เอเจนซีส์ - ผู้ประท้วงในสหรัฐฯ ปิดทางหลวงข้ามรัฐและเผาร้านเวนดี้ส์ ที่หนุ่มผิวดำถูกตำรวจยิงเสียชีวิตขณะขัดขืนการจับกุมเมื่อคืนวันศุกร์ (12 มิ.ย.) แม้ผู้บัญชาการตำรวจแอตแลนตา ประกาศลาออกเพื่อรับผิดชอบเหตุการณ์นี้และเพื่อเป็นแบบอย่างในการปฏิรูประบบตำรวจของอเมริกาก็ตาม คาดกรณีนี้จะโหมกระพือการประท้วงที่ยังคงคุกรุ่นทั่วประเทศ
การประท้วงและเผาร้านอาหารเวนดี้ส์เกิดขึ้นเมื่อคืนวันเสาร์ (13 มิ.ย.) ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ คีชา แลนซ์ บอตทอมส์ นายกเทศมนตรีแอตแลนตา ประกาศข่าวการลาออกของเอริกา ชีลด์ส ผู้บัญชาการตำรวจแอตแลนตา
แลนซ์ บอตทอมส์ ที่เป็นตัวเก็งลงสมัครในตำแหน่งรองประธานาธิบดีคู่ กับ โจ ไบเดน ตัวแทนพรรคเดโมแครตที่จะลงเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดือนพฤศจิกายนนี้ แถลงว่า ชีลด์ส ซึ่งเป็นผู้หญิงผิวขาวและทำงานในสำนักงานตำรวจแอตแลนตามากว่า 2 ทศวรรษ ต้องการให้แอตแลนตาเป็นแบบอย่างการปฏิรูประบบตำรวจที่มีนัยสำหรับสำนักงานตำรวจทั่วอเมริกา จึงขอลาออกจากตำแหน่งทันที
ทางด้านสำนักงานสอบสวนจอร์เจียแถลงโดยอ้างอิงภาพจากกล้องวงจรปิด ว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อตำรวจได้รับแจ้งจากพนักงานร้านเวนดี้ส์ ว่า มีชายคนหนึ่งหลับอยู่ในรถที่จอดรอคิวไดรฟ์ทรูของร้าน และขวางลูกค้าคนอื่นๆ ซึ่งชายคนที่ว่าคือ เรย์ชาร์ด บรูกส์ ชายผิวดำวัย 27 ปี ซึ่งผลการตรวจวัดพบว่า ดื่มแอลกอฮอล์เกินขนาด
แต่เมื่อตำรวจกำลังสวมกุญแจมือ บรูกส์ขัดขืนและวิ่งหนีไปพร้อมปืนช็อตไฟฟ้าที่แย่งมาจากตำรวจ ระหว่างที่วิ่งไล่ตาม บรูกส์หันมาและเล็งปืนช็อตไฟฟ้าที่ตำรวจ ทำให้เจ้าหน้าที่ตัดสินใจยิง บรูกส์ถูกนำส่งโรงพยาบาลแต่เสียชีวิตระหว่างผ่าตัด ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 1 ราย
ทนายความของครอบครัวบรูกส์ระบุว่า ตำรวจไม่มีสิทธิ์ใช้อาวุธร้ายแรง แม้บรูกส์ยิงปืนช็อตไฟฟ้า ซึ่งไม่มีอันตรายถึงชีวิตใส่ตำรวจก็ตาม
คาร์ลอส แคมโพส โฆษกสำนักงานตำรวจแอตแลนตายืนยันว่า ตำรวจที่ยิงบรูกส์ คือ แกร์เร็ต โรล์ฟ ถูกปลดเมื่อวันเสาร์ ส่วนตำรวจอีกนายถูกย้ายไปทำงานธุรการ โดยทั้งสองนายเป็นตำรวจผิวขาว
ขณะเดียวกัน พอล โฮเวิร์ด จูเนียร์ นักกฎหมายของเทศมณฑลฟูลตัน แถลงผ่านอีเมลว่า สำนักงานฯ ได้เปิดการสอบสวนอิสระต่อกรณีนี้แล้ว
เหตุการณ์นี้ทำให้ฝูงชนออกมาประท้วงบนถนนในแอตแลนตาเมื่อวันเสาร์ ใกล้กับสถานที่ที่บรูกส์ถูกยิง และประชาชนกว่า 100 คนเรียกร้องให้ตั้งข้อหาอาชญากรรมกับตำรวจ 2 นายที่อยู่ในเหตุการณ์
สถานีทีวีท้องถิ่นถ่ายทอดภาพผู้ประท้วงจุดไฟลุกท่วมร้านเวนดี้ส์ โดยกว่าที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะไปถึงที่เกิดเหตุก็ผ่านไปกว่า 45 นาที ทำให้สภาพตึกที่อยู่ใกล้ปั๊มน้ำมันเหลือแต่เถ้าถ่าน
ผู้ประท้วงอีกกลุ่มเดินขบวนเข้าสู่ทางหลวงข้ามรัฐ อินเตอร์สเตท-75 ทำให้รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ก่อนที่ตำรวจนำรถสายตรวจหลายคันมาช่วยกดดันให้ผู้ประท้วงล่าถอย
เหตุการณ์วุ่นวายนี้เกิดขึ้นขณะที่อเมริกาเผชิญการประท้วงต่อต้านลัทธิเหยียดเชื้อชาติอย่างเป็นระบบครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งจุดชนวนจากกรณีการเสียชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์ ชายแอฟริกัน-อเมริกัน ระหว่างการควบคุมตัวของตำรวจผิวขาวในมินนิอาโปลิสเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา
นับจากนั้นมีการประท้วงเกิดขึ้นทั่วอเมริกาและลุกลามไปยังประเทศอื่นๆ และจุดประเด็นการถกเถียงเรื่องระบบทาส ลัทธิการล่าอาณานิคม และการที่คนผิวขาวทำร้ายคนผิวสี รวมทั้งการใช้กรอบแนวคิดแบบทหารในแวดวงตำรวจ