xs
xsm
sm
md
lg

In Pics : ‘ทรัมป์’ ปราศรัยวันชาติที่ ‘เขารัชมอร์’ จวกม็อบฝ่ายซ้ายรื้อรูปปั้น ‘ทำลายประวัติศาสตร์อเมริกัน’

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ขึ้นเวทีปราศรัยต่อผู้สนับสนุนหลายพันคนที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติเขารัชมอร์ (Mount Rushmore) ในรัฐเซาท์ดาโกตาเมื่อวานนี้ (3 ก.ค.) โดยประณามพวก “ม็อบคลั่ง” ที่รื้อถอนรูปปั้นผู้นำฝ่ายสมาพันธรัฐและบุคคลสำคัญต่างๆ ว่ามีเจตนา “ทำลายประวัติศาสตร์อเมริกา”

ขณะเดียวกัน ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ก็เริ่มจู่โจมมาถึงคนใกล้ชิด ทรัมป์ โดยมีรายงานว่า คิมเบอร์ลี กิลฟอยล์ (Kimberly Guilfoyle) เจ้าหน้าที่อาวุโสในทีมหาเสียงซึ่งเป็นแฟนสาวรุ่นพี่ของ ‘โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์’ ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ก่อนที่งานปราศรัยจะเริ่มขึ้น ส่วนตัว ทรัมป์ จูเนียร์ เองยังคงมีผลตรวจเป็นลบ

กิจกรรมหาเสียงคราวนี้มีผู้สนับสนุน ทรัมป์ เข้าร่วมประมาณ 7,500 คนอัดแน่นเต็มอัฒจันทร์ และหลายคนไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย

ทรัมป์ซึ่งยืนอยู่เบื้องล่างประติมากรรมรูปสลักใบหน้าอดีตผู้นำสหรัฐฯ 4 คนเตือนว่า การประท้วงต่อต้านความไม่เท่าเทียมทางเชื้อชาติกำลัง “บั่นทอนรากฐานของระบบการเมืองอเมริกัน”

“รู้เอาไว้ด้วยว่า การปฏิวัติวัฒนธรรมของพวกฝ่ายซ้ายมีจุดประสงค์เพื่อทำลายการปฏิวัติอเมริกัน” ทรัมป์ กล่าว “ลูกหลานเรากำลังถูกสอนในโรงเรียนให้ชังชาติตัวเอง”

ทรัมป์ ยังประกาศแผนสร้าง “สวนวีรบุรุษอเมริกันแห่งชาติ” (National Garden of American heros) ซึ่งจะเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มี “รูปปั้นของชาวอเมริกันผู้ยิ่งใหญ่ที่เคยมีชีวิตอยู่” แต่ก็ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

การประท้วงที่ปะทุขึ้นทั่วสหรัฐฯ ในช่วงหลายสัปดาห์มานี้มีสาเหตุมาจากการตายของ ‘จอร์จ ฟลอยด์’ หนุ่มผิวสีซึ่งถูกตำรวจมินนีอาโปลิสใช้เข่ากดคอจนเสียชีวิตระหว่างการจับกุมเมื่อวันที่ 25 พ.ค. การจากไปของ ฟลอยด์ ได้กระพือความโกรธแค้นต่อการที่ตำรวจสหรัฐฯ มักใช้กำลังเกินกว่าเหตุต่อคนผิวสี และผู้ประท้วงในหลายเมืองได้ระบายความคลั่งแค้นด้วยการไปรื้อทำลายรูปปั้นผู้นำฝ่ายสมาพันธรัฐซึ่งสนับสนุนการค้าทาสในยุคสงครามกลางเมืองปี 1861-1865

“ม็อบที่โกรธแค้นพวกนี้พยายามรื้อรูปปั้นผู้ก่อสร้างชาติอเมริกัน ทำลายอนุสรณ์สถานศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของเรา และกระตุ้นให้เกิดอาชญากรรมความรุนแรงขึ้นในเมืองต่างๆ” ทรัมป์ กล่าว

ทรัมป์ ปฏิเสธข้อเรียกร้องให้เปลี่ยนชื่อฐานทัพต่างๆ ที่ถูกขนานนามตามชื่อของนายพลฝ่ายสมาพันธรัฐ และยังขู่จะลงโทษสถานหนักต่อใครก็ตามที่ทำลายรูปปั้นบุคคลสำคัญเหล่านี้

อนุสรณ์สถานแห่งชาติเขารัชมอร์เป็นสถานที่ตั้งประติมากรรมแกะสลักใบหน้าอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ 4 คนบนหน้าผา ซึ่งประกอบด้วย จอร์จ วอชิงตัน ประธานาธิบดีคนแรก, โทมัส เจฟเฟอร์สัน ประธานาธิบดีคนที่ 3, ธีโอดอร์ รูสเวลต์ ประธานาธิบดีคนที่ 26 และอับราฮัม ลินคอล์น ประธานาธิบดีคนที่ 16

สถานที่แห่งนี้ไม่เคยจุดพลุไฟมาตั้งแต่ปี 2009 สืบเนื่องจากความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม แต่ ทรัมป์ สนับสนุนให้กลับมาแสดงพลุไฟอีกครั้ง ขณะที่ทางรัฐก็บอกว่าพื้นที่โดยรอบป่าแห่งชาติแบล็กฮิลส์ (Black Hills National Forest) ได้ฟื้นกลับมามีสภาพสมบูรณ์แล้ว และปัจจุบันเทคโนโลยีพลุไฟก็มีความล้ำสมัย

ผู้ประท้วงชาวอเมริกันพื้นเมืองหลายคนถูกจับกุมหลังพยายามออกมาปิดถนนที่เข้าสู่เขารัชมอร์ โดยคนเหล่านี้วิจารณ์การมาเยือนของ ทรัมป์ ว่าจะกระตุ้นการระบาดของโควิด-19 และไม่ใช่เรื่องเหมาะสมที่ผู้นำสหรัฐฯ จะมาเฉลิมฉลองวันชาติในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของพวกตน










กำลังโหลดความคิดเห็น