xs
xsm
sm
md
lg

โอกาสแพ้รำไร! พันธมิตรเตือน ‘ทรัมป์’ หยุดสร้างความแตกแยก-เน้นโชว์วิสัยทัศน์เทอมสอง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และ โจ ไบเดน ผู้สมัครประธานาธิบดีเต็งหนึ่งจากพรรคเดโมแครต
รอยเตอร์ – ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้รับคำเตือนจากพันธมิตรบางคนในพรรครีพับลิกันให้เลิกพูดปลุกปั่นความแตกแยกในสังคม และหันมาโชว์วิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการนำพาประเทศสมัยที่ 2 ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์แนวทางรับมือวิกฤตต่างๆ ของรัฐบาลที่ทำให้ความหวังในการชนะศึกเลือกตั้งของ ทรัมป์ เริ่มรางเลือน

ในขณะที่เหลือเวลาอีกเพียงแค่ 4 เดือนก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดี 3 พ.ย. แต่ปรากฏว่าคะแนนนิยมของ ทรัมป์ ในโพลทุกสำนักกลับย่ำแย่ลง โดยมีสาเหตุหลักจากมาตรการรับมือการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่, ปัญหาเศรษฐกิจ รวมถึงการชุมนุมประท้วงต้านความอยุติธรรมต่อคนผิวสี

พลพรรคของ ทรัมป์ ยอมรับว่า ศัตรูตัวฉกาจที่สุดของ ทรัมป์ มักจะเป็น “ตัวเขาเอง” เสมอ พร้อมยกตัวอย่างกรณีที่ ทรัมป์ รีทวีตคลิปวิดีโอที่มีผู้สนับสนุนตะโกนว่า “พลังคนผิวขาว” (white power) ซึ่งเป็นสโลแกนของพวกคลั่งผิวขาวเป็นใหญ่ (white supremacists) เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (28 มิ.ย.) ก่อนที่จะลบมันทิ้งไป

“เขาต้องกลับไปเป็นประธานาธิบดีที่คนรับได้อีกครั้ง แล้วค่อยคิดจะไปสู้กับ ไบเดน” พันธมิตรรีพับลิกันที่ใกล้ชิดทำเนียบขาวคนหนึ่งให้สัมภาษณ์

“ตอนนี้เริ่มมีคนพูดกันแล้วว่า เขายังอยากเป็นประธานาธิบดีอยู่อีกจริงหรือ? เขามองหายุทธศาสตร์แก้ปัญหาบ้างหรือเปล่า?”

เรตติ้งที่ลดลงของ ทรัมป์ ทำให้สมาชิกรีพับลิกันบางคนเริ่มกลัวว่าพรรคจะเสียเสียงข้างมากในวุฒิสภาไปอีก หลังจากที่ถูกฝ่ายเดโมแครตชิงอำนาจคุมสภาผู้แทนราษฎรไปได้สำเร็จแล้วเมื่อปี 2018

แหล่งข่าวอีกคนหนึ่งเผยว่า ภายในเดือน ส.ค. นี้ มิตช์ แมคคอนเนลล์ แกนนำวุฒิสมาชิกเสียงข้างมาก อาจจำเป็นต้องแนะนำให้ผู้สมัคร ส.ว.รีพับลิกันปลีกตัวออกจากนโยบายของ ทรัมป์ เพื่อรักษาโอกาสในการครองเสียงข้างมากไว้

ล่าสุด สำนักงานของ แมคคอนเนลล์ ยังไม่ตอบคำถามสื่อมวลชนในประเด็นดังกล่าว

จัดด์ เดียร์ โฆษกทำเนียบขาว ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับข้อกังวลเหล่านี้ว่า ประธานาธิบดี “แสดงให้เห็นตลอดเวลาที่ผ่านมาว่าเขาไม่กลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายใหญ่หลวงของประเทศนี้” และทั้ง ทรัมป์ และทีมงาน “ยังคงเดินหน้ากำหนดนโยบายต่างๆ เพื่อก้าวไปสู่การเป็นรัฐบาลสมัยที่ 2”

แหล่งข่าวในพรรครีพับลิกันอีกคนเผยว่า ทรัมป์ ยอมรับระหว่างการพูดคุยส่วนตัวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าเขากำลังตามหลัง โจ ไบเดน ผู้สมัครประธานาธิบดีเต็งหนึ่งของพรรคเดโมแครต หลังจากผลโพลระดับชาติบ่งชี้ว่าเขาสูญเสียคะแนนนิยมในรัฐสำคัญๆ ที่จะเป็นตัวชี้ขาดผลการเลือกตั้ง

“เขารู้นะว่าเขากำลังตกที่นั่งลำบาก... เขาไม่มีสารที่จะบอกกับประชาชน” แหล่งข่าวระบุ

เพื่อพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นต่ออีกครั้ง ทรัมป์ เริ่มพิจารณาเปลี่ยนตัวเจ้าหน้าที่ และหาวิธีขยายสารให้กว้างขวางครอบคลุมมากขึ้นเพื่อเรียกเสียงสนับสนุนจากชาวอเมริกันกลุ่มอื่นๆ นอกเหนือไปจากพวกอนุรักษนิยมที่เป็นฐานเสียงอันเหนียวแน่นของเขาอยู่แล้ว

ผู้ช่วยหลายคนบอกว่า ทรัมป์ จะเน้นชูศักยภาพในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งเพียงอย่างเดียวของเขาในโพลต่างๆ

อย่างไรก็ดี คนในทำเนียบขาวเองกลับมีมุมมองว่า ทรัมป์ ยากที่จะพลิกสถานการณ์ได้หากปราศจากการไล่บี้ตรวจสอบ โจ ไบเดน ซึ่งเวลานี้ยังคงระงับการเดินสายหาเสียงตามคำสั่งเก็บตัวอยู่บ้านยับยั้งโควิด-19

ทรัมป์ ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำที่มีทักษะในการเบนความสนใจของประชาชนจากเรื่องอื้อฉาวต่างๆ แต่กลยุทธ์ดังกล่าวดูจะใช้ไม่ได้ผลกับโรคระบาดโควิด-19 ที่คร่าชีวิตชาวอเมริกันไปแล้วกว่า 127,000 คน และทำให้อีกหลายสิบล้านคนต้องตกงาน

ทรัมป์ ยังโดนวิจารณ์หนักขึ้นไปอีก หลังจากที่สั่งให้หน่วยความมั่นคงใช้กำลังปราบปรามประชาชนที่ออกมาประท้วงความรุนแรงของตำรวจต่อคนผิวสี

สัปดาห์ที่แล้ว ผู้สื่อข่าวฟ็อกซ์นิวส์ได้ขอให้ ทรัมป์ แจกแจงวิสัยทัศน์สำหรับการเป็นประธานาธิบดีเทอม 2 แต่ปรากฏว่าผู้นำสหรัฐฯ ตอบอย่างกว้างๆ ว่าจะฟื้นฟูเศรษฐกิจและเล่นงานจีน โดยไม่ลงรายละเอียดว่าอีก 4 ปีข้างหน้าจะทำอะไรบ้าง ซึ่งทำให้ผู้สนับสนุนบางคนรู้สึกผิดหวัง

“ทรัมป์ จะต้องแสดงให้ทุกคนเห็นว่า ทำไมเขาถึงอยากเป็นประธานาธิบดีอีกสมัย” เจ้าหน้าที่รีพับลิกันคนหนึ่งให้สัมภาษณ์

ผลสำรวจรอยเตอร์/อิปซอสในสัปดาห์นี้พบว่า ไบเดน มีคะแนนนิยมแซงหน้า ทรัมป์ อยู่ประมาณ 8 จุด ลดลงเล็กน้อยจากคะแนนนำ 10 จุดในโพลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น