xs
xsm
sm
md
lg

“เมลเบิร์น” เอาไม่อยู่ล็อกดาวน์รอบใหม่ แต่ปักกิ่งเริ่มคลายคุมเข้ม ด้าน “หมอใหญ่” วิตกสหรัฐฯ จะติดเชื้อกันวันละแสน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เจ้าหน้าที่แพทย์เข้าตรวจเชื้อโควิด-19 ในหมู่ประชาชน ตามเมืองต่างๆ ในรัฐวิกตอเรีย ออสเตรเลียเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ หลังพบผู้ติดเชื้อสูงขึ้นในเมลเบิร์น จนถึงขั้นต้องกลับสู่มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งนับตั้งแต่เที่ยงคืนวันพุธ (1 ก.ค.)
เอเจนซีส์ - “หมอใหญ่ทำเนียบขาว” เตือนอเมริกาอาจมีคนติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นวันละแสนคน ขณะที่หลายรัฐเริ่มบังคับกักตัวนักเดินทางจากรัฐอื่นนาน 14 วัน ส่วนนครเมลเบิร์น ของออสเตรเลีย กลับมาล็อกดาวน์อีกครั้งนาน 1 เดือน ตรงข้ามกับปักกิ่งที่เริ่มผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มชุมชนต่างๆ บ่งชี้ความคืบหน้าในการควบคุมการระบาดแบบกลุ่มก้อนในตลาดค้าส่งอาหารขนาดใหญ่ของเมืองหลวงแดนมังกร

ในวันอังคาร (30 มิ.ย.) นพ.แอนโธนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ และสมาชิกคนที่ได้รับความเชื่อถืออย่างสูงในทีมเฉพาะกิจไวรัสโคโรนาของทำเนียบขาว กล่าวเตือนระหว่างให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการชุดหนึ่งรัฐสภาว่า อเมริกายังไม่สามารถควบคุมการระบาดได้และหากยังปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป อาจมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึงวันละ 100,000 คน

เฟาซีย้ำว่า รัฐบาลต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันไม่ให้อัตราการติดเชื้อพุ่งขึ้นถึงระดับอันตราย โดยเขายกตัวอย่างของรัฐเทกซัสและรัฐฟลอริดาที่ไวรัสระบาดหนักและทำให้ตัวเลขเคสใหม่ทั่วประเทศเพิ่มเป็นกว่า 40,000 คนต่อวันในเวลานี้

เฉพาะเทกซัสนั้นรายงานเมื่อวันอังคาร (30 มิ.ย.) ว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ 6,945 คนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดอีกครั้ง

เฟาซีสำทับว่า กังวลมากและไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เนื่องจากเห็นได้ว่า อเมริกากำลังเดินผิดทาง และเรียกร้องให้อเมริกันชนหันมาสวมหน้ากาก หลีกเลี่ยงการรวมตัวของคนหมู่มาก หลังพฤติกรรมที่หย่อนยานโหมกระพือการแพร่ระบาดรอบใหม่

นอกจากนั้น เขายังส่งสารอย่างตรงไปตรงมาถึงคนหนุ่มสาวในประเทศซึ่งมีพฤติกรรมที่เป็นอันตราย เช่น รวมตัวเฉลิมฉลองตามผับบาร์ ไม่สวมหน้ากากป้องกันโรคและไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำเว้นระยะห่างทางสังคม “ผมคิดว่าเราจำเป็นต้องเน้นย้ำถึงความรับผิดชอบที่เรามี ทั้งในแบบส่วนตัวและในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ในความพยายามหยุดโรคระบาดใหญ่ เราทุกคนล้วนมีบทบาทในเรื่องนี้” เฟาซีบอก

ด้าน นพ.โรเบิร์ต เรดฟิลก์ ผู้อำนวยการศูนย์กลางการควบคุมและการป้องกันโรค (ซีดีซี) ของสหรัฐฯ ให้ปากคำโดยแสดงความกังวลกับตัวเลขการแพร่ระบาดที่เพิ่มขึ้นในหลายๆ ขอบเขต ในนั้นรวมถึงจำนวนคนไข้โควิด-19 ที่เข้ารักษาตัวเพิ่มมากขึ้นตามโรงพยาบาลต่างๆ ใน 12 รัฐ และบอกว่ามันสำคัญยิ่งที่ชาวอเมริกาทุกคนต้องมีความรับผิดชอบต่อตัวเอง และเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสวมหน้ากากคลุมใบหน้า

ขณะนี้ โควิด-19 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 127,000 คนในอเมริกา และกว่า 508,000 คนทั่วโลก

นพ.แอนโธนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐฯ และสมาชิกคนสำคัญในคณะทำงานเฉพาะกิจเรื่องไวรัสโคโรนาของทำเนียบขาว ไปให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการของวุฒิสภาสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน วันอังคาร (20 มิ.ย.)
ทางด้าน โจ ไบเดน ว่าที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต ประกาศว่า จะไม่เดินสายหาเสียงระหว่างที่ไวรัสยังระบาด ซึ่งตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เมื่อเร็วๆ นี้เพิ่งจัดปราศรัยมีคนเข้าฟังหลายพันคน

อดีตรองประธานาธิบดีไบเดนยังโจมตีมาตรการรับมือไวรัสของทรัมป์ว่า กำลังทำให้อเมริกาพังทลาย

นอกจากนั้น กระทั่ง ลามาร์ อเล็กซานเดอร์ วุฒิสมาชิกรีพับลิกัน ยังเรียกร้องให้ทรัมป์เลิกเล่นการเมืองกับเรื่องหน้ากาก ด้วยการสวมหน้ากากในที่สาธารณะเพื่อเป็นแบบอย่างสำหรับผู้สนับสนุน

ในวันอังคาร รัฐนิวยอร์ก นิวเจอร์ซีย์ และคอนเนตทิคัต ได้ประกาศกักตัวนักเดินทางซึ่งมาจาก 16 รัฐในสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นสองเท่าตัวจากก่อนหน้านี้ โดยกำหนดให้กักตัวนาน 14 วัน

ขณะเดียวกัน องค์การสาธารณสุขภาคพื้นอเมริกา เตือนว่าละตินอเมริกาและแคริบเบียนอาจมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทะลุ 400,000 คนภายในเดือนตุลาคม หรือ 4 เท่าของตัวเลขขณะนี้ หากไม่มีการบังคับใช้มาตรการสาธารณสุขที่เข้มงวด

อย่างไรก็ดี ที่บราซิล ผู้พิพากษาคนหนึ่งกลับคำวินิจฉัยของศาลก่อนหน้านี้ที่บังคับให้ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู ต้องสวมหน้ากากในที่สาธารณะ โดยระบุว่า คำวินิจฉัยเดิมซ้ำซ้อนเนื่องจากในกรุงบราซิเลียมีคำสั่งให้ประชาชนสวมหน้ากากอยู่แล้ว

ส่วนที่ออสเตรเลีย มีคำสั่งล็อกดาวน์เมืองเมลเบิร์นอีกครั้ง ครอบคลุมประชาชน 300,000 คน นาน 1 เดือน เพื่อควบคุมการระบาดหลังพบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นในอัตราเลขสองหลักมาตลอด 2 สัปดาห์ กระตุ้นความกังวลว่า ไวรัสโคโรนาอาจกลับมาระบาดรอบสอง

เมลเบิร์น เมืองใหญ่อันดับ 2 ของออสเตรเลียและเมืองหลวงของรัฐวิกตอเรีย จะเริ่มล็อกดาวน์ตั้งแต่เที่ยงคืนวันพุธ (1) และกลับสู่มาตรการจำกัดระดับ 3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเพื่อป้องกันวิกฤตโรคระบาด เท่ากับว่า ประชาชนจะไม่สามารถออกจากบ้านได้ยกเว้นไปซื้ออาหาร มีนัดพบแพทย์ ทำงานหรือดูแลผู้ป่วยหรือผู้สูงวัย และออกกำลังกาย

ทั้งนี้ รัฐวิกตอเรียพบผู้ติดเชื้อใหม่ 73 คนในวันอังคาร จากการตรวจหาผู้ติดเชื้อ 20,682 คน ลดลงจาก 75 คนในวันจันทร์ (29 มิ.ย.)

แดเนียล แอนดรูว์ นายกรัฐมนตรีรัฐวิกตอเรียเตือนว่า ยังมีความเป็นไปได้ที่อาจต้องบังคับใช้มาตรการจำกัดที่ครอบคลุมขึ้นอีกครั้ง

ตรงข้ามกับสถานการณ์ในปักกิ่งที่มีการยกเลิกคำสั่งล็อกดาวน์อาคารที่อยู่อาศัยหลายแห่งตั้งแต่วันอังคาร รวมทั้งยังพบผู้ติดเชื้อใหม่เพียง 3 คนในวันพุธ บ่งชี้ความคืบหน้าในการควบคุมการระบาดแบบกลุ่มก้อนที่เกิดขึ้นในตลาดค้าส่งอาหารขนาดใหญ่ของเมืองตั้งแต่เดือนที่แล้ว

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ปักกิ่งยังเตรียมปลดล็อกเพิ่มอีก 7 ชุมชนในวันศุกร์ (3) กระนั้น ชุมชนทุกแห่งที่ได้รับการยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ยังจำเป็นต้องบริหารจัดการแบบปิดอย่างเข้มงวด เช่น ห้ามบุคคลภายนอกเข้าไปในชุมชน และออกบัตรผ่านสำหรับคนในชุมชน


กำลังโหลดความคิดเห็น