ชนวนที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในหลายเมืองใหญ่ในอเมริกาและทั่วโลกขณะนี้ มีต้นเหตุจากความเหลื่อมล้ำทางเชื้อชาติและทำให้เกิดการเลือกปฏิบัติ เป็นปมที่ถูกทับถมมาหลายปี และเกิดแรงพลังปะทุขึ้นอีกครั้งหลังเหตุการณ์เสียชีวิตของชายผิวสีชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันที่ถูกตำรวจจับกุมด้วยวิธีการรุนแรงจนถึงแก่ชีวิต ในเมืองมินนิแอโพลิส รัฐมินนิโซตา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
“ชาตรี ศิษย์ยอดธง” ประธานและซีอีโอของ วัน แชมเปียนชิพ และนักกีฬาของ ONE รวมถึงเหล่าคนดังทั่วโลก ต่างพร้อมใจกันออกมาแสดงเจตนารมณ์นี้อย่างชัดเจน ด้วยการเขียนข้อความ และการแสดงภาพสีดำเป็นสัญลักษณ์ พร้อมด้วยแฮชแท็ก #BlackLivesMatter และ #BlackoutTuesday
ข้อความของ นายชาตรี ที่โพต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อวันพุธที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา แปลเป็นไทยบางส่วนได้ว่า
“ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่ามนุษย์ทุกคนควรได้รับการปฏิบัติอย่างยุติธรรมและเท่าเทียมกัน ผมยังเชื่อในโอกาสที่เท่าเทียมกันสำหรับทุกคน มันไม่ถูกต้องที่จะเลือกปฏิบัติต่อกันเพียงเพราะเชื้อชาติ, ศาสนา, เพศสภาพ, รสนิยมทางเพศ, สัญชาติ, การศึกษา, สถานภาพทางสังคม ฯลฯ”
“สำหรับชาวแอฟริกัน-อเมริกันแล้วไม่มีอะไรมากกว่าความอยุติธรรม มันเป็นภาพสะท้อนที่แย่ที่สุดของมนุษยชาติ แต่เราก็ยังยอมให้ชาติพันธุ์ของมนุษย์กลุ่มใหญ่ต้องทนทุกข์ทรมาน 240 ปีที่ชาวแอฟริกัน-อเมริกันต้องตกเป็นทาส อีก 100 ปีต่อมาชาวแอฟริกัน-อเมริกันถูกกีดกัน ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมาพวกเขาได้รับสิทธิที่เท่าเทียมกันแค่ลมปาก เพราะความเป็นจริงที่เกิดขึ้นคือการเหยียดเชื้อชาติยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน และผลที่ตามมาของความอยุติธรรมนี้จะคงอยู่ไปอีกหลายร้อยปี ชาวแอฟริกัน-อเมริกันได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม, ถูกทารุณกรรม และถูกตั้งแง่โดยเจ้าหน้าที่และสังคม เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่มีสิทธิเท่าเทียมคนอื่น บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องยืนหยัดต่อสู้กับความอยุติธรรมที่เกิดขึ้น เวลาที่จะต้องยืนหยัดเพื่อต่อต้านความทุกข์ทรมาน เวลาที่พวกเราจะร่วมใจกันยืนหยัดต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ ผมขอยืนอยู่เคียงข้างชาวแอฟริกัน-อเมริกัน ผมจะอยู่ข้างคนผิวดำในทุกที่ ผมจะอยู่ข้างมวลมนุษยชาติ”
“บอกตามตรงผมเองก็เป็นหนี้บุญคุณอเมริกาอย่างมาก ประเทศนี้ให้โอกาสอันล้ำค่าที่จะใช้ชีวิตในฝันแบบอเมริกัน ผมเริ่มต้นจากชีวิตแร้นแค้นมีเงินดำรงชีพแค่ 4 ดอลลาร์ต่อวัน จนกระทั่งบรรลุเป้าหมายชีวิตในฝันของผม ผมเป็นหนี้บุญคุณอเมริกาในหลายๆ ด้านที่มอบชีวิตเช่นนี้ให้กับผม ผมสามารถบอกคุณได้จากประสบการณ์ส่วนตัวว่า อเมริกาเป็นประเทศที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง มันถูกสร้างขึ้นบนข้อเท็จจริงของค่านิยมและหลักการที่ต้องผ่านกาลเวลา แม้จะเผชิญความมืดมนในวันนี้ แต่ผมรู้ว่าอเมริกาจะต้องหาทางกลับมารวมตัวกันและฟื้นตัวอีกครั้งในฐานะประเทศชาติ #BlackLivesMatter #WeAreONE”
นอกจากข้อความของ นายชาตรี แล้ว ใน Instagram ของ วัน แชมเปียนชิพ ก็ได้โพสต์ภาพสีดำเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในการแสดงจุดยืนเรื่องการเหยียดผิวนี้ โดยที่ผ่านมา วัน แชมเปียนชิพ ได้มีการรณรงค์และต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่ากับชาวแอฟริกัน-อเมริกัน, เอเชีย-อเมริกัน และไม่ว่าชาติพันธุ์ใดก็ตาม