เอเอฟพี – ทีมหาเสียงของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กำหนดให้ผู้สนับสนุนที่จะเข้าฟังการปราศรัยที่รัฐโอคลาโฮมาช่วงกลางเดือนนี้ทำสัญญายอมรับความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 และ “ไม่ฟ้องร้องดำเนินคดี” กับผู้จัดงานในทุกกรณี
ทรัมป์ ประกาศเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (10 มิ.ย.) ว่าจะเริ่มออกเดินสายหาเสียงอีกครั้งใน 4 รัฐ ได้แก่ โอคลาโฮมา, ฟลอริดา, แอริโซนา และนอร์ทแคโรไลนา แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐฯ จะยังน่ากังวลก็ตาม
ไวรัสมรณะชนิดนี้ได้คร่าชีวิตประชากรสหรัฐฯ ไปแล้วกว่า 113,000 คน และมีผู้ติดเชื้อสะสมทั่วประเทศเกินกว่า 2 ล้านคน
ฟลอริดาและนอร์ทแคโรไลนาจัดเป็นพื้นที่เสี่ยงที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่วันมานี้
เว็บไซต์หาเสียงของ ทรัมป์ ได้เปิดให้ประชาชนที่สนใจลงทะเบียนเพื่อร่วมฟังการปราศรัยของผู้นำสหรัฐฯ ในเมืองทัลซา (Tulsa) รัฐโอคลาโฮมา ในวันที่ 19 มิ.ย. นี้ โดยมีข้อความระบุว่า “เมื่อท่านคลิกลงทะเบียน ถือว่าท่านได้รับทราบความเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อโควิด-19 ในสถานที่สาธารณะซึ่งมีคนอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก ในการร่วมฟังปราศรัยครั้งนี้ ท่านและผู้เข้าร่วมงานทุกคนเต็มใจที่จะยอมรับความเสี่ยงสัมผัสเชื้อโควิด-19 และสัญญาว่าจะไม่เรียกร้องความรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้นจากทีมหาเสียงทรัมป์ ตลอดจนองค์กรที่เกี่ยวข้อง, คู่สัญญา และลูกจ้างทุกคน”
ทั้งนี้ เพจดังกล่าวไม่ได้ระบุว่าผู้จัดงานจะมีมาตรการป้องกันความเสี่ยง เช่น กำหนดให้ผู้เข้าร่วมต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือไม่อย่างไร
แผนการหาเสียงของ ทรัมป์ ที่เมืองทัลซาจุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์พอสมควร ในขณะที่อเมริกากำลังเผชิญเหตุจลาจลต่อต้านการเหยียดผิวและความรุนแรงของตำรวจ ซึ่งมีชนวนเหตุมาจากกรณีหนุ่มผิวสี ‘จอร์จ ฟลอยด์’ เสียชีวิตระหว่างถูกตำรวจจับกุมเมื่อวันที่ 25 พ.ค.
คามาลา แฮร์ริส ส.ว.แคลิฟอร์เนียซึ่งถูกคาดหมายว่าอาจจะได้เป็นคู่ชิงรองประธานาธิบดีของ โจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครตในเดือน พ.ย. ประณามแผนการปราศรัยของ ทรัมป์ ว่าเป็น “ปาร์ตี้ต้อนรับกลับบ้าน” ของพวกคลั่งลัทธิผิวขาวเป็นใหญ่ (ไวท์ซูพรีเมซิสต์)
ทำเนียบขาวได้ออกมาตอบโต้เสียงวิจารณ์เมื่อวานนี้ (11) โดยระบุว่า วันที่ 19 มิ.ย. หรือ ‘Juneteenth’ ซึ่งเป็นวันที่ทาสในอเมริกาได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระจากคนขาวเมื่อปี 1865 ถือเป็นวันที่มีความหมายสำหรับทรัมป์ และเขาอยากจะใช้โอกาสพิเศษนี้บอกเล่าความก้าวหน้าที่รัฐบาลได้สร้างให้กับชาวอเมริกันผิวสี
สำหรับ ไบเดน นั้นยังไม่ได้ประกาศว่าจะเริ่มออกเดินสายหาเสียงอีกครั้งเมื่อไหร่