xs
xsm
sm
md
lg

โตเกียวขอร้องประชาชนงดออกเที่ยว ออสเตรเลียยกระดับล็อกดาวน์เมลเบิร์น ขณะ‘เฟซบุ๊ก-ทวิตเตอร์-ยูทูบ’ลบคลิปทรัมป์บิดเบือนข้อมูล อ้างเด็กมีภูมิคุ้มกันโควิด

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


บรรยากาศบนท้องถนนในกรุงโตเกียวเมื่อวันพฤหัสบดี (6 ส.ค.)  ทั้งนี้มีรายงานว่า ยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการนครโตเกียว เตรียมแถลงข่าวฉุกเฉิน ขอให้ประชาชนอยู่บ้านและจำกัดการเดินทางออกนอกเมืองหลวงให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ในระหว่างเทศกาลวันหยุดยาวปลายสัปดาห์หน้า (13-16) เพื่อช่วยชะลอสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19
เอเจนซีส์ – เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และยูทูบ พร้อมใจลบคลิปของ “ทรัมป์” ซึ่งมีเนื้อหาผิดๆ อ้างว่า เด็กๆ เป็นกลุ่มอายุที่แทบจะเรียกได้ว่ามีภูมิต้านทานไวรัสโคโรนาอยู่แล้ว ขณะเดียวกันสถานการณ์การระบาดในหลายประเทศเอเชียยังหน้าสิ่วหน้าขวาน ผู้ว่าการโตเกียวเตรียมแถลงข่าวขอให้ประชาชนงดออกจากบ้านในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวปลายสัปดาห์หน้า ส่วนเวียดนามคาดการระบาดอาจถึงจุดสูงสุดใน 10 วันข้างหน้า และฟิลิปปินส์แซงอินโดนีเซียกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดในเอเชียตะวันออก สำหรับออสเตรเลียยกระดับการล็อกดาวน์เมืองเมลเบิร์น

ในวันพุธ (5 ส.ค.) โซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ 3 แห่งของอเมริกา ได้แก่ เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และยูทูบ พร้อมใจขัดขวางประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากสิ่งที่ทั้งสามระบุว่า เป็นการให้ข้อมูลผิดๆ เกี่ยวกับโควิด-19 ด้วยการลบคลิปวิดีโอคลิปหนึ่งจากบัญชีของทรัมป์และทีมหาเสียงของประธานาธิบดี เนื่องจากในคลิปดังกล่าวซึ่งบันทึกตอนที่ทรัมป์ให้สัมภาษณ์รายการฟ็อกซ์ แอนด์ เฟรนด์ส ของฟ็อกซ์ทีวีในวันเดียวกันนั้น ทรัมป์อ้างว่า เด็กเกือบจะมีภูมิต้านทานไวรัสโครานาอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว

ทางด้านทีมหาเสียงของทรัมป์ออกมากล่าวหาบริษัทเหล่านี้อคติต่อประธานาธิบดี และยืนยันว่า สิ่งที่ทรัมป์พูดเป็นข้อเท็จจริง

อย่างไรก็ดี ศูนย์กลางเพื่อการควบคุมและการป้องกันโรคของสหรัฐฯ (ซีดีซี) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการรับมือโรคติดต่อของทางการสหรัฐฯ ระบุว่า แม้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่รับรู้ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนวัยผู้ใหญ่ แต่ก็มีเด็กและทารกป่วยเป็นโรคนี้และสามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้ ขณะที่ข้อมูลการวิเคราะห์ขององค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่า ในบรรดาผู้ติดเชื้อ 6 ล้านคนระหว่างวันที่ 24 ก.พ. ถึง 12 ก.ค. มีเด็กอายุ 5-14 ปีราว 4.6%

ทางด้านทำเนียบขาวไม่ได้แสดงความคิดเห็นทันทีเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ระหว่างการแถลงข่าวสั้นๆ ในทำเนียบขาว ทรัมป์ย้ำว่า ไวรัสโคโรนาเป็นอันตรายต่อเด็กน้อยมากโดยอ้างอิงอัตราการเสียชีวิต

ทั้งนี้ สถานการณ์การระบาดในอเมริกายังไม่มีทีท่าทุเลาลง เฉพาะวันพุธมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1,262 คน เป็น 157,930 คน และติดเชื้ออีก 53,183 คน เป็นกว่า 4.8 ล้านคน

นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า พบนักโทษในเรือนจำเอเอสพีซี-ทูซอน เว็ตสโตนของรัฐแอริโซนากว่า 500 คน หรือเกือบครึ่งหนึ่ง ติดเชื้อ รวมแล้วรัฐนี้มีนักโทษที่ติดเชื้อ 1,429 คน จากจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดในรัฐกว่า 180,000 คน

ส่วนที่รัฐแคลิฟอร์เนียพบนักโทษเสียชีวิตจากไวรัสโคโรนา 51 คน ระหว่างปลายเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนนี้ สำหรับยอดสะสมผู้ติดเชื้อของทั้งรัฐอยู่ที่กว่า 524,000 คน และเสียชีวิต 9,700 คน

ในส่วนสถานการณ์การระบาดในเอเชียนั้น กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์รายงานเมื่อวันพฤหัสฯ (6) พบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 28 คน เป็น 2,150 คน และติดเชื้อรายใหม่ 3,561 คน รวมยอดสะสมเป็น 119,460 คน แซงอินโดนีเซีย กลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในเอเชียตะวันออก

ที่เวียดนาม เหวียน เจือง เซิน รัฐมนตรีช่วยสาธารณสุข กล่าวเมื่อวันพฤหัสฯ ว่า การระบาดในเวียดนามอาจถึงจุดสูงสุดใน 10 วันข้างหน้า

ทั้งนี้ ดานัง เมืองใหญ่อันดับ 3 ของเวียดนาม ซึ่งกำลังเป็นศูนย์กลางการระบาดของโควิด-19 ในเวลานี้ เพิ่งเสร็จสิ้นการดัดแปลงสนามกีฬาให้เป็นโรงพยาบาลชั่วคราวขนาด 700 เตียงในวันพุธ โดยโรงพยาบาลแห่งนี้ยังสามารถขยายเพิ่มเพื่อรองรับผู้ป่วยสูงสุด 3,000 เตียง

วันพฤหัสฯ เวียดนามรายงานว่า พบผู้เสียชีวิต 1 คน เป็นหญิงวัย 67 ปีที่มีโรคประจำตัวอยู่ก่อนแล้ว รวมจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมทั้งหมด 9 คน

นับจากที่ไวรัสกลับมาระบาดในเวียดนามเมื่อสองสัปดาห์ก่อน พบผู้ติดเชื้อภายในท้องถิ่น 270 คน ส่วนใหญ่ติดเชื้อมาจากโรงพยาบาลหลายแห่งในดานัง นับจากนั้นไวรัสลามไปยังจังหวัดและเทศบาล 11 แห่ง ซึ่งรวมถึงโฮจิมินห์ซิตี้ที่มีผู้ติดเชื้อ 8 คน และฮานอย 3 คน

บุคลาการทางแพทย์สวมชุดป้องกันพร้อมสรรพ ขณะนำร่างผู้เสียชีวิตออกมา  ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันพฤหัสบดี (6 ส.ค.)  โดยที่เวลานี้ฟิลิปปินส์แซงหน้าอินโดนีเซียไปแล้ว กลายเป็นประเทศซึ่งมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ สูงที่สุดในแถบเอเชียตะวันออก
สำหรับที่ญี่ปุ่น ฟูจิ นิวส์ เน็ตเวิร์กรายงานว่า ยูริโกะ โคอิเกะ
ผู้ว่าการนครโตเกียว เตรียมแถลงข่าวฉุกเฉินในช่วงเย็นวันพฤหัสฯ
เพื่อขอให้ประชาชนอยู่บ้านและจำกัดการเดินทางออกนอกเมืองหลวงให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ในระหว่างเทศกาลวันหยุดยาวปลายสัปดาห์หน้า
(13-16)
เพื่อช่วยชะลอสถานการณ์การระบาดที่กดดันให้ผู้ว่าการหลายจังหวัดประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ แถลงในวันเดียวกันว่า
ญี่ปุ่นยังไม่อยู่ในสถานการณ์ที่จำเป็นต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศครั้งใหม่

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อใหม่เฉลี่ยวันละ 1,300 คน
รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสมประมาณ 43,500 คน และเสียชีวิตกว่า 1,000 คน

ในวันพุธ
สมาคมแพทย์ชั้นนำของญี่ปุ่นแถลงคัดค้านแผนกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศที่รัฐบาลริเริ่มเมื่อเดือนที่แล้ว
และสำทับว่า
รัฐบาลท้องถิ่นควรตัดสินใจบังคับใช้มาตรการจำกัดเข้มงวดได้ด้วยตัวเอง
อย่างเช่นที่จังหวัดโอกินาวะและไอจิ ซึ่งต่างได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

สำหรับออสเตรเลีย เมลเบิร์น เมืองใหญ่อันดับ 2
ของแดนจิงโจ้และเป็นเมืองเอกของรัฐวิกตอเรีย
เริ่มการล็อกดาวน์แบบสมบูรณ์นาน 6 สัปดาห์ในวันพฤหัสฯ ขณะที่มีรายงานว่า
พบผู้ติดเชื้อใหม่ 471 คน และเสียชีวิต 8 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ทั่วทั้งรัฐวิกตอเรีย
พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 725 คน และเสียชีวิต 15 คน
รวมแล้วรัฐนี้มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในออสเตรเลียคือกว่า 13,000 คน จาก
20,000 คนทั่วประเทศ

การระบาดครั้งใหม่ในวิกตอเรียสร้างความกังวลว่า โควิดจะลุกลามไปยังรัฐอื่นๆ
โดยรัฐนิวเซาท์เวลส์พบเคสใหม่ 12 คนในวันพุธ ส่วนรัฐและดินแดนอื่นๆ
ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่ม
กำลังโหลดความคิดเห็น