เอเจนซีส์ – ทรัมป์ปราศรัยวันชาติดุเดือด ย้ำจะกวาดล้าง “กลุ่มซ้ายจัด” พร้อมประณามการประท้วงต่อต้านอนุสาวรีย์บุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ว่า เป็นความพยายามทำลายอเมริกา นอกจากนี้ยังอ้างว่า ผู้ติดเชื้อในประเทศ 99% “ไม่เป็นอันตรายโดยสิ้นเชิง” แถมปัดความรับผิดชอบจากความล้มเหลวในการจัดการวิกฤตไวรัสโคโรนาโดยย้ำว่า เป็นความผิดของจีนที่ไม่สามารถควบคุมการระบาดได้
คณะบริหารสหรัฐฯ จัดแสดงพลุที่เนชันแนล มอลล์เมื่อวันเสาร์ (4 ก.ค.) เนื่องในวันชาติของอเมริกา หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ปราศรัย แม้เมอรีล บาวเซอร์ นายกเทศมนตรีวอชิงตัน เตือนว่า การที่ฝูงชนจำนวนมากไปรวมตัวดูพลุอาจฝ่าฝืนแนวทางป้องกันการระบาดก็ตาม
นอกจากผู้ที่เดินทางไปชมพลุแล้ว ยังมีนักเคลื่อนไหวจากกลุ่มต่างๆ ที่ไม่สนใจคำเตือนด้านสาธารณสุข เช่น กลุ่มนักปั่น รอร์ ออฟ เดอะ ดิพลอเรเบิลส์ ที่ชักชวนกันชุมนุมประท้วงกลุ่มต่อต้านคณะบริหารทรัมป์ และฉลองวันชาติ รวมถึงกลุ่มฟรีด้อม ไฟเตอร์ส์ ดีซี ซึ่งเป็นกลุ่มใหม่ที่พยายามรวบรวมการสนับสนุนจากคนชาติพันธุ์ต่างๆ โดยเฉพาะคนดำในวอชิงตัน
ขณะเดียวกัน ไม่ไกลจากสถานที่ที่ทรัมป์ปราศรัยมากนัก ผู้ประท้วงร่วมเดินขบวนอย่างสงบและปิดกั้นถนนหลายสายรอบๆ ทำเนียบขาว, แบล็กไลฟ์แมตเทอร์พลาซา และอนุสาวรีย์ลินคอล์น และเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้ประท้วงฝ่ายตรงข้ามที่ตะโกน “อเมริกา! อเมริกา!” แต่ไม่มีรายงานเหตุการณ์รุนแรงแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ชาวอเมริกันนับล้านคนชุมนุมต่อต้านการใช้ความรุนแรงของตำรวจและความไม่เท่าเทียมด้านเชื้อชาตินับจากวันที่ 25 พฤษภาคมที่เกิดเหตุตำรวจผิวขาวในมินนิอาโปลิสใช้เข่ากดคอจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำวัย 46 ปี นานเกือบ 9 นาทีจนเสียชีวิต
นอกจากกดดันให้มีการปฏิรูปสำนักงานตำรวจสำเร็จในบางเมือง ผู้ประท้วงบางกลุ่มยังทำลายอนุสาวรีย์ผู้นำสมาพันธรัฐอเมริกาและสัญลักษณ์อื่นๆ ของระบบทาสในอเมริกา
ทรัมป์โจมตีว่า ตลอดเวลามักมีคนกลุ่มหนึ่งที่พยายามบิดเบือนประวัติศาสตร์เพื่อให้ได้ครอบครองอำนาจในปัจจุบัน และต้องการให้คนอเมริกันละอายรากเหง้าของตัวเอง
คำปราศรัยวันชาติของทรัมป์ดุเดือดกว่าเมื่อคืนวันศุกร์ (3 ก.ค.) ที่เมาต์รัชมอร์ รัฐเซาธ์ดาโกตา ที่เขากล่าวหา “ม็อบที่เกรี้ยวกราด” พยายามลบล้างประวัติศาสตร์ ทรัมป์ยังสร้างภาพตัวเองเป็นป้อมปราการต่อต้านฝ่ายซ้ายสุดโต่ง
ขณะที่เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนจะถึงกำหนดเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายน โพลล์หลายสำนักระบุว่า ทรัมป์มีคะแนนไล่ตามอดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ในหลายรัฐสำคัญ
ไบเดนนั้นได้เผยแพร่ข้อความแสดงความคิดเห็นเนื่องในวันชาติโดยมีเนื้อหาตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับทรัมป์ โดยกล่าวหาประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันผู้นี้ว่า กำลังค้นหาวิธีการใหม่ๆ ในการทำลายประชาธิปไตยของอเมริกาทุกวัน
ระหว่างปราศรัย ทรัมป์ยังอวดอ้างว่า อเมริกาจะมีวัคซีนหรือวิธีรักษาโควิด-19 ก่อนสิ้นปีนี้ ซึ่งหากเป็นจริงจะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจอเมริกา รวมถึงโอกาสที่ทรัมป์จะได้ครองทำเนียบขาวต่ออีกสมัย
ทั้งนี้ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (2 ก.ค.) เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านสาธารณสุขของอเมริกาคนหนึ่งมองแง่ดีว่า โปรแกรมเร่งรัดการพัฒนาวัคซีนของคณะบริหารในชื่อ “Operation Warp Speed” จะประสบความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการจัดการกับโควิด-19 ภายในสิ้นปีนี้
นอกจากนั้นทรัมป์ยังอ้างว่า ผู้ติดเชื้อในประเทศ 99% “ไม่อันตรายโดยสิ้นเชิง” ทั้งที่ล่าสุดหลายรัฐพบเคสใหม่พุ่งขึ้นทำสถิติ เฉพาะเทกซัสรัฐเดียวมีผู้ป่วยโควิดที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลถึง 7,890 คน และพบเคสใหม่ 238 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ทรัมป์ที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่า จัดการวิกฤตโรคระบาดผิดพลาด ยังปัดความรับผิดชอบโดยย้ำว่า เป็นความผิดของจีนที่ไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ตั้งแต่ต้น