>>จากเหตุการณ์วุ่นวายทั้งหลายของการออกมาเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมให้กับคนผิวสี ทั้งการเดินประท้วงที่กำลังลุกลามไปทั่วโลก ทั้งการออกมาแสดงความเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์ของเหล่าคนดังทั้งหลาย คนที่ดูจะเดือดร้อนและนั่งไม่ติดที่สุดกับสถานการณ์ในขณะนี้คงไม่ใช่ใครนอกเหนือไปจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ที่ตกเป็นเป้าโจมตีจากหลายฝ่าย และปฏิกิริยาตอบกลับของเขาก็ยิ่งช่วยโหมไฟการประท้วงให้รุนแรงขึ้นไปอีก
ไม่ว่าจะเป็นการออกมาสาดโคลนใส่กลุ่มผู้ประท้วงหาว่าเป็นพวกอันธพาล อาชญากร แถมยังสนับสนุนการใช้ความรุนแรงในการปราบปราม รวมไปถึงการออกมาด่ากราดผู้ที่ออกมาสนับสนุนการเคลื่อนไหวของผู้ประท้วง ไม่ว่าจะเป็นคนดัง ดารา นักกีฬา ไปจนถึงผู้นำประเทศต่างๆ ที่แสดงท่าทียืนอยู่คนละฝั่งกับเขา ซึ่งล่าสุดนี้ทรัมป์ยกระดับถึงขั้นหันไปทะเลาะกับแอปพลิเคชันกันเลยทีเดียว โดยตอนนี้เขากำลังมุ่งโจมตี “ทวิตเตอร์” โซเชียลมีเดียเครือข่ายดัง ที่ตัวทรัมป์เองใช้เป็นช่องทางหลักในการสื่อสาร โดย Account ส่วนตัวของทรัมป์ @realDonaldTrump มีผู้ติดตามสูงถึงเกือบ 82 ล้านคน
ทรัมป์ออกมากล่าวหาว่าทวิตเตอร์ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขา พร้อมกับบอกว่าสื่อโซเชียลมีทฤษฎีสมคบคิดกันต่อต้านฝ่ายรีพับลิกันมาตั้งแต่สมัยเลือกตั้งครั้งที่แล้วแต่ทำไม่สำเร็จ โดยช่วงสัปดาห์ก่อนหน้านี้ทรัมป์ได้เปิดศึกกับทวิตเตอร์ไปครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อครั้งที่ทวิตเตอร์ขึ้นข้อความเตือนให้ผู้อ่านตรวจเช็กข้อมูลที่ทรัมป์โพสต์กล่าวหาว่าการเลือกตั้งทางไกลที่ส่งบัตรเลือกตั้งผ่านไปรษณีย์นั้นก่อให้เกิดการทุจริตผลเลือกตั้งได้
หลังจากนั้นไม่นานทรัมป์ก็ได้เซ็นคำสั่งให้พิจารณายกเลิกกฎหมายคุ้มครองสื่อออนไลน์ เพื่อไม่ให้อำนาจสื่อในการเซ็นเซอร์เนื้อหาได้เหมือนแต่ก่อน ซึ่งแต่เดิมกฎหมายนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้สื่อสังคมออนไลน์สามารถจัดการกับเนื้อหาอันไม่เหมาะสม อย่างเนื้อหาเท็จ ลามกอนาจาร หรือความรุนแรงได้ แม้จะถูกขู่ด้วยการใช้ไม้แข็งแบบนี้แต่ทางทวิตเตอร์ก็ไม่หวาดกลัวแต่อย่างใด เพราะหลังจากนั้นทวิตเตอร์ก็ยังได้ซ่อนข้อความของทรัมป์ที่ประกาศจะใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุม ด้วยแจ้งสาเหตุว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎด้วยเนื้อหาที่ยกย่องความรุนแรง
ล่าสุดทรัมป์ก็ได้ออกมาแชร์ข้อมูลว่าทวิตเตอร์ได้ลบคลิปวิดิโอแคมเปญที่เขาแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อเหล่าผู้ชุมนุมที่มาด้วยความสงบ พร้อมหาว่าทวิตเตอร์เข้าข้างฝ่ายซ้ายอย่างรุนแรงและทำผิดกฎหมาย ก่อนที่จะถูก “แจ็ก คอร์ซี” CEO ของทวิตเตอร์ ออกมาทวีตตอบโต้ว่า ที่คลิปนั้นถูกเอาออกไปไม่ได้เกี่ยวกับการเป็นฝ่ายซ้าย และเขาก็ไม่ได้ทำละเมิดข้อกฎหมายใดๆ แต่มันเป็นเพราะทางทรัมป์ทำผิดกฎหมายเองต่างหาก เพราะในเนื้อหาของวิดีโอที่โพสต์นั้นมีการใช้คลิปที่ละเมิดลิขสิทธิ์ และทางเจ้าของคลิปที่ถูกนำมาใช้ตัดต่อได้แจ้งร้องเรียนเข้ามา
ถูกตอกกลับหน้าหงาย แถมยังกลายเป็นเรื่องขำๆ ที่คนในโลกโซเชียลมีเดียเอาไปล้อเลียนต่อแบบนี้ ดูท่าว่าศึกระหว่างทรัมป์กับทวิตเตอร์คงไม่ได้จบง่ายๆ เป็นแน่
