รอยเตอร์ - จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่พุ่งขึ้น มีความเป็นไปได้ว่าจะกระตุ้นให้มีการหวนคืนสู่ภาวะล็อกดาวน์ในบางพื้นที่ แต่ไม่ถึงขั้นล็อกดาวน์ทั่วประเทศ แลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของทำเนียบขาวยอมรับในวันพฤหัสบดี (25 มิ.ย.) ในขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อในหลายรัฐทุบสถิติสูงสุดตั้งแต่มีการแพร่ระบาด
“จะมีบางพื้นที่ที่ต้องชัตดาวน์ เป็นรายพื้นที่และห้างร้านต่างๆ บางส่วน เรากำลังจับตาเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด” คุดโลว์ให้สัมภาษณ์กับเครือข่ายสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์ บิซิเนส “อย่างไม่ต้องสงสัยเลย เราจะมีจุดร้อนหลายแห่ง เราแค่ต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับมัน”
ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ของสหรัฐฯ ซึ่งเคยรอดพ้นจาความรุนแรงของการแพร่ระบาดในช่วงแรกๆ ได้สร้างความวิตกกังวลแก่นักลงทุน ฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯร่วงลงหนักขึ้นในวันพฤหัสบดี (25 มิ.ย.) หลังจากวอลล์สตรีทต้องเผชิญวันที่เลวร้ายสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อวันพุธ (24 มิ.ย.) ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม คุดโลว์ ระบุว่า เขายังคงคาดหมายว่าจะเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในลักษณะเป็นรูปตัว “v” โดยจะทวงคืนการเติบโตมาได้ราวๆ 20% ในไตรมาส 3 และ 4 ของปี 2020 และอัตราคนว่างงานจะอยู่ที่ 10% ในช่วงสิ้นปี
สหรัฐฯต้องเผชิญกับสถิติอันเลวร้ายเมื่อวันอังคาร (23 มิ.ย.) หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวันทั่วประเทศ พุ่งแตะระดับ 35,588 คน ถือเป็นวันที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาด เป็นรองเพียงสถิติสูงสุด 36,426 คน ของเมื่อวันที่ 24 เมษายน
ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ของสหรัฐฯ ทางนิวยอร์ก, นิวเจอร์ซีย์ และ คอนเนตทิคัต ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาด จะกำหนดให้ผู้มาเยือนจากรัฐอื่นๆ 11 รัฐ ที่มีผู้ติดเชื้อระดับสูงต้องอยู่ภายใต้การกักกันโรคเป็นเวลา 14 วัน นับตั้งแต่เดินทางมาถึง
