ซีเอ็นเอ็น - มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 ราย และบาดเจ็บอีก 3 คน ในเหตุเหยียบกันชุลมุนที่ไนต์คลับแห่งหนึ่งในเปรู หลังบรรดานักเที่ยวแตกตื่นหนีตำรวจที่บุกเข้าตรวจค้นสถานที่ ฐานละเมิดมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม สกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จากการเปิดเผยว่า ออร์ลันโด เวลาสโก มูจิกา ผู้บญชากาตำรวจแห่งชาติเปรู
ตำรวจได้รับแจ้งให้ไปยังไนต์คลับ “โธมัส โรสโตบาร์” ในย่านลอส โอลิวอส ในกรุงลิมา เมืองหลวงของเปรู เมื่อช่วงค่ำวันเสาร์ (22 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อสกัดปาร์ตีผิดกฎหมาย ที่มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 120 คน
ตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมที่บังคับในเปรู ห้ามการรวมตัวของคนหมู่มาก และมีการประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศตั้งแต่เวลา 22.00 น. ในความพยายามชะลดการแพร่ระบาดของโควิด-19
กระทรวงมหาดไทยเปรูชี้แจงว่า ตำรวจไม่ได้ใช้อาวุธใดๆ หรือแก๊สน้ำตาในการเข้าเคลียร์สถานที่ และตอนที่ผู้คนเริ่มพากันฮือหลบหนีตำรวจลงจากชั้น 2 ของไนต์คลับ พวกเขาเกิดเหตุชุลมุนเหยียบกันบริเวณบันได
“กระทรวงมหาดไทยเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการเสียชีวิตของประชาชน 13 คน ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากการไร้ความรับผิดชอบของเจ้าของไนต์คลับ” ถ้อยแถลงระบุ
ส่วนตำรวจระบุในถ้อยแถลงว่าได้เริ่มการสืบสวนเพื่อตามล่าหาตัวผู้เป็นเจ้าของไนต์คลับแล้ว รวมถึงพวกที่ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมเผยว่ามีผู้ถูกจับกุม 23 ราย
เปรูเป็นหนึ่งในชาติแรกๆ ของทวีปอเมริกาที่ใช้มาตรการอันเข้มข้นสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ตอนนี้พวกเขากลายเป็นหนึ่งในชาติที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดในละตินอเมริกา ด้วยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมมากกว่า 576,000 คน ในนั้นเสียชีวิต 27,000 ราย
