xs
xsm
sm
md
lg

In Clip : คนกีฬาสหรัฐฯ สับแหลก “ไทเกอร์ วูดส์” แถลงสนับสนุนตำรวจ - เอเชียนอเมริกันร้อง “ถึงเวลาเป็นหนึ่งเดียวกับผิวสี” หลัง ตร.เชื้อสายม้ง โดนข้อหาฆ่าฟลอยด์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์/MGR ออนไลน์ - ล่าสุดช่องกีฬา ESPN ได้ออกมาสับแหลก ไทเกอร์ วูดส์ กรณีที่ออกแถลงการณ์การสังหาร จอร์จ ฟลอยด์ โดยชี้ว่า เขาให้การเคารพตำรวจเสมอ พร้อมประณามการประท้วงรุนแรง ส่งผลทำให้สังคมชาวผิวสีที่ถูกตำรวจผิวขาวทำร้ายมาตลอดไม่พอใจอย่างหนัก ด้านสังคมเอเชียนอเมริกันออกมาเรียกร้องให้ชาวเอเชียในสหรัฐฯ ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับแอฟริกันอเมริกันชี้ การเหยียดสีผิวไม่ได้เกิดแค่ผิวดำหลัง ทู ทาว (Tou Thao) ตำรวจอเมริกันเชื้อสายเผ่าม้ง เป็น 1 ใน 4 ผู้ต้องหาฆ่า จอร์จ ฟลอยด์

ESPN สื่อกีฬาสหรัฐฯ รายงาน (3 มิ.ย.) ผ่านทางยูทูปถึงแถลงการณ์ของนักกีฬาไทย-อเมริกันชื่อดังระดับโลก ไทเกอร์ วูดส์ ถึงแถลงการณ์ที่ออกมาเกี่ยวกับการประท้วงการเสียชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์ โดย สตีเฟน เอ. สมิธ (Stephen A. Smith)7นักจัดแอฟริกันอเมริกันของ ESPN แสดงความไม่พอใจที่วู๊ดส์ออกมาแสดงความเห็นเข้าข้างตำรวจที่ใช้ความรุนแรง และประณามการประท้วงก่อเหตุที่ลุกลามไปทั่วโลกในเวลานี้

โดยกล่าวว่า “ ไทเกอร์ วูดส์ เป็นผิวดำที่มีพ่อผิวดำและแม่ชาวเอเชียที่มีประสบการณ์มากอย่างเพียงพอในหลายสิ่งที่ชาวผิวสีทั่วไปประสบมาที่ผมคิดว่าเราควรมีระดับในการเข้าใจหรือเห็นอกเห็นใจในอย่างน้อยที่สุดของข้อเท็จจริงของประสบการณ์แอฟริกันอเมริกันที่ไม่ใช่บางสิ่งที่เขามีประสบการณ์ในทางลบบ่อยครั้งในช่วงชีวิตของเขา และผลก็คือ ซึ่งมันอาจไม่ใช่การปราศจากการสนใจ มันอาจไม่ใช่ “ผมไม่สน” (เพราะ)มันอาจเป็นว่า “ผมไม่รู้ก็ได้”

เขากล่าวต่อในรายการที่ได้มีการสนทนากับผู้เข้าร่วมการสนทนาอีก 2 คนโดยชี้ว่า “คุณต้องเข้าใจว่ามีคนบางพวกที่ไม่รู้เลย คนเหล่านี้ไม่มีความพอในกับสิ่งที่ตัวเองเป็น (ในความหมายที่ว่าไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วตัวเองเป็นใครผิวสีหรือผิวอื่น เป็นต้น)” โดยยกตัวอย่างไปที่ ไมเคิล คอลลินส์ (Michael Collins) นั้นมีความสุขกับสีผิวของตัวเอง แต่สำหรับไทเกอร์ วู๊ดส์ ไม่เคยแสดงตัวต่อสาธารณะทางอากาศว่า ตัวเองมีความเป็นผิวดำอยู่ในตัวเอง

ซึ่งสมิทกล่าวอย่างดุเดือดว่า “พวกเราต่างรู้กันดีว่าเมื่อตำรวจหยุดคุณคนเหล่านั้นรู้ว่าคุณเป็นผิวดำ พวกเรารู้เรื่องนี้ดีหมดแล้ว ดังนั้น คุณมีกลุ่มคนที่มีความสุขกับมันและบางส่วนที่ไม่และนั่นเป็นสิ่งที่ผมพูดถึงแบล็กอเมริกา(อเมริกาในสายตาของคนผิวสี) และผมพยายามให้การศึกษากับไวท์อเมริกา (อเมริกาในสายตาคนผิวขาว)ถึงความเข้าใจถึงความต่าง ซึ่งนั่นมีความต่าง”

และกล่าวต่อว่า “และนั่นเป็นความแตกต่างระหว่างใครก็ตามที่ไม่รับรู้ ใครก็ตามที่เพิกเฉย คนเหล่านี้อยู่ในความกลัวต่อความเป็นตัวเอง ซึ่งต่างจากคนที่มีความพอใจ(กับตัวเอง)และเลือกมันถึงแม้ว่าจะมีความสะดวกสบายในการเป็นคนขี้ขลาด ซึ่งนั้นเป็นความแตกต่าง ซึ่งนั่นเป็นที่มาของการเป็นคนขี้ขลาด”

CNN รายงานเมื่อวันที่ 2 มิ.ย ถึงแถลงการณ์ของ ไทเกอร์ วู๊ดส์ ที่ออกมาผ่านทางทวิตเตอร์ในวันเดียวกันโดยนอกจากจะแสดงความชื่นชมตำรวจแล้วและยังประณามความรุนแรงที่มาจากการประท้วงโดยอ้างไปถึง การจลาจลเมืองแอลเอ ปี 1992 เกิดจาก ร็อดนี คิง (Rodney King) และทำให้มีผู้เสียชีวิต 63 คนมีใจความว่า

“หัวใจของผมไปอยู่กับ จอร์จ ฟลอยด์ คนที่เขารัก และทุกคนที่กำลังอยู่ในความเจ็บปวดเวลานี้ ผมนั้นที่ผ่านมาตลอดให้การเคารพอย่างสูงสุดต่อเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายของพวกเรา คนเหล่านั้นได้รับการฝึกอย่างแข็งขันเพื่อให้เข้าใจว่าเมื่อไหร่ เวลาใด และที่ไหนที่จะใช้กำลัง ซึ่งเหตุการณ์ที่น่าตกใจนี้เห็นได้ชัดว่าล้ำเส้นนั้นไป ผมยังจำได้ถึงการจลาจลเมืองแอลเอ และรู้ว่าการให้การศึกษาเป็นหนทางที่ดีที่สุดของการนำไปสู่ เราสามารถตกลงกันได้โดยที่ไม่ต้องเผาชุมชนที่เราอาศัย ผมหวังว่าการพูดคุยอย่างสร้างสรรค์ ตรงไปตรงมา เราจะสามารถสร้างสังคมที่เป็นหนึ่งเดียวและปลอดภัยได้”

ขณะที่สื่อ Undisputed Today ได้ออกมาสับวู๊ดส์อย่างรุนแรงโดยผู้จัดที่เป็นผิวสีได้อ่านแถลงการณ์ของวู๊ดสและหยุดตรงถึงข้อความที่ว่า “...ผมนั้นที่ผ่านมาตลอดให้การเคารพอย่างสูงสุดต่อเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายของพวกเรา...” โดยตั้งคำถามว่า “นี่มันเรื่องอะไรกัน ไทเกอร์?” และชี้ว่า นอกเหนือจากเอ่ยชื่อ “จอร์จ ฟลอยด์” แล้วคุณไม่กล่าวถึงอย่างอื่นเลยถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในอเมริกาถึงต้นตอที่ทำให้เกิดเหตุ” และกล่าวแสดงความเห็นอีกว่า “คุณคิดว่ามันแค่ จอร์จ ฟลอยด์” พร้อมชี้ไปอีกย่อหน้าโดยเอ่ยว่า “ในอีกย่อหน้าถัดไปคุณได้แสดงความชื่นชมต่อกลุ่มคนที่ทำต่อสิ่งนี้ (ตำรวจสหรัฐฯ)”

ผู้จัดผิวสียังกล่าวย้อนไปถึงสมัยที่วู๊ดส์เพิ่งเริ่มต้นเล่นกอล์ฟว่า วู๊ดส์เคยกล่าวว่า เขาต้องการชนะรายการมาสเตอร์เพราะคนเหล่านั้นไม่ต้องการให้คนผิวสีเล่นกอล์ฟในสนาม

อย่างไรก็ตาม นักจัดรายการแสดงความเห็นว่า อาจเป็นที่วู๊ดส์ไม่ต้องการไปกระทบคนผิวขาวที่มีเงินสามารถซื้ออุปกรณ์กีฬากอล์ฟของไนกี้ก็เป็นได้

ทั้งนี้ เอพีเคยรายงานเมื่อวันที่ 23 เม.ย 1997 ว่า ไทเกอร์ วู๊ดส์ เคยออกมาแสดงความเห็นต่อสาธารณะถึงเชื้อชาติของตัวเองสมัยที่อายุได้ 21 ปีว่า เขาไม่ใช่ทั้งแอฟริกันอเมริกันหรือเอเชีย แต่เป็น “Cablinasian” ซึ่งเป็นคำใหม่ที่เขาคิดค้นขึ้นเองมาจากการที่ตัวเองมีเชื้อชาติ คอเคเชียน แอฟริกัน อเมริกันชนพื้นเมือง เอเชีย และดัตท์

และจากปัญหาเชื้อชาติกีดกันสีผิวที่กลายเป็นเรื่องลุกลามจนทำให้ ชุมชนชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียออกมาเรียกร้องให้ ชาวเอเชียที่รู้กันดีมักจะเงียบเสียงและไม่สุงสิงใครให้ลุกขึ้นมาเป็นหนึ่งเดียวกับแอฟริกันอเมริกันเพราะการเหยียดสีผิวไม่ได้เกิดแค่กับชาวผิวดำเท่านั้น ซึ่งจากเหตุการสังหารจอร์จ ฟลอยด์ที่เมืองมินนีอาโปลิส รัฐมินเนโซตา ในวันเมโมเรียลเดย์นั้น พบว่า 1 ใน 4 ของตำรวจที่ถูกตั้งขอหาสังหารฟลอยด์มี "ทู ทาว" (Tou Thao) ตำรวจชาวอเมริกันเชื้อสายเผ่าม้งที่มีประวัติเคยร้องเรียนการใช้ความรุนแรงในการทำหน้าที่ถูกให้ออกจากงานรวมอยู่ด้วย

อ้างอิงจากสื่อ en.as.com พบว่า เขาถูกตั้งข้อหาให้การสนับสนุน และส่งเสริมในการฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา (second-degree murder) ซึ่งตามกฎหมายแล้วเขาสามารถถูกจำคุกได้สูงสุด 40 ปีในเรือนจำ

โดยสื่อ NPR ของสหรัฐฯ รายงานว่า การปรากฏตัวร่วมอยู่ของ ทาวนั้นสร้างความอึดอัดให้ที่ไม่แค่แต่เป็นการเพิ่มความตรึงเครียดให้เกิดขึ้นกับกลุ่มชุมชนชาวเอเชียและชุมชนแอฟริกันอเมริกันในเขตเมืองทวิน ซิตี้ (Twin Cities) แต่ยังเป็นเหมือนมีดที่ทำให้เกิดความแตกแยกในชุมชนผู้อพยพที่เหนียวแน่นในสหรัฐฯ

ทั้งนี้ พบว่า ทาวสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนตำรวจในปี 2009 และเคยถูกแอฟริกันอเมริกันรายหนึ่งฟ้องร้องถึงการใช้ความรุนแรงมาแล้วก่อนหน้า ซึ่งเขามีประวัติการใช้ความรุนแรงระหว่างการปำิบัติหน้าที่ไม่ต่ำกว่า 6 ครั้ง

NPR รายงานว่า นับตั้งแต่การเสียชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์ ชุมชนชาวม้งวิตกว่าพวกเขาจะตกเป็นเป้าถูกทำร้าย Thao-Urabe ผู้อพยพชาวม้งและหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรผู้นำชาวเอเชียเชื้อสายอเมริกัน( Coalition of Asian American Leaders) ซึ่งไม่เคยรู้จักเจ้าหน้าที่ตำรวจ Thao มาก่อนแสดงความเห็นว่า

“ดิฉันคิดว่าในอเมริกา เมื่อเราชาวเอเชียรวมตัวกัน นั่นจะเชื่อได้ว่ามีความสำเร็จเกิดขึ้นแน่นอน” และกล่าวต่อว่า “ผู้คนมักคิดเอาว่าถ้าหากว่าคุณเป็นอเมริกันเชื้อสายเอเชีย คุณต้องมีการศึกษา คุณต้องทำเงินได้เยอะ และนี่ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับชุมชนนี้”

ขณะที่ เอ็ด บ็อก ลี (Ed Bok Lee) ซึ่งเป็นกวีและนักเคลื่อนไหวแสดงความเห็นว่า ในกรณีที่ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียแสดงความไม่ชอบแอฟริกันอเมริกันนั้นเป็นเพราะคนเหล่านี้มองคนผิวสีผ่านเลนส์แนวคิดเหยียดผิว รูปแบบกีดกันเชื้อชาติยุคล่าอาณานิคมของผิวขาวอยู่

ลีกล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่สังคมเอเชียนอเมริกันต้องกลับมาคิด

CNN รายงานว่า ในวิดีโอคลิปฟลอยด์ถูกสังหาร มีเสียงตะโกนสั่งให้เช็กชีพจรของฟลอยด์ แต่ ทาวนั้นไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ไม่แสดงอาการใดๆ และหลีกเลี่ยง ซึ่งเป็นการเพิกเฉยที่สร้างความเจ็บปวดให้กับผู้พบเห็น ความเงียบที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของชาวเอเชียในสหรัฐฯ ที่มาจากความอึดอัดที่ต้องสื่อสารในภาษาที่ 2 ในประเทศที่ไม่คุ้นเคย ต้องอยู่ท่ามกลางสังคมที่ต่างออกไปที่การแสดงออกหมายถึงความเป็นผู้ชนะและน่ายกย่อง ส่วนการนิ่งเงียบหรือการยอมตามโดยที่ไม่ต้องการมีเรื่องกลายเป็นความขี้ขลาดและน่าเย้ยหยัน


p











กำลังโหลดความคิดเห็น