รอยเตอร์ - ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จะเริ่มโปรแกรมเฉลิมฉลองวันชาติสหรัฐฯ 4 กรกฎาคม ด้วยทริปไปเยือนอนุสรณ์สถานแห่งชาติเขารัชมอร์ ในวันศุกร์ (3 ก.ค.) แม้มีความกังวลเกี่ยวกับการรวมตัวของคนหมู่มากระหว่างการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มาจากคนพื้นเมือง
ทรัมป์จะรับชมการแสดงพลุไฟร่วมกับประชาชนหลายพันคนที่บริเวณอนุสรณ์สถานแห่งชาติเขารัชมอร์ สถานที่ตั้งประติมากรรมแกะสลักใบหน้าอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ 4 คน บนหน้าผาในรัฐเซาท์ดาโคตา ประกอบไปด้วย จอร์จ วอชิงตัน ประธานาธิบดีคนแรก โทมัส เจฟเฟอร์สัน ประธานาธิบดีคนที่ 3 ทีโอดอร์ รูสเวลต์ ประธานาธิบดีคนที่ 26 และ อับราฮัม ลินคอล์น ประธานาธิบดีคนที่ 16
สถานที่แห่งนี้ไม่เคยจุดพลุไฟมาตั้งแต่ปี 2009 สืบเนื่องจากความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม แต่ทรัมป์สนับสนุนให้กลับมาแสดงพลุไฟอีกครั้ง ขณะที่ทางรัฐบอกว่าพื้นที่โดยรอบอุทยานป่าแห่งชาติแบล็กฮิลล์ กลับมาสมบูรณ์แล้วนับตั้งแต่นั้น และปัจจุบันเทคโนโลยีพลุไฟก็มีความล้ำสมัย
งานฉลองครั้งนี้จะเป็นการทำกิจกรรมร่วมกับคนหมู่มากล่าสุดของทรัมป์ ซึ่งเป็นการเพิกเฉยคำแนะนำจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ให้หลีกเลี่ยงการรวมตัวของคนจำนวนมากท่ามกลางตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นทั่วประเทศ
คาดหมายว่า จะมีคนมาร่วมงานกลางแจ้งราวๆ 7,500 คน โดยฝ่ายจัดงานได้เตรียมหน้ากากไว้ให้ แต่ไม่ได้บังคับว่าทุกคนต้องสวมใส่
คริสติ โนม ผู้ว่าการรัฐเซาท์ดาโคตา จากพรรครีพับลิกัน พรรคเดียวกับทรัมป์ ให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ว่าใครที่กังวลก็ควรอยู่บ้าน และบอกว่า “เราจะไม่เว้นระยะห่างทางสังคม”
เชอรีล เชรียร์ ซึ่งเคยเป็นผู้อำนวยการอนุสรณ์สถานแห่งชาติเขารัชมอร์ ระหว่างปี 2010 ถึง 2019 ตำหนิ โนมและทรัมป์ ต่อกรณีขัดขืนคำแนะนำด้านการเว้นระยะห่างทางสังคม ในกิจกรรมหนึ่งๆ ซึ่งเธอเตือนว่านำมาซึ่งความเสี่ยงแพร่กระจายโรค อาจทำให้เกิดไฟป่าและน้ำบาดาลปนเปื้อน “มันเป็นใบสั่งสำหรับหายนะ” เธอเขียนในคอลัมน์ที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์
ชนพื้นเมืองอเมริกา ซึ่งมีข่าวว่าเตรียมประท้วงระหว่างการเยือนของทรัมป์ วิพากษ์วิจารณ์การเยือนของทรัมป์ว่าเพิ่มความเสี่ยงแพร่กระจายไวรัส และมาเฉลิมฉลองวันชาติสหรัฐฯพื้นๆ หนึ่ง ซึ่งเคยสร้างความหวาดกลัวแก่พวกเขา
ทั้งนี้ ทรัมป์ยังมีกำหนดร่วมฉลองวันชาติอีกงาน ในกรุงวอชิงตัน วันเสาร์นี้ (4 ก.ค.)