เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – ทีมกฎหมายของบุตรสาวผู้ก่อตั้งบริษัทโทรคมนาคมหัวเว่ยแถลงเมื่อวานนี้(27
ก.ค)ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ต่อศาลรัฐบาลกลางแคนาดาในกรุงออตตาวา
เรียกร้องให้มีการเปิดเผยเอกสารสำคัญที่จะพิสูจน์ได้ว่าทางแคนาดาสมคบคิดกับFBI สหรัฐฯเพื่อจับกุม เมิ่ง หว่าน โจว หลังก่อนหน้าธนาคาร HSBC ชื่อดังออกมาโต้ข้อกล่าวหาช่วยวอชิงตันวางกับดักจัดการหัวเว่ย
เอเอฟพีรายงานเมื่อวานนี้(27ก.ค)ว่า เอกสารสำคัญที่ทางทีมกฎหมายของเมิ่ง
หว่านโจวต้องการให้เปิดเผยนั้นทางทีมกฎหมายอ้างว่า จะสามารถพิสูจน์ได้ว่าแคนาดาร่วมมือกับFBI
สหรัฐฯเพื่อให้ลูกความตกหลุมพราง
ซึ่งระหว่างการพิจารณาผ่านทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ต่อหน้าศาลรัฐบาลกลางแคนาดาที่กรุงออตตาวาเมื่อวานนี้(27)
ทีมกฎหมายเรียกร้องให้มีการเปิดเผยทั้งหมดของเอกสารที่มีการถูกเซ็นเซอร์ก่อนและหลังการจับกุมบุตรสาวผู้ก่อตั้งบริษัทหัวเว่ย แต่ฉบับที่มีการปกปิดนั้นได้มีการเปิดเผยก่อนหน้าแล้ว
โดยทางทีมกฎหมายเมิ่งอ้างว่า การเปิดเผยเอกสารฉบับเต็มจะสามารถพิสูจน์ได้ถึงแผนการสมรู้ร่วมคิดระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯและเจ้าหน้าที่แคนาดาได้ สกอตต์ เฟนตัน (Scott Fenton) หนึ่งในทีมกฎหมายแถลงต่อศาลวันจันทร์(27)ว่า
เมิ่ง หว่านโจว ลูกความถูกสอบปากคำเป็นเวลา 3 ชั่วโมงโดยเจ้าหน้าที่ศุลกากรแคนาดาที่ท่าอากาศยานแวนคูเวอร์โดยที่เจ้าตัวไม่ทราบถึงข้อกล่าวหาก่อนที่จะมีการจับกุมตามกฎหมาย
และเขาได้ชี้ว่า นั่นเป็นการละเมิดต่อสิทธิของเธอและถือเป็นข้ออ้างที่สมเหตุสมผลในการหยุดกระบวนการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน
“เธอไม่เคยถูกบอกถึงเหตุผลของการถูกควบคุมตัว” เฟนตันกล่าวและเสริมว่า “เธอถูกทำให้เข้าใจผิด และในความเป็นจริงแล้วเธอถูกทำให้ตกหลุมพราง”
ทั้งนี้ในแถลงการภายใต้การสาบานต่อศาลแวนคูเวอร์เดือนกรกฎาคม
เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศแคนาดาระบุว่า การเปิดเผยเอกสารทั้งหมดอาจสามารถสร้างความตรึงเครียดครั้งใหม่ให้กับทั้ง 2 ประเทศและอาจทำให้ “แคนาดา”ตกอยู่ในอันตราย
ด้าน ธนาคารHSBC ยักษ์ใหญ่ของโลกล่าสุดออกมาปฎิเสธข้อกล่าวหาจากสื่อจีนที่อ้างว่า
ทางธนาคารร่วมมือกับสหรัฐฯในการจัดฉากเพื่อจัดการหัวเว่ย
CNN สื่อสหรัฐฯรายงานเมื่อวานนี้(27)ชี้ว่า สุดสัปดาห์ล่าสุด HSBC ที่มีฐานอยู่ในกรุงลอนดอนออกมาชี้แจงปฎิเสธผ่านทางโปรแกรมวีแชต(WeChat) ซึ่งเป็นโซเชียลมีเดียของจีนระบุว่า ทางธนาคารไม่ได้สร้างความเป็นปฎิปักษ์ต่อบริษัทหัวเว่ยของจีน
ทั้งนี้สื่อรัฐบาลจีนกล่าวหา HSBCว่า ทางธนาคารได้วางแผนเพื่อให้ทางหัวเว่ยติดกับดักในการสู้ทางกระบวนการยุติธรรมกับสหรัฐฯ
สื่อสหรัฐฯชี้ว่า HSBC สามารถทำกำไรได้มากกว่าครึ่งของตัวเองในจีนและฮ่องกง
ซึ่งในปีที่ผ่านมาสื่อรัฐบาลจีนได้ออกมาโจมตีโดยชี้ว่า HSBC ว่ามีบทบาทเป็นอย่างมากต่อการจับกุมตัว เมิ่ง หว่านโจว
บทบาทของ HSBC ที่สมคบคิดกับสหรัฐฯถูกเปิดเผยล่าสุดในสัปดาห์ที่แล้วเกิดขึ้นหลังจากเอกสารทางกฎหมายชิ้นใหม่ที่ยื่นโดยทีมกฎหมายลูกสาวหัวเว่ยนั้นถูกแสดงต่อสาธารณะ
ทีมกฎหมายพยายามที่จะพิสูจน์ว่า HSBC รู้อยู่แล้วว่าหัวเว่ยนั้นมีการดำเนินการอยู่ในอิหร่านและหัวเว่ยและสกายคอม(Skycom)ได้มีการทำธุรกิจในประเทศ และทางทีมกฎหมายเมิ่งกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯได้ข้อมูลจากพาวเวอร์พอยต์ที่หัวเว่ยได้ให้ธนาคารHSBC ในปี 2013
ทางทีมกฎหมายได้ยื่นพาวเวอร์พอยต์ฉบับเต็มที่พวกเขากล่าวว่า เป็นการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความสัมพันธ์ของหัวเว่ยต่อสกายคอมและธุรกิจของตัวเองในอิหร่าน อ้างอิงจากการยื่นต่อศาล
และในพาวเวอร์พอยต์ยังชี้ว่า หัวเว่ยดำเนินกิจการในอิหร่านเป็นไปตามข้อจำกัดกฎหมาย กฎเกณฑ์ และมาตรการคว่ำบาตร
“HSBC ดังนั้นแล้วจึงทราบว่าทั้งหัวเว่ยและสกายคอมทำงานร่วมกันในอิหร่าน” อ้างอิงจากเอกสารฟ้อง
ทั้งนี้หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลีฉบับวันศุกร์(24)ได้เรียก HSBC ว่า “ผู้สมคบคิด” ในคดีนี้ ส่วนพีเพิลส์ เดลี
กระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนออกมาสำทับว่าHSBC นั้นทำข้อมูลเกินจริงและปกปิดความจริง
และในการตอบโต้ ธนาคารHSBC แถลงว่า ธนาคารไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจของสหรัฐฯในการดำเนินคดีทางกฎหมายต่อหัวเว่ยหรือการขอให้แคนาดาจับกุมเมิ่ง โดยชี้ว่า
“จากเงื่อนเวลาในคดีหัวเว่ยนั้นแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า
HSBC ไม่ได้ทำให้เกิดการสอบสวนต่อหัวเว่ย และสหรัฐฯได้เริ่มต้นสอบสวนหัวเว่ยย้อนไปไกลก่อนที่ทาง HSBC จะติดร่างแหในคดีนี้เมื่อปลายปี 2016”
และเสริมต่อว่า “HSBC ไม่ได้มุ่งร้ายต่อหัวเว่ยและไม่ได้ทำการจัดฉากหัวเว่ย”