รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - รัฐสภาจีนผ่านกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติสำหรับใช้ในฮ่องกงในวันอังคาร (30 มิ.ย.) และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ลงนามประกาศใช้แล้วในวันเดียวกัน เป็นการแผ้วถางทางสำหรับความเปลี่ยนแปลงอย่างมโหฬารที่สุดในวิถีชีวิตของอดีตอาณานิคมของอังกฤษแห่งนี้ นับตั้งแต่ที่ได้หวนกลับมาอยู่ใต้การปกครองของจีนอีกครั้งเมื่อ 23 ปีก่อน
รายละเอียดของกฎหมายฉบับนี้ ยังไม่ได้มีการเผยแพร่ออกมา แต่การจัดร่างกฎหมายนี้บังเกิดขึ้นเพื่อเป็นการตอบโต้การประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยที่บ่อยครั้งมีการใช้ความรุนแรงในฮ่องกงตลอดระยะเวลาหลายๆ เดือนของปีที่แล้ว โดยที่ในการร่างกฎหมายนี้ ได้ตั้งจุดมุ่งหมายเอาไว้ว่า เพื่อการปราบปรามการบ่อนทำลาย, การก่อการร้าย, การแบ่งแยกดินแดน, และการสมคบร่วมมือกับกลุ่มพลังต่างชาติ
แคร์รี ลัม ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง กล่าวระหว่างการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ในวันอังคาร แสดงความยินดีต้อนรับการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ รวมทั้งแจกแจงว่าจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเวลาต่อไปของวันเดียวกัน เท่ากับแทบไม่ให้เวลาแก่ประชาชน 7.5 ล้านคตของนครแห่งนี้ ในการทำความเข้าใจว่าจะต้องประสบกับอะไรบ้างจากกฎหมายที่มีความสลับซับซ้อนนี้
ท่ามกลางความหวั่นเกรงโดยเฉพาะของฝ่ายตะวันตกที่ว่า กฎหมายนี้จะทำลายเสรีภาพต่างๆ ของฮ่องกงซึ่งมีฐานะเป็นศูนย์กลางการเงินระดับโลกแห่งหนึ่ง รวมทั้งรายงานข่าวที่ว่าบทลงโทษหนักที่สุดของกฎหมายใหม่นี้คือการจำคุกตลอดชีวิต พรรคการเมืองที่ใช้ชื่อว่า “เดโมซิสโต” ของนักเคลื่อนไหวหนุ่ม โจชัว หว่อง รีบออกมาแถลงยุบพรรค
“มันเป็นหลักหมายแสดงถึงการสิ้นสุดของฮ่องกงที่โลกได้เคยรู้จักกันก่อนหน้านี้” หว่องเขียนเช่นนี้ในทวิตเตอร์
กฎหมายฉบับนี้ยังเป็นการผลักดันจีนให้ก้าวเดินต่อไปอีกตามเส้นทางแห่งการปะทะขัดแย้งกับสหรัฐฯ, อังกฤษ, และรัฐบาลชาติตะวันตกอื่นๆ ซึ่งระบุว่า มันเป็นการทำลายอำนาจการปกครองตนเองในระดับสูงของฮ่องกงตามที่ปักกิ่งได้เคยให้สัญญาไว้ในการรับมอบอธิปไตยของดินแดนแห่งนี้เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 1997
สหรัฐฯ ซึ่งมีข้อพิพาทกับจีนอยู่แล้วทั้งทางด้านการค้า, ทะเลจีนใต้, และเรื่องไวรัสโครานา ได้เริ่มถอดถอนสิทธิพิเศษของฮ่องกงตามกฎหมายสหรัฐฯแล้วตั้งแต่วันจันทร์ (29) ด้วยการประกาศห้ามไม่ให้ส่งออกผลิตภัณฑ์ด้านกลาโหมให้แก่ฮ่องกง ตลอดจนจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีอเมริกันของฮ่องกง ถึงแม้เรื่องนี้จะถูกมองว่าเป็นความเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์เสียมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ทางด้านจีนแถลงว่า จะตอบโต้ในเรื่องนี้
ในส่วนของ ลัม เธอกล่าวในข้อความผ่านคลิปวิดีโอส่งไปยังคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ในนครเจนีวา โดยเรียกร้องประชาคมระหว่างประเทศให้ “เคารพสิทธิของประเทศของเราในการปกป้องความมั่นคงแห่งชาติ เธอยืนยันว่ากฎหมายฉบับนี้จะไม่บ่อนทำลายอำนาจปกครองตนเองของฮ่องกง หรือความเป็นอิสระของระบบศาลในนครแห่งนี้
ทั้งนี้พวกผู้มีอำนาจรับผิดชอบในปักกิ่งและในฮ่องกงต่างพูดย้ำเรื่อยมาว่า กฎหมายนี้มุ่งหมายที่จะเล่นงาน “พวกก่อความวุ่นวาย” ไม่กี่คน แจะไม่กระทบกระเทือนสิทธิเสรีภาพใดๆ ของฮ่องกง ตลอดจนไม่กระทบกระเทือนผลประโยชน์ต่างๆ ของพวกนักลงทุน
ทางด้านบรรณาธิการใหญ่ของ โกลบอลไทมส์ แทบลอยด์ในเครือของ เหรินหมินรึเป้า (พีเพิลส์เดลี่) ปากเสียงอย่างเป็นทางการของพรรคคอมมิวนิสต์ที่เป็นผู้ปกครองจีน โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์ยืนยันว่า โทษหนักที่สุดตามกฎหมายนี้คือการจำคุกตลอดชีวิต
ขณะที่กฎหมายฉบับนี้ผ่านออกมาบังคับใช้ในกรุงปักกิ่ง กองทหารซึ่งประจำอยู่ในค่ายของกองทัพปลดแอกประชาชนจีนในฮ่องกงก็ได้จัดการฝึกซ้อม ซึ่งมีทั้งการฝึกหยุดยานพาหนะของผู้ต้องสงสัย และการจับกุมผู้กระทำความผิด ทั้งนี้ตามบัญชีสื่อสังคม “เว่ยปั๋ว” ของช่องทีวีข่าวทหารของสถานีโทรทัศน์ส่วนกลางของจีน (ซีซีทีวี)
คาดหมายกันว่า กฎหมายฉบับนี้อาจจะถูกทดสอบกันตั้งแต่เนิ่นๆ ทีเดียว โดยพวกนักเคลื่อนไหวและนักการเมืองฝ่ายเรียกร้องประชาธิปไตยระบุว่า พวกเขาจะท้าทายคำสั่งห้ามของตำรวจซึ่งอ้างเรื่องข้อจำกัดการเว้นระยะห่างทางสังคมในช่วงที่ไวรัสโคโรนาระบาด โดยที่พวกเขาจะออกมาชุมนุมประท้วงกันในวันพุธ (1 ก.ค.) เนื่องในวันครบรอบการส่งมอบฮ่องกงให้แก่จีน
ในการชุมนุมเดินขบวนวาระเช่นนี้เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งจัดขึ้นท่ามกลางกระแสการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยชุดใหญ่ ปรากฏว่าฝูงชนที่เข้าร่วมได้บุกเข้าไปในอาคารสภานิติบัญญัติของฮ่องกง และจัดทำการทุบทำลายข้าวของ และพ่นสีเขียนข้อความเปรอะไปทั่ว รวมทั้งที่ตราสัญลักษณ์ของฮ่องกงด้วย
“เราจะไม่มีทางยอมรับกฎหมายที่ผ่านออกมานี้ ถึงแม้มันจะมีอำนาจมากมายเหลือเกินก็ตามที” อู่ ฉีว่าย ประธานของพรรคเดโมเครติกปาร์ตี้ ประกาศ
ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า หากเข้าร่วมการชุมนุมที่ไม่ได้รับอนุญาตเช่นนี้ จะถือเป็นความผิดตามกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่หรือไม่
ผู้คนส่วนข้างมากในฮ่องกงนั้นคัดค้านกฎหมายฉบับนี้ ผลโพลซึ่งจัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ในเดือนนี้แสดงให้เห็นเช่นนั้น ทว่าเสียงสนับสนุนการประท้วงก็ได้ลดฮวบลงเช่นกันจนเวลานี้อยู่เกินกว่าครึ่งหนึ่งเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ในวันอังคาร ตำรวจได้ขับไล่พวกนักเคลื่อนไหวไม่กี่คนซึ่งออกมาประท้วงคัดค้านกฎหมายนี้ที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง
ขณะที่พวกผู้สนับสนุนปักกิ่งหลายสิบคนพากันเปิดขวดแชมเปญ และโบกธงชาติจีนกับธงฮ่องกงเป็นการเฉลิมฉลอง ที่บริเวณด้านหน้าอาคารที่ทำการใหญ่ของรัฐบาล
“ผมดีใจมาก” ชายสูงวัยแซ่หลี่ ผู้หนึ่งกล่าว
“นี่จะทำให้พวกสายลับต่อต้านจีนและผู้คนซึ่งสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายในฮ่องกงไม่มีที่จะอยู่ไม่มีที่จะไป” เขากล่าว
ในเดือนนี้ สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนได้เปิดเผยบทบัญญัติสำคัญบางส่วนของกฎหมายฉบับนี้ เป็นต้นว่า กฎหมายนี้จะมีอำนาจเหนือข้อบัญญัตติทั้งหลายที่มีอยู่ในปัจจุบันของฮ่องกง ขณะที่อำนาจในการตีความกฎหมายนี้จะเป็นของคณะกรรมการประจำของ รัฐสภาจีน ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่าสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ
คาดกันว่าปักกิ่งจะจัดตั้งสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติแห่งหนึ่งขึ้นในฮ่องกงเป็นครั้งแรก โดยที่หน่วยงานนี้จะมีอำนาจในการตัดสินคดีความบางอย่างบางประการอีกด้วย
เป็นที่คาดหมายว่า ผู้พิพากษาที่จะพิจารณาคดีด้านความมั่นคง จะแต่งตั้งโดยผู้บริหารสูงสุดของนคร สำหรับเวลานี้ ผู้พิพากษาอาวุโสจะได้รับคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งต่างๆ ผ่านระบบตุลาการที่เป็นอิสระของฮ่องกง
ยังไม่เป็นที่ทราบกันว่า กิจกรรมอะไรแน่ๆ ที่จะถูกพิจารณาว่าผิดกฎหมาย หรือบทลงโทษจะเป็นอย่างไร
ทั้งอังกฤษ, สหภาพยุโรป, ญี่ปุ่น,ไต้หวัน, และอีกหลายๆ ฝ่ายต่างวิพากษ์วิจารณ์กฎหมายฉบับนี้
แต่จีนตอบโต้กลับโดยประณามว่า นี่เป็นการแทรกแซงกิจการภายในของตน