เอเอฟพี - สภาบริหารเมืองมินนีอาโปลิสมีมติยุบสำนักงานตำรวจเพื่อเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปครั้งใหญ่เมื่อวานนี้ (7 มิ.ย.) หลังการเสียชีวิตของหนุ่มผิวสี ‘จอร์จ ฟลอยด์’ กลายเป็นชนวนให้ชาวอเมริกันทั่วสหรัฐฯ ลุกฮือประท้วงพฤติกรรมเหยียดเชื้อชาติในหมู่เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย
ฟลอยด์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 พ.ค. หลังถูก ดีเร็ก ชอวิน (Derek Chauvin) ตำรวจมินนีอาโปลิส ใช้เข่ากดที่ลำคอไว้เป็นเวลานานเกือบ 9 นาที ซึ่งต่อมานายตำรวจผิวขาวผู้นี้ถูกตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาแต่ไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน (second-degree murder) และมีกำหนดขึ้นศาลในวันนี้ (8)
“เราจะยุบสำนักงานตำรวจมินนีอาโปลิส และจะตั้งหน่วยงานรักษาความสงบเรียบร้อยรูปแบบใหม่ที่จะทำให้ชุมชนของเราปลอดภัยอย่างแท้จริง” ลิซา เบนเดอร์ ประธานสภาบริหารเมือง ให้สัมภาษณ์ต่อซีเอ็นเอ็น
เจค็อบ เฟรย์ นายกเทศมนตรีมินนีอาโปลิส ไม่เห็นด้วยกับแผนยุบสำนักงานตำรวจ ขณะที่ บ็อบ ครอลล์ ประธานสหภาพตำรวจของเมืองแห่งนี้ ก็เคยปรากฏตัวบนเวทีปราศรัยร่วมกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อปีที่แล้ว
มติเสียงส่วนใหญ่ของสภาบริหารเมืองมินนีอาโปลิสมีขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากที่ เฟรย์ ถูกผู้ประท้วงซึ่งเดินขบวนไปที่บ้านพักของเขาโห่ไล่ ซึ่งต่อมา เฟรย์ ให้สัมภาษณ์ยืนยันกับเอเอฟพีว่า ตน “สนับสนุนให้มีการปฏิรูปเชิงโครงสร้างเพื่อแก้ไขปัญหาการเหยียดเชื้อชาติอย่างเป็นระบบ” แต่ไม่ใช่การยุบสำนักงานตำรวจทิ้งไปเลย
คลิปวิดีโอจากผู้เห็นเหตุการณ์ซึ่งเผยวินาทีที่ ฟลอยด์ ร้องเรียกหาแม่และพูดว่า “หายใจไม่ออก” ปลุกเร้าชาวอเมริกันทั่วประเทศให้ลุกขึ้นมาประท้วงการตายของเขา ทว่าเมื่อวานนี้ (7) กลุ่มผู้ชุมนุมทั้งในวอชิงตัน, นิวยอร์ก และเมืองวินเทอร์ปาร์ก รัฐฟลอริดา เริ่มเบนเป้าหมายไปสู่การเรียกร้องให้มีการปฏิรูปตำรวจและส่งเสริมความยุติธรรมทางสังคม
การที่ ทรัมป์ เลือกใช้วิธีรุนแรงปราบปรามเหตุจลาจลทำให้อดีตนายพลวันเกษียณหลายคน ซึ่งโดยปกติแล้วจะไม่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีพลเรือน ถึงกับอดรนทนไม่ได้ หนึ่งในนั้นคือ พล.อ.คอลิน เพาเวลล์ อดีตประธานเสนาธิการทหารร่วมและอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งวิจารณ์ ทรัมป์ ว่าทำอะไร “ไม่แคร์รัฐธรรมนูญ” และทำให้สถานะของอเมริกาย่ำแย่ลงในสายตาชาวโลก ทั้งยังประกาศด้วยว่าตนจะไปโหวตเลือก โจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครตเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ในเดือน พ.ย.นี้
ฝ่านบริหารท้องถิ่นบางแห่งได้เริ่มปฏิรูปการทำงานของตำรวจ โดยห้ามใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางกับผู้ชุมนุมประท้วง ขณะทื่ บิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนิวยอร์ก ให้สัมภาษณ์วานนี้ (7) ว่าจะหั่นงบอุดหนุนสำนักงานตำรวจ และผันเงินทุนบางส่วนไปใช้อุดหนุนกิจกรรมของเยาวชนและงานบริการทางสังคมแทน