ฟ็อกซ์นิวส์ - ตำรวจในนอร์เทิร์น แคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ในวันพุธ (3 มิ.ย.) กำลังตามล่าพวกผู้ต้องสงสัย หลังพวกก่อจลาจลระหว่างการประท้วงต่อต้านเหยียดผิว บุกทุบทำลายสินทรัพย์ของตัวแทนจำหน่ายแห่งหนึ่งของไครสเลอร์ใกล้ซานฟรานซิสโก พร้อมกับขโมยรถหรูไปมากกว่า 70 คัน เมื่อคืนวันอาทิตย์ (31 พ.ค.) ที่ผ่านมา
คาร์ลอส ฮิดัลโก เจ้าของบริษัทตัวแทนจำหน่ายไครสเลอร์ ดอดจ์ จี๊ป ในซานเลอันโดร บอกว่า แม้เขาได้ทำการปิดทางออกต่างๆ ในมาตรการป้องกันไว้ก่อน แต่พวกหัวขโมยเริ่มขับรถพุ่งชนซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนสามารถออกไปได้ “พวกเขารื้อโซ่และแนวรั้วกั้น มันเป็นการกระทำที่เลวร้ายอย่างมาก” ฟ็อกซ์นิวส์ 2 ในโอ๊กแลนด์รายงาน
“ผมเดินเข้าไปข้างใน ภาพที่เห็นราวอยู่กับในเขตสงคราม” ฮิดัลโกกล่าวหลังเหตุการณ์ผ่านพ้น “มันไม่ได้มีสาเหตุจากคนใดคนหนึ่ง มันเกิดจากพวกหัวขโมยเลวๆ มันน่าขยะแขยง นี่คือการก่อการร้ายภายในประเทศที่สร้างเจ็บปวดแก่คนทำงาน มันไม่ถูกต้อง”
ฮิดัลโกเผยว่า เขาโทรศัพท์แจ้งตำรวจแล้วในคืนเกิดเหตุ แต่ตำรวจนั้นง่วนอยู่กับสถานการณ์ความไม่สงบในที่อื่นๆ
รายงานข่าวระบุว่า พวกหัวขโมยเหล่านี้แยกตัวออกมาจากการชุมนุมอย่างสันติของประชาชนจำนวนหนึ่ง ซึ่งเดินขบวนกันในแถบเบย์อาเรียเมื่อวันอาทิตย์ (31 พ.ค.) เรียกร้องความยุติธรรมให้แก่การเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ โดยห้างไนกี้ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามโดนเล่นงานก่อนเป็นแห่งแรก ก่อนลุกลามบานปลายย้ายฝั่งมาที่ตัวแทนจำหน่ายรถหรูแห่งนี้
หลังจากทุบกระจกบุกเข้าไปในโชว์รูม พวกหัวขโมยก็เข้าถึงกล่องเก็บกุญแจและกดปลดล็อกประตูเพื่อหาตำแหน่งรถ ขณะที่ฟ็อกซ์ 2 รายงานว่า Dodge Challenger SRT Hellcat (ดอดจ์ ชาเลนเจอร์ เอสอาร์ที เฮลแคท) คันละ 90,000 ดอลลาร์ (ราว 2.8 ล้านบาท) ถูกขโมยไปเกือบทุกคัน นอกจากนี้แล้ว พวกก่อจลาจลยังขโมย ดอดจ์ ชาร์เจอร์ เฮลแคท, จี๊ป แรงเลอร์ส และรถกระบะ
ร้อยตำรวจโท เทด เฮนเดอร์สัน จากกรมตำรวจซานเลอันโดร เผยยังไม่ชัดเจนว่า เหตุการณ์นี้เป็นการฉวยโอกาสก่ออาชญากรรมหรือเป็นแผนการที่วางเอาไว้ล่วงหน้า พร้อมยอมรับว่ายังไม่มีการจับกุมใคร แต่ตำรวจกำลังค้นหาวิดีโอบนสื่อสังคมออนไลน์ของเหตุอาชญากรรม และกำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดรอบๆพื้นที่เพื่อระบุตัวตนพวกผู้ต้องสงสัย
จนถึงตอนนี้ตำรวจสามารถยึดรถกลับมาได้แล้วราวๆ 20 ถึง 25 คัน โดยบางคันได้รับความเสียหายและบางส่วนถูกงัดเอาชิ้นส่วนไป “ตอนทีเรากำลังไปเอามันกลับมา ผมเจอรถหลายคันไม่มีเครื่องยนต์” ฮิดัลโกเผย พร้อมประมาณการว่ามูลค่าความเสียหายครั้งนี้น่าจะอยู่ที่ราวๆ 5 ล้านดอลลาร์ (ราว 157 ล้านบาท) และเขามีแผนการ์ดติดอาวุธเข้ามารักษาความปลอดภัยแก่โชว์รูม