เอพี - เกิดเหตุจลาจลในซีแอตเติลและพอร์ตแลนด์ จากการชุมนุมประท้วงที่ต่อเนื่องมานานนับเดือนจากกรณี จอร์จ ฟลอยด์ โดยเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายที่รัฐบาลกลาง ส่งไปควบคุมการประท้วงใช้ทั้งแก๊สน้ำตา ระเบิดแสง และสเปรย์พริกไทยจัดการกับผู้ชุมนุม
เมื่อวันเสาร์ (25 ก.ค.) ตำรวจเมืองซีแอตเติล รัฐวอชิงตัน แถลงผ่านทวิตเตอร์ว่า ได้จับกุมผู้กระทำผิดกว่า 40 คน ในข้อหาขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ทำร้ายเจ้าพนักงาน และไม่ยอมยุติการชุมนุม นอกจากนั้น ยังสอบสวนความเป็นไปได้ว่า กำแพงสถานีตำรวจอีสต์พรีซิงต์ที่ได้รับความเสียหายอาจเกิดจากระเบิด
เจ้าหน้าที่เผยว่า ผู้ประท้วงขว้างก้อนหิน ขวด และจุดพลุเข้าใส่ตำรวจที่พยายามเคลียร์พื้นที่เมื่อคืนวันเสาร์ ทำให้ตำรวจนายหนึ่งถูกสะเก็ดระเบิดที่ขาและต้องนำส่งโรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่ตอบโต้ด้วยแก๊สน้ำตา ระเบิดแสง และสเปรย์พริกไทย
ทั้งนี้ การชุมนุมในช่วงแรกเป็นไปอย่างสงบใกล้ตัวเมืองซีแอตเติล เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับผู้ประท้วงในพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน ที่มีการเผชิญหน้าอย่างตึงเครียดกับเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายของรัฐบาลกลาง ระหว่างการประท้วงที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่เหตุการณ์ที่ตำรวจมินนิอาโปลิส สังหาร จอร์จ ฟลอยด์ เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม
แต่ในเวลาต่อมา ตำรวจซีแอตเติลทวีตว่า ผู้ประท้วงกว่า 10 คน บุกเข้าไปในสถานที่ก่อสร้างสถานกักกันเยาวชนเทศมณฑลคิง ทุบทำลายหน้าต่างและจุดไฟเผา หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้สั่งให้ผู้ชุมนุมสลายตัวออกจากพื้นที่ในบริเวณแคปิตอลฮิลล์ใกล้ตัวเมืองที่เป็นที่ตั้งสถานีตำรวจอีสต์พรีซิงต์ที่ถูกโจมตี
ทั้งนี้ เมื่อต้นเดือน ตำรวจเข้าเคลียร์พื้นที่ “แคปิตอล ฮิลล์ ออกคิวพายด์ โพรเทสต์” หลังเกิดเหตุยิงกัน 2 ครั้ง และมีผู้เสียชีวิต ผู้ประท้วงกลุ่มนี้ยึดพื้นที่หลายช่วงตึกรอบสวนสาธารณะมานาน 2 สัปดาห์ ภายหลังการเผชิญหน้าและการปะทะกับตำรวจ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วอเมริกาจากกรณีฟลอยด์
นอกจากนั้น ก่อนการประท้วงเมื่อวันเสาร์ คาร์เมน เบสต์ ผู้บัญชาการตำรวจซีแอตเติล ยังประกาศห้ามตำรวจใช้แก๊สน้ำตากับผู้ประท้วง พร้อมทั้งเรียกร้องให้ผู้ประท้วงชุมนุมอย่างสันติ
เมื่อคืนวันศุกร์ (24 ก.ค.) เจมส์ โรบาร์ต ผู้พิพากษาศาลแขวงของสหรัฐฯ อนุมัติตามคำขอของรัฐบาลกลางในการคัดค้านกฎหมายใหม่ของซีแอตเติลที่ห้ามตำรวจใช้สเปรย์พริกไทย ระเบิดเทียมเสียง และอาวุธในลักษณะคล้ายกันนี้ เนื่องจากเห็นว่า การห้ามใช้อาวุธควบคุมฝูงชน อาจทำให้ตำรวจต้องใช้กำลังและอาวุธประเภทอื่นที่ร้ายแรงกว่า
ที่พอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน ตำรวจประกาศว่า เกิดเหตุจลาจลเมื่อเวลาประมาณ 1.20 น. วันอาทิตย์ (26 ก.ค.) หลังผู้ประท้วงฝ่าแนวรั้วที่ล้อมรอบศาลของรัฐบาลกลางที่ตั้งอยู่กลางเมือง และเจ้าหน้าที่ตอบโต้ด้วยแก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทย
ชาวเมืองพอร์ตแลนด์ชุมนุมกันทุกคืนต่อเนื่องมานานสองเดือนนับจากการตายของฟลอยด์ โดยเมื่อค่ำวันเสาร์มีผู้ร่วมชุมนุมหลายพันคน และเริ่มเดินขบวนไปยังศาลเมื่อเวลาประมาณ 21.15 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่รักษากฎหมายที่ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ส่งไปยังไม่มีท่าทีล่าถอยเช่นกัน จนกระทั่งเกิดการปะทะในช่วงดึก
เมื่อคืนวันศุกร์ ผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางปฏิเสธคำขอของอัยการใหญ่รัฐออริกอนให้จำกัดปฏิบัติการของตำรวจของรัฐบาลกลาง ขณะเดียวกัน ตำรวจหน่วยรักษาความปลอดภัยของรัฐบาลกลางประกาศว่า การชุมนุมในพอร์ตแลนด์ที่เริ่มต้นเมื่อค่ำวันศุกร์เป็นการชุมนุมโดยผิดกฎหมาย
ช่วงบ่ายวันเสาร์ แฮร์รี่ โฟนส์ โฆษกกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิแถลงรับลูกว่า ผู้ประท้วงบางคนยิงพลุขนาดใหญ่และใช้อาวุธต่างๆ สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินสาธารณะ ขณะที่ เคร็ก เกเบรียล ผู้ช่วยอัยการรัฐออริกอนแถลงว่า นับจากต้นเดือนนี้มีผู้ถูกจับกุมบริเวณศาลรวม 60 คน