุนแรงติดต่อกันหลายคืนในเมืองเคโนชา รัฐวิสคอนซิน โดยมีการปะทะกับตำรวจ การวางเพลิง และการปล้นชิง ขณะที่เมื่อวันอังคาร (25) ต่อกับก่อนรุ่งสางวันพุธ (26) มีการใช้อาวุธปืนที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คนและบาดเจ็บ 1 คน
ในวันพุธ กระทรวงยุติธรรมวิสคอนซินได้เปิดเผยรายละเอียดอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเหตุการณ์การยิงเบล็คที่เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ (23) เป็นครั้งแรก โดย โจช คอล อัยการรัฐวิสคอนซิน แถลงว่า พบมีดที่พื้นรถฝั่งคนขับ อันเป็นบริเวณที่เบล็คโน้มตัวเข้าไปในรถและถูกตำรวจยิงที่หลัง 7 นัดในระยะประชิด พร้อมกับสำทับว่า ระหว่างสอบสวน เบล็คยอมรับว่า มีมีดจริง
คอลไม่ได้อธิบายลักษณะของมีด หรือบอกว่า อาวุธดังกล่าวเป็นสาเหตุให้ตำรวจผู้นั้นซึ่งทำงานกับสำนักงานตำรวจเคโนชามา 7 ปี และมีการเปิดเผยชื่อเป็นครั้งแรกว่า รัสเตน เชสกี้ เปิดฉากยิงใส่ชายผิวดำผู้นี้หรือไม่
เหตุการณ์ที่นำไปสู่คดีนี้เริ่มต้นจากการที่หญิงคนหนึ่ง ซึ่งในภายหลังสื่อรายงานว่าชื่อ ลากิชา บุ๊กเกอร์ เป็นคู่หมั้นของเบล็ค โทรศัพท์แจ้งตำรวจว่า แฟนบุกไปที่บ้านทั้งที่มีคำสั่งห้ามเข้าใกล้ และเมื่อไปถึง ตำรวจพยายามจับกุมเบล็คด้วยปืนช็อตไฟฟ้าแต่ไม่สำเร็จ โดยชายหนุ่มผู้นี้เมื่อสลัดหลุดจากตำรวจแล้ว ได้เดินไปที่รถ เปิดประตูด้านคนขับ และถูกตำรวจที่จี้ปืนเดินตามหลังยิงใส่ตามที่เป็นข่าว
อย่างไรก็ตาม ทางทนายของเบล็คแถลงตอบโต้ฝ่ายอัยการว่า ลูกความของตนไม่ได้แสดงท่าทีคุกคามตำรวจ แต่พยายามพาลูกๆ ซึ่งอยู่ในรถออกไปจากสถานการณ์ตอนนั้น รวมทั้งยืนยันว่า ไม่มีมีด และสำทับว่า ลูกทั้ง 3 คนที่อายุ 3, 5 และ 8 ปี เห็นคาตาตอนที่พ่อถูกยิง พร้อมกับย้ำว่า เบล็คอาจกลายเป็นคนอัมพาตครึ่งท่อนล่างไปตลอดชีวิต
ทางด้านสื่อเคยรายงานว่า เดือนกรกฎาคม เบล็คเคยผู้พิพากษาศาลแขวงเคโนชาออกหมายจับข้อหาบุกรุก รวมทั้งเขามีความประพฤติผิดระเบียบแบบแผน และมีประวัติเรื่องบังคับข่มขืน
หลังการแถลงข่าวของคอลไม่นาน กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ประกาศเปิดการสอบสวนคดีสิทธิพลเมืองจากเหตุการณ์นี้ โดยระบุว่า สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) จะรับผิดชอบในการทำคดีโดยร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในวิสคอนซิน
ก่อนการแถลงข่าวเหล่านี้ ยังมีรายงานว่า วัยรุ่นผิวขาวคนหนึ่งถูกจับกุมและตั้งข้อหายิงผู้อื่นเสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บอีก 1 คนระหว่างการปะทะกับพวกผู้ประท้วงในเคโนชา เมื่อคืนวันอังคาร (25)
ในคลิปเหตุการณ์หลายคลิปที่มีผู้นำออกเผยแพร่ทางสื่อสังคม จะเห็นภาพชายผิวขาวคนหนึ่งซึ่งมีปืนไรเฟิลเป็นอาวุธ ยิงใส่ผู้ประท้วงที่พยายามเข้าไปไล่จับทำร้ายตน ก่อนเดินออกไปอย่างใจเย็นผ่านรถตำรวจหลายคันโดยไม่ถูกจับกุม
แมนเดลา บาร์นส์ รองผู้ว่าการรัฐวิสคอนซิล เผยว่า ผู้ต้องสงสัยที่มีการระบุชื่อในเวลาต่อมาว่า ไคลี ริตเตนเฮาส์ วัย 17 ปี อาศัยอยู่ในรัฐอิลลินอยส์ เป็นสมาชิกคนหนึ่งในกลุ่มติดอาวุธที่แต่งตั้งตนเองเป็นกองกำลังคุ้มครองท้องถิ่น และอ้างว่าต้องการป้องกันไม่ให้ธุรกิจและบ้านเรือนในเมืองถูกวางเพลิงถูกปล้นชิง
ด้านโทนี เอเวอร์ส ผู้ว่าการรัฐวิสคอนซิน เผยว่า ได้เพิ่มทหารจากกองกำลังพิทักษ์ชาติเป็น 2 เท่าตัวจากเดิมที่มีอยู่แล้ว 500 นาย รวมทั้งประกาศใช้คำสั่งเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 19.00-7.00 น.
กระนั้น ผู้ประท้วงราว 200 คนฝ่าฝืนคำสั่งดังกล่าวในคืนวันพุธ และเดินขบวนอย่างสงบพร้อมตะโกนข้อความ “ชีวิตคนดำสำคัญ” และ “ไม่มีความยุติธรรมก็ไม่มีสันติภาพ”
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลกลางและทหารจากกองกำลังพิทักษ์ชาติไปฟื้นความสงบเรียบร้อยในเคโนชาแล้ว แม้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า มีกำลังเพียงพอควบคุมสถานการณ์ได้ก็ตาม
เหตุการณ์การยิงเบล็คเกิดขึ้นเพียง 3 เดือนของกรณีที่ตำรวจผิวขาวใช้เข่ากดทับคอชายผิวดำ จอร์จ ฟลอยด์ จนเสียชีวิตในเมืองมินนิอาโปลิส และจุดชนวนการประท้วงครั้งใหญ่ทั่วอเมริกา
ในวันพุธ ผู้เล่นทีมบาสเก็ตบอล มิลวอกี บัคส์ ที่มีสนามตั้งอยู่ใกล้ๆ เมืองเคโนชา พากันงดลงสนามเพื่อประท้วงเหตุการณ์นี้ ทำให้สมาคมบาสเก็ตบอลอาชีพของอเมริกา (เอ็นบีเอ) สั่งยกเลิกการแข่งขันทั้ง 3 เกมในวันนั้น
การบอยคอตต์ยังลุกลามไปยังวงการเบสบอล เทนนิส ฟุตบอล และบาสเก็ตบอลหญิงของเอ็นบีเอที่ต้องเลื่อนการแข่งขันเช่นเดียวกัน