เอเจนซีส์ – สภาคองเกรสส์จวกบอสบริษัทไฮเทค แอมะซอน , แอปเปิล , เฟซบุ๊ก และกูเกิล “อำนาจล้นเหลือ” เซ็นเซอร์วาทะการเมือง กระจายข่าวปลอม และ “เข่นฆ่า” เศรษฐกิจอเมริกา
เจฟฟ์ เบโซส แห่งแอมะซอน, ทิม คุก จากแอปเปิล, มาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก ของเฟซบุ๊ก และซันดาร์ พิชัย จากอัลฟาเบต บริษัทแม่ของกูเกิล ถูกซักถามอย่างดุเดือด ระหว่างให้การต่อคณะอนุกรรมการต่อต้านการผูกขาด ของคณะกรรมาธิการตุลาการ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ (29 ก.ค.)
คณะอนุกรรมการชุดนี้สอบสวนการครอบงำ ผูกขาดโลกออนไลน์ ของบริษัทไฮเทคมากว่าปี ขณะที่สมาชิกพรรครีพับลิกันกล่าวหาบริษัทเหล่านี้ว่า ปิดกั้นการแสดงออกของกลุ่มอนุรักษนิยมและพยายามทำให้ชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อปี 2016 ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นโมฆะ
เดวิด ซิซิลีน ประธานคณะอนุกรรมการจากพรรคเดโมแครต เปิดการไต่สวนในข้อกล่าวหาว่า กูเกิลเข้าควบคุมและนำเนื้อหาของธุรกิจขนาดเล็กไปแสดงบนหน้าเพจของตัวเอง
พิชัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (ซีอีโอ) อัลฟาเบต ถึงกับอึ้งเมื่อซิซิลีนอ้างอิงกรณีที่กูเกิลนำรีวิวบนเยลป์ไปโพสต์บนหน้าของตัวเอง เมื่อเยลป์ขอให้กูเกิลยุติการกระทำดังกล่าว กลับถูกข่มขู่ว่าจะถอดออกจากรายการค้นหาทั้งหมดของกูเกิล ซิซิลีนทิ้งท้ายว่า หลักฐานที่พบเห็นได้ชัดว่า กูเกิลได้กลายเป็นเกตเวย์สู่อินเทอร์เน็ต และเริ่มลุแก่อำนาจ ซึ่งสร้างความเสียหายใหญ่หลวงทางต่อบริษัทอื่นๆ
ด้านซัคเคอร์เบิร์กถูกจี้ถามเรื่องที่เฟซบุ๊กเข้าซื้ออินสตาแกรมในปี 2012 ซึ่งจากเอกสารภายในบ่งชี้ว่า ยักษ์ใหญ่โซเชียลเน็ตเวิร์กแห่งนี้เดินหมากดังกล่าวเพื่อยุติภัยคุกคามในการแข่งขันจากอินสตาแกรม ซึ่งเจอร์รี แนดเลอร์ สมาชิกคณะอนุกรรมการชี้ว่า การซื้อกิจการของเฟซบุ๊กเข้าข่ายต่อต้านการแข่งขัน
ซัคเคอร์เบิร์กแก้ต่างว่า เฟซบุ๊กช่วยให้อินสตาแกรมยกระดับโครงสร้างพื้นฐานและการรักษาความปลอดภัย ส่งผลให้บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็ว
จิม เซนเซนเบรนเนอร์ ส.ส.รีพับลิกัน ถามซักเคอร์เบิร์กว่า ทำไมการแสดงความคิดเห็นเชิงอนุรักษนิยมจึงถูก “เซ็นเซอร์” บนเฟซบุ๊ก โดยอ้างอิงกรณีที่คลิปที่โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของประธานาธิบดี แชร์ถูกลบด้วยเหตุผลว่า มีข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเมื่อไม่กี่วันมานี้ ซัคเคอร์เบิร์กได้อธิบายอย่างสุภาพว่า ทวิตเตอร์ต่างหากที่ปิดกั้นไม่ให้ทรัมป์โพสต์คลิปที่ว่า
ส่วนเบโซสถูกซักไซ้ว่า แอมะซอนใช้ข้อมูลจากผู้ขายภายนอกในการตัดสินใจเกี่ยวกับการขาย รวมทั้งเลือกจัดส่งผลิตภัณฑ์ของตัวเองก่อนในช่วงที่เกิดโรคระบาดหรือไม่
เบโซสที่ติดอันดับคนรวยที่สุดในโลก แถลงเปิดการให้การโดยตั้งข้อสังเกตว่า แอมะซอนลงทุนในอเมริกาถึง 270,000 ล้านดอลลาร์และสร้างงานหลายพันตำแหน่งในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
คุก ซีอีโอแอปเปิล ถูกซักในประเด็น การกำหนดและเปลี่ยนแปลงกฎที่ควบคุมแอปสโตร์ตลอดเวลา และคาดหวังให้นักพัฒนาปฏิบัติตามหรือไม่ก็ออกจากแอปสโตร์
บิ๊กบอสแอปเปิลยืนยันว่า แอปสโตร์ไม่ได้ผูกขาดธุรกิจเพราะไม่ได้เรียกเก็บเงินจากแอปส่วนใหญ่ และแอปเปิลไม่ได้ขึ้นค่าคอมมิชชันกับแอปต่างๆ ตั้งแต่ปี 2008
ทั้งนี้ ทรัมป์ที่โจมตีบริษัทเทคโนโลยีบ่อยครั้ง เคยขู่ไว้ก่อนที่คณะอนุกรรมาธิการชุดนี้จะเปิดการซักถามว่า ถ้าคองเกรสส์ไม่จัดการให้บิ๊กเทคทำธุรกิจอย่างเป็นธรรม เขาจะใช้คำสั่งฝ่ายบริหารจัดการเอง
ทรัมป์โจมตีบริษัทเทคโนโลยีบ่อยขึ้น หลังจากทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กพยายามตรวจสอบข้อเท็จจริงและลบโพสต์ที่มีข้อมูลไม่ถูกต้องของทรัมป์ออกจากแพล็ตฟอร์ม ผู้นำสหรัฐฯ ยังกล่าวหาสองบริษัทนี้เซ็นเซอร์การแสดงความคิดเห็นของกลุ่มอนุรักษนิยม แถมโจมตีเบโซสและแอมะซอนหลายต่อหลายครั้ง เนื่องจากเบโซสเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ที่วิจารณ์ทรัมป์เป็นประจำ
สมาชิกรีพับลิกันขานรับทรัมป์ โดยเรียกร้องให้ยุติวัฒนธรรมม็อบ และตั้งคำถามกับการตัดสินใจของแพล็ตฟอร์มโซเชียลในการลบเนื้อหาเกี่ยวกับยารักษาโรคมาเลเรีย ไฮดร็อกซีคลอโรควิน ที่ทรัมป์ยกย่องว่ารักษาโควิด-19 ได้