เอเจนซีส์ – ตำรวจฮ่องกงจับกุมผู้ประท้วงไปกว่า 300 คนในวันพุธ (1 ก.ค.) รวมทั้ง 9 คนซึ่งถูกตั้งข้อหาตามกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ที่ปักกิ่งเพิ่งประกาศใช้ ขณะที่มีผู้คนหลายพันคนในนครแห่งนี้ท้าทายคำสั่งห้าม โดยยังคงออกมาชุมนุมประท้วงเนื่องในวาระครบรอบ 23 ปีของการส่งมอบฮ่องกงมาอยู่ใต้การปกครองอีกครั้งของจีน
ตำรวจได้ใช้เครื่องฉีดน้ำขนาดใหญ่, สเปรย์พริกไท, และแก๊สน้ำตา ตลอดการประจันหน้าเป็นระลอกกับพวกผู้ประท้วง หนึ่งวันหลังจากจีนประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงในศูนย์กลางการเงินสำคัญของโลกแห่งนี้ โดยที่ทางการตำรวจรายงานว่ามีตำรวจผู้หนึ่งถูกแทงที่ไหล่ได้รับบาดเจ็บขณะะพยายามที่จะเข้าจับกุมผู้ประท้วง
ตามกฎหมายใหม่ฉบับนี้หมายความว่า ทัศนะทางการเมืองและสัญลักษณ์ทางการเมืองบางอย่างบางประการ ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เป็นต้นว่า การแสดงความสนับสนุนให้ฮ่องกง, ไต้หวัน, ซินเจียง, หรือ ทิเบต เป็นเอกราชแยกจากประเทศจีน
รายละเอียดต่างๆ ที่เผยแพร่โดยตำรวจในวันพุธ ตั้งข้อกล่าวหาพวกที่ถูกจับกุมภายใต้กฎหมายใหม่ว่า มีธง, สติกเกอร์, และใบปลิวที่เรียกร้องเอกราชอยู่ในครอบครอง
“การสนับสนุนให้ฮ่องกงเป็นเอกราชคือการละเมิดกฎหมายฉบับนี้” จอห์น ลี รัฐมนตรีความมั่นคงของฮ่องกงบอกกับพวกผู้สื่อข่าว
กระนั้นก็ยังมีผู้ออกมาประท้วงในวันพุธจำนวนมากพากันตะโกนคำขวัญเรียกร้องเอกราช ซึ่งเวลานี้ก็เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายเช่นเดียวกัน
นักวิจารณ์และรัฐบาลตะวันตก นำโดยอเมริกา พากันประณามกฎหมายความมั่นคงของจีนฉบับนี้ ด้วยข้ออ้างว่ากลัวจะเป็นการเริ่มต้นยุคแห่งการกดขี่ทางการเมืองครั้งใหม่ อีกทั้งระบุว่าเป็นการละเมิด ข้อตกลง “หนึ่งประเทศ-สองระบบ” ซึ่งทำกันไว้ก่อนที่อังกฤษจะส่งมอบฮ่องกงคืนให้จีนในปี 1997 โดยที่รัฐบาลจีนรับประกันเสรีภาพพลเมืองของฮ่องกง รวมถึงระบบตุลาการและนิติบัญญัติที่เป็นอิสระจนถึงปี 2047
ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมากล่าวโจมตีในวันอังคาร (30 มิ.ย.) ว่า จีนสัญญาให้เสรีภาพคนฮ่องกง 50 ปี แต่กลับให้จริงๆ เพียง 23 ปี พร้อมประกาศว่า วอชิงตันจะดำเนินมาตรการตอบโต้แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียด
ทว่า จาง เสี่ยวหมิง รองผู้อำนวยการบริหารสำนักงานกิจการฮ่องกงและมาเก๊าของจีน ตอกกลับว่า ต่างชาติไม่มีหน้าที่มาวิจารณ์กฎหมายจีน
เขาพูดถึงการที่พวกประเทศตะวันตกข่มขู่จะทำการแซงก์ชั่น โดยบอกว่านี่คือ “หลักเหตุผลแบบพวกแก๊งนักเลง” เขาบอกอีกว่าถ้าหากปักกิ่งต้องการที่จะยกเลิก “หนึ่งประเทศ สองระบบ” จริงๆ แล้ว แค่นำเอากฎหมายของแผ่นดินใหญ่มาใช้กับฮ่องกงก็ได้
ขณะที่แคร์รี ลัม ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง กล่าวในระหว่างพิธีการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 23 ปีแห่งการที่ฮ่องกงกลับมาอยู่ใต้อธิปไตยของจีน โดยยกย่องว่า กฎหมายความมั่นคงเป็นพัฒนาการสำคัญที่สุดนับจากที่เกาะแห่งนี้คืนกลับสู่จีน และยังบอกว่า นี่เป็นการตัดสินใจที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เพื่อฟื้นเสถียรภาพของฮ่องกง
ภายใต้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่นี้ การบ่อนทำลาย การแบ่งแยกดินแดน การก่อการร้าย และการสมรู้ร่วมคิดกับกำลังต่างชาติ ถือเป็นความผิดซึ่งมีโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต
นอกจากนั้น หน่วยงานความมั่นคงของจีนจะเข้าไปตั้งฐานปฏิบัติการในฮ่องกงเป็นครั้งแรก รวมทั้งมีอำนาจเหนือกฎหมายข้อบัญญัติของฮ่องกง และสามารถจับกุมและส่งผู้ต้องหาไปดำเนินคดีในจีน
จางระบุว่า กฎหมายความมั่นคงเป็นของขวัญวันเกิดสำหรับฮ่องกง และจะพิสูจน์ให้เห็นว่า เป็นของขวัญล้ำค่าในอนาคต
กว่า 20 ประเทศซึ่งรวมถึงอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และญี่ปุ่น ออกคำแถลงร่วมที่ยื่นต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเมื่อวันอังคาร ขอให้ปักกิ่งทบทวนกฎหมายนี้
อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เจ้า ลี่เจียน แถลงที่ปักกิ่งในวันพุธว่า มี 53 ประเทศได้ออกคำแถลงร่วมถึงคณะมนตรีชุดเดียวกันนี้ “สนับสนุนนโยบายของจีนในเรื่องฮ่องกง”
“พวกประเทศตะวันตกส่วนข้างน้อยซึ่งรวมไปถึงอังกฤษด้วย ได้โจมตีและใส่ร้ายป้ายสีจีนในเรื่องฮ่องกงและประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง” โฆษกผู้นี้กล่าว “การแสดงออกเพื่อต่อต้านจีนของพวกประเทศตะวันตกไม่กี่รายนี้ได้ล้มเหลวลงแล้ว”
ก่อนหน้านี้ จีนยืนยันว่า กฎหมายความมั่นคงฉบับนี้มุ่งฟื้นเสถียรภาพของฮ่องกงหลังจากเมื่อปีที่แล้วเผชิญการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยตลอดเวลาหลายเดือน และยืนยันว่า จะไม่เพิกถอนเสรีภาพฮ่องกง รวมทั้งจะไม่ใช้กฎหมายนี้จัดการศัตรูทางการเมือง
อนึ่งทางด้านด้านแคนาดาออกคำเตือนพลเมืองในฮ่องกงว่า มีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะถูกควบคุมตัวโดยพลการหรือแม้แต่ส่งตัวไปดำเนินคดีในจีน
ขณะที่รัฐบาลไต้หวันประกาศเปิดสำนักงานใหม่เพื่อให้ความช่วยเหลือคนฮ่องกงที่ต้องการลี้ภัย