xs
xsm
sm
md
lg

‘กรุงโซล’บังคับสวมหน้ากากทั้งใน-นอกอาคาร เพิ่มบังคับการเว้นระยะห่างทางสังคมครอบคลุมทั่วปท. ขณะนิวซีแลนด์ต่อเวลาล็อกดาวน์‘โอกแลนด์’

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ตำรวจเปรูยืนรักษาการณ์อยู่ใกล้ๆ ร่างผู้เสียชีวิต ที่บริเวณด้านนอกของดิสโก้เทคแห่งหนึ่งในกรุงลิมา เมื่อคืนวันอาทิตย์ (23 ส.ค.) ทั้งนี้มีผู้เสียชีวิตไป 13 คน เมื่อนักเที่ยวพากันแตกตื่นหลบหนีจนเหยียบกันตาย หลังตำรวจบุกจู่โจมเนื่องจากดิสโก้เทคแห่งนี้ทำผิดกฎหมายล็อกดาวน์สกัดโควิด-19ระบาด
เอเจนซีส์ – กรุงโซลบังคับประชาชนสวมหน้ากากในที่สาธารณะทั้งในและนอกอาคารเป็นครั้งแรกในวันจันทร์ (24 ส.ค.) เตือนถ้าภายในสัปดาห์นี้สกัดไม่สำเร็จ มีสิทธิ์เผชิญการระบาดขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ขณะที่นิวซีแลนด์ต่อเวลาล็อกดาวน์เมืองโอกแลนด์อีก 4 วันแม้ยอดผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นไม่ถึง 10 คนต่อเนื่อง 3 วันแล้วก็ตาม นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า หนุ่มสาวเปรูกว่า 10 คนเหยียบกันตายขณะหลบหนี หลังละเมิดกฎจัดปาร์ตี้และถูกตำรวจจู่โจมบุกค้น

ประธานาธิบดีมุน แจอินของเกาหลีใต้ กล่าวย้ำในวันจันทร์ (24) ว่า ถ้าไม่สามารถหยุดยั้งการระบาดได้ในขั้นตอนนี้ รัฐบาลจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยกระดับกฎการเว้นระยะห่างทางสังคมเข้าสู่เฟส 3 ซึ่งหมายถึงการปิดโรงเรียนและธุรกิจอันจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจของประเทศ

วันเดียวกันนั้น ศูนย์เพื่อการควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลี (เคซีดีซี) รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อในรอบ 24 ชั่วโมงจนถึงเที่ยงคืนวันอาทิตย์ (23) เป็นจำนวน 266 คน ลดลงจาก 397 คนในวันก่อนหน้า แต่ยังถือเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราเลขสามหลักต่อเนื่องมากว่าสัปดาห์ และรวมแล้วเกาหลีใต้มีผู้ติดเชื้อสะสม 17,665 คน เสียชีวิต 309 คน

แม้ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางจากความสำเร็จในการติดตามผู้สัมผัสโรคในระยะแรก แต่ยุน แตโฮ เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขเผยว่า ในปัจจุบันเจ้าหน้าที่ไม่สามารถระบุเส้นทางการระบาดของผู้ติดเชื้อถึง 20% กระตุ้นความกังวลเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ

ยุนเรียกร้องให้ประชาชนงดออกจากบ้านและยกเลิกการเดินทางที่ไม่จำเป็น และสำทับว่า หากไม่สามารถกดจำนวนผู้ติดเชื้อให้ลดลงได้ภายในสัปดาห์นี้ เชื่อว่า เกาหลีใต้จะเผชิญวิกฤตโรคระบาดขนาดใหญ่มากโดยที่ไวรัสระบาดไปทั่วประเทศ

เจ้าหน้าที่หลายคนเผยว่า มีผู้ติดเชื้อ 875 คนเชื่อมโยงกับโบสถ์คริสต์โปรแตสแตนต์แห่งหนึ่งในกรุงโซล ซึ่งดำเนินการโดยศาสนาจารย์อนุรักษนิยมสุดโต่งที่ต่อต้านรัฐบาล และมีสมาชิกโบสถ์บางส่วนเข้าร่วมการประท้วงและแพร่เชื้อระหว่างการชุมนุม

จอง อึน-คย็อง ผู้อำนวยการเคซีดีซี สำทับว่า ผู้ติดเชื้อ 176 คน ซึ่งรวมถึงตำรวจ 7 คน ติดเชื้อมาจากการชุมนุม

นอกจากออกคำสั่งให้ประชาชนในโซลสวมหน้ากากทั้งในและนอกอาคารแล้ว รัฐบาลยังขยายกฎการเว้นระยะห่างทางสังคมเฟส 2 ครอบคลุมทั่วประเทศ หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มในทั้ง 17 เขต

ภายใต้กฎนี้ จะห้ามการรวมตัวทำกิจกรรมในโบสถ์ ปิดไนต์คลับ บุฟเฟต์ และไซเบอร์คาเฟ่

ทางด้านนิวซีแลน์ด วันจันทร์ นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ประกาศขยายมาตรการล็อกดาวน์เมืองโอกแลนด์ที่จะครบกำหนดในวันพุธ (26) ออกไปอีก 4 วันเป็นวันอาทิตย์ (30) โดยลดระดับมาตรการจำกัดลงจากระดับ 3 เป็นระดับ 2 แต่หันมาบังคับให้ประชาชนทั่วประเทศสวมหน้ากากในที่สาธารณะ

การล็อกดาวน์โอกแลนด์ เมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 11 สิงหาคมหลังพบการระบาดแบบกลุ่มก้อนในประเทศครั้งแรกในรอบกว่า 3 เดือน และขณะนี้มีผู้ติดเชื้อสะสมในเมืองนี้ราว 150 คน อย่างไรก็ดี จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นในอัตราเลขหลักเดียวเป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน

ขณะเดียวกันทางออสเตรเลีย 3 รัฐคือ วิกตอเรีย นิวเซาท์เวลส์ และควีนส์แลนด์ พบผู้ติดเชื้อรวมกันเพียง 121 คนในรอบ 24 ชั่วโมงนับถึงเที่ยงคืนวันอาทิตย์ ซึ่งถือเป็นตัวเลขต่ำสุดนับจากวันที่ 5 กรกฎาคม

สำหรับที่ยุโรป ฝรั่งเศสรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เกือบ 4,900 คนเมื่อวันอาทิตย์ สูงที่สุดนับจากเดือนพฤษภาคมที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และโอลิวิเยร์ เวรอง รัฐมนตรีสาธารณสุข ยอมรับว่า มีความเสี่ยงที่จำนวนผู้ติดเชื้อจะพุ่งขึ้น

อย่างไรก็ดี เขาสำทับว่า สถานการณ์ขณะนี้ไม่เหมือนกับในเดือนกุมภาพันธ์ที่ไวรัสเริ่มระบาดในฝรั่งเศสรอบแรก และรัฐบาลไม่มีแผนบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ใหม่ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ การแพร่เชื้อส่วนใหญ่เกิดขึ้นในงานสังสรรค์ของหนุ่มสาวที่ไม่เคารพกฎการเว้นระยะห่างทางสังคม และอาจนำเชื้อไปแพร่ต่อให้ผู้สูงวัยที่บ้าน

ในอเมริกาใต้ ที่เปรูมีรายงานว่า หนุ่มสาวอย่างน้อย 13 คนเสียชีวิตจากการเหยียบกันตาย หลังจากนักเที่ยวในดิสโก้เทคแห่งหนึ่งในกรุงลิมา พยายามหนีตำรวจที่บุกจับงานปาร์ตี้ละเมิดกฎห้ามการรวมตัวของคนกลุ่มใหญ่เพื่อสกัดการระบาดเมื่อวันเสาร์ (22)

ตำรวจเผยว่า จับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 23 คนที่ร่วมในกิจกรรมที่อาจทำให้เกิดการระบาดใหญ่ และในจำนวนนี้มี 15 คนที่ตรวจพบว่า ติดเชื้อโควิด-19

เปรูเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนารุนแรงที่สุดอันดับ 3 ในละตินอเมริกา รองจากบราซิลและเม็กซิโก โดยมีผู้เสียชีวิต 27,453 คนนับจากที่ไวรัสระบาดในเดือนมีนาคม และผู้ติดเชื้อสะสม 585,000 คน

ตำรวจเยอรมันกำลังเตรียมตัวเพื่อออกตรวจตราที่บริเวณสถานีรถไฟกลาง ในเมืองเอสเสน. เยอรมนี เมื่อวันจันทร์ (24 ส.ค.) ทั้งนี้เยอรมนีกำลังเข้มงวดกวดขันให้ผู้โดยสารถไฟและระบบขนส่งมวลชนทุกคนต้องสวมหน้ากากป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ใครฝ่าฝืนอาจถูกปรับเป็นเงิน 150 ยูโร


กำลังโหลดความคิดเห็น