นิวยอร์กโพสต์ - ชายชราชาวนิวยอร์กวัย 75 ปีคนหนึ่งซึ่งถูกตำรวจสหรัฐฯ ผลักล้มศีรษะกระแทกพื้นระหว่างการประท้วงต่อต้านเหยียดผิวเมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายน ได้รับบาดเจ็บรุนแรงถึงขั้นกะโหลกร้าวและยังไม่สามารถลุกเดินได้ จากการเปิดเผยของทนายความส่วนตัวเมื่อวันอังคาร (16 มิ.ย.) ข้อเท็จจริงที่สวนทางกับการสันนิษฐานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่บ่งชี้ว่ามันอาจเป็นการจัดฉาก
เคลลี ซาร์โคเน ทนายความของ มาร์ติน กูกิโน เปิดเผยว่าลูกความของเธอได้รับบาดเจ็บกะโหลกร้าว ในเหตุเผชิญหน้ากับตำรวจเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ฉากแห่งความรุนแรงที่ผู้เห็นเหตุการณ์บันทึกภาพเอาไว้ได้
“ฉันไม่มีสิทธิ์ให้ข้อมูลเพิ่มเติมในเวลานี้ นอกเหนือไปจากข้อมูลที่ว่าเขากะโหลกร้าว” ซาร์โคเนบอกกับซีเอ็นเอ็น “ในขณะที่เขายังลุกเดินไม่ได้ เราสามารถสนทนากันสั้นๆ ก่อนที่เขาจะมีอาการเหนื่อยล้า เขารู้สึกขอบคุณในทุกความห่วงใย แต่เขายังคงให้ความสนใจในประเด็นอื่นๆ มากกว่าตัวเขาเอง”
ในวิดีโอที่บันทึกภาพไว้ได้โดย WBFO สถานีวิทยุท้องถิ่น พบเห็น กูกิโน เดินเข้าไปหากลุ่มเจ้าหน้าที่ระหว่างการประท้วงเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่ จอร์จ ฟลอยด์ ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันที่เสียชีวิตด้วยน้ำมือตำรวจที่เมืองมินนีอาโปลิส รัฐมินนิโซตา เมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคม
จากนั้น กูกิโน หยุดอยู่ตรงหน้าตำรวจ และพูดอะไรบางอย่าง ระหว่างนั้นตำรวจรายหนึ่งตะโกนว่า “ผลักดันเขากลับไป” 3 ครั้ง ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่รายหนึ่งก็ใช้แขนผลักบริเวณหน้าอก ส่วนอีกคนใช้ตะบองดันจนเขาล้มลงศีรษะกระแทกพื้น และด้วยความแรงเห็นพบเห็นเลือดไหลนองบริเวณข้างหูของเขา
ในตอนแรกเจ้าหน้าที่คนหนึ่งก้มลงไปดูอาการของเขา แต่อีกคนดึงเพื่อนร่วมงานให้ถอยห่างออกไป ระหว่างนั้นพบเห็นตำรวจหลายคนเดินผ่านร่างของกูกิโนที่แน่นิ่งอยู่กับพื้นไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนผ่านไปสักพักถึงเพิ่งมีคนเข้ามาดูอาการของเขา
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซาร์โคเนให้ข้อมูลเพียงว่า กูกิโน ได้รับบาดเจ็บทางสมองจากเหตุเผชิญหน้าดังกล่าว แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมใด ต่อสื่อมวลชน
เจ้าหน้าที่ 2 นายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ โรเบิร์ต แม็กเคบ และแอรอน ทอร์กัลสกี ถูกพักงาน และนับตั้งแต่นั้นก็โดนตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยเจตนา แต่ไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน (second-degree assault) อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ไม่ยอมรับสารภาพ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เข้ามายุ่งเกี่ยวในประเด็นนี้ โดยบ่งชี้ว่าเหตุการณ์นี้อาจเป็นเพียงการจัดฉากและตั้งข้อสังเกตว่า กูกิโน อาจเป็นมือยั่วยุของกลุ่มแอนติฟา (ขบวนการต่อต้านฟาสซิสม์) ข้อความบนทวิตเตอร์ที่เรียกเสียงประณามอย่างกว้างขวาง