เอเอฟพี - ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันอังคาร (9 มิ.ย.) บ่งชี้ว่า เหตุการณ์ซึ่งคนชราเลือดไหลออกจากบริเวณศีรษะ หลังถูกตำรวจปราบจลาจลผลักล้มหัวฟาดฟื้นระหว่างการประท้วงทวงคืนความยุติธรรมแก่ “จอร์จ ฟลอยด์” เป็นการจัดฉาก
“ผมได้ดูคลิปแล้ว เขาล้มลงแรงกว่าที่ถูกผลัก สแกนเนอร์มีเป้าหมายอะไร เป็นการจัดฉากหรือไม่?” ทรัมป์ตั้งคำถามกับผู้ติดตามจำนวนมหาศาลบนบัญชีทวิตเตอร์ของเขา
2 นายตำรวจในบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก ถูกตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายหลังเกิดเหตุเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในเหตุการณ์ที่ผู้ประท้วง มาร์ติน กูกิโน วัย 75 ปี ถูกผลักอย่างแรงจนหงายหลังล้มลงศีรษะกระแทกพื้น หลังจากเขาเดินเข้าไปหาแถวตำรวจในชุดปราบจลาจล
ในวิดีโอพบเห็นมีกองเลือดอยู่ใต้ศีรษะของผู้ประท้วงรายนี้ ในขณะที่เขานอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น และจนถึงเวลานี้เขายังคงนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล
ไม่ชัดเจนว่า ทรัมป์หมายความว่าอย่างไรที่เขาเขียนว่า “สแกนเนอร์มีเป้าหมาย” แต่มีทฤษฎีสมคบคิดหนึ่งปรากฏขึ้นมาว่า กูกิโน กำลังสแกนเครื่องมือสื่อสารของตำรวจเพื่อทำให้อุปกรณ์ดังกล่าวใช้การไม่ได้
ข้อความบนทวิตเตอร์ของประธานาธิบดีดูเหมือนจะเป็นการดูมาจากรายงานข่าวของ OANN สถานีโทรทัศน์ฝ่ายขวา ซึ่งเชี่ยวชาญด้านทฤษฎีสมคบคิดต่างๆและกลายเป็นที่ชื่นชอบในทำเนียบขาว
เกี่ยวกับคลิปดังกล่าว OANN นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการจัดฉากยั่วยุของกลุ่มซ้ายจัด “แอนติฟา” ขบวนการต่อต้านฟาสซิสต์ โดยอ้างว่า กูกิโน กำลังใช้โทรศัพท์มือถือสแกนอุปกรณ์สื่อสารของตำรวจ
อย่างไรก็ตาม หากสังเกตให้ดี ในวิดีโอเผยให้เห็นว่าเขาเพียงแค่ถือโทรศัพท์มือถือในมือขวา ส่วนแอปพลิเคชันสแกนเนอร์ตำรวจ ซึ่งอนุญาตให้ฟังเสียงสดๆ จากเครื่องสแกนวิทยุตำรวจ เป็นสิ่งถูกกฎหมายและใช้กันโดยทั่วไปในสหรัฐฯอยู่แล้ว
วิดีโอดังกล่าวซ้ำเติมความขุ่นเคืองของประชาชนทั่วประเทศ ที่ออกมาชุมนุมกันด้วยอารมณ์เดือดดาลอยู่ก่อนแล้วต่อพฤติกรรมป่าเถื่อนของตำรวจ จากกรณี จอร์จ ฟลอยด์ ชายชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน เสียชีวิตระหว่างถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว