รอยเตอร์ – สภาประชาชนแห่งชาติจีนลงมติผ่านร่างกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่เพื่อบังคับใช้กับฮ่องกงแล้วในวันนี้ (30 มิ.ย.) ซึ่งอาจเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของวิถีชีวิตชาวฮ่องกงนับตั้งแต่อดีตอาณานิคมอังกฤษแห่งนี้ถูกส่งกลับสู่อ้อมอกจีนเมื่อ 23 ปีก่อน ขณะที่สหรัฐฯ เริ่มกระบวนการถอดสถานะพิเศษของฮ่องกงโดยจะระงับส่งออกอาวุธ และจำกัดการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง
Cable TV ของฮ่องกงรายงานว่า คณะกรรมการประจำของสภาประชาชนแห่งชาติจีน (Standing Committee of China's National People's Congress) ได้ลงมติผ่านร่างกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ด้วยคะแนนเสียงที่เป็นเอกฉันท์
กฎหมายฉบับนี้ได้กระพือความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐฯ, อังกฤษ และชาติตะวันตกอื่นๆ ซึ่งมองว่าปักกิ่งกำลังลิดรอนอำนาจปกครองตนเองขั้นสูงของฮ่องกง ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญในการรับมอบเกาะคืนจากอังกฤษเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ปี 1997
เพื่อเป็นการตอบโต้จีน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้ประกาศ “ระงับการปฏิบัติเป็นกรณีพิเศษต่อฮ่องกง ซึ่งรวมถึงข้อยกเว้นเรื่องใบอนุญาตส่งออก” และอยู่ระหว่างพิจารณามาตรการขั้นต่อไปเพื่อเพิกถอนสถานะพิเศษของเกาะศูนย์กลางการเงินแห่งนี้ตามกฎหมายสหรัฐฯ
“เราขอเรียกร้องให้ปักกิ่งเปลี่ยนความตั้งใจเสีย และปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ได้ให้ไว้ต่อชาวฮ่องกงและทั่วโลก” กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุ
แคร์รี ลัม ผู้บริหารสูงสุดฮ่องกง ระบุในการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ว่า ไม่ใช่เรื่องเหมาะสมที่เธอจะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกฎหมายความมั่นคง เนื่องจากการประชุมที่ปักกิ่งยังไม่เสร็จสิ้น แต่ขณะเดียวกันก็ย้ำว่า “เราไม่เกรงกลัวการคว่ำบาตรในรูปแบบใดๆ ทั้งนั้น”
รัฐบาลจีนระบุว่า กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องปราม “การบ่อนทำลายรัฐ, ก่อการร้าย, แบ่งแยกดินแดน และสมคบคิดกับรัฐบาลต่างชาติ” หลังจากฝ่ายเรียกร้องประชาธิปไตยฮ่องกงได้จัดการชุมนุมประท้วงที่ยืดเยื้อและนำไปสู่เหตุรุนแรงเมื่อปีที่แล้ว
สำนักข่าวซินหวาของจีนได้เผยแพร่เนื้อหาบางส่วนของกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ รวมถึงข้อที่ระบุว่ากฎหมายนี้จะถูกนำมาใช้แทนกฎหมายที่มีอยู่เดิมของฮ่องกง และอำนาจในการตีความเป็นของคณะกรรมการสูงสุดของสภาประชาชนจีน
จีนจะเข้าไปตั้งสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติขึ้นในฮ่องกงเพื่อ “กำกับดูแลและสนับสนุน” ฝ่ายบริหารของ ลัม และอาจใช้อำนาจศาลจีนเข้าไปตัดสินในบางคดี
หลังจากนี้คาดว่าผู้พิพากษาในคดีความมั่นคงจะต้องได้รับการแต่งตั้งโดยผู้บริหารสูงสุดฮ่องกง จากปัจจุบันที่ผู้พิพากษาอาวุโสจะเสนอรายชื่อผ่านกระบวนการทางศาลซึ่งมีความเป็นอิสระ
ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่ากิจกรรมอะไรบ้างที่จะกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และกฎหมายความมั่นคงได้ให้คำนิยามหรือกำหนดบทลงโทษเอาไว้อย่างไร
หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์อ้างแหล่งข่าวซึ่งระบุว่า สำนักข่าวซินหวาจะเผยแพร่รายละเอียดของกฎหมายความมั่นคงในช่วงบ่ายวันนี้ (30) และเจ้าหน้าที่ฮ่องกงก็จะประชุมกันที่สำนักงานผู้แทนสูงสุดของจีนเพื่อหารือเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย
ทางการจีนและฮ่องกงได้เอ่ยย้ำหลายครั้งว่า กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่จะพุ่งเป้าเล่นงานเฉพาะ “พวกที่สร้างปัญหา” แค่ไม่กี่คน และจะไม่กระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนส่วนใหญ่ รวมถึงผลประโยชน์ของนักลงทุนด้วย
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอังกฤษชี้ว่าจีนกำลังละเมิดพันธกรณีที่มีต่อนานาชาติและข้อตกลงส่งคืนเกาะฮ่องกง ซึ่งรับรองว่าเกาะแห่งนี้จะต้องมีอำนาจปกครองตนเองขั้นสูงอย่างน้อย 50 ปี ภายใต้สูตร “หนึ่งประเทศ-สองระบบ”
ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า “การตัดสินใจของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่จะลิดรอนเสรีภาพของฮ่องกงทำให้รัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จำเป็นต้องทบทวนนโยบายที่มีต่อเกาะแห่งนี้” โดยตั้งแต่วันจันทร์ (29) เป็นต้นไป สหรัฐฯ จะงดส่งออกยุทโธปกรณ์กลาโหมต่างๆ ให้แก่ฮ่องกง และจะเริ่มดำเนินการเพื่อระงับส่งออกเทคโนโลยีที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งในเชิงพาณิชย์และการทหาร (dual-use technologies) ด้วย
“สหรัฐฯ จำเป็นต้องใช้มาตรการนี้เพื่อปกป้องความมั่นคงของเราเอง เราไม่สามารถแยกแยะระหว่างการส่งออกสินค้าควบคุมไปยังฮ่องกงหรือจีนแผ่นดินใหญ่ได้อีกต่อไป” พอมเพโอ กล่าว
โยชิฮิเดะ สุงะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น แถลงวันนี้ (30) ว่า หากจีนตัดสินใจบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงกับฮ่องกงจริงๆ ก็ถือเป็นเรื่องที่ “น่าเสียใจ”
ก่อนหน้านี้ รัฐสภายุโรปได้มีมติเรียกร้องให้สหภาพยุโรป (อียู) ยื่นฟ้องศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ที่กรุงเฮก หากจีนเดินหน้าใช้กฎหมายความมั่นคงกับฮ่องกง