เชียงใหม่ - ตร.ภาค 5 พร้อมทหาร-ปกครอง-ป.ป.ส. โชว์ผลงานสกัดขบวนการค้ายานรก 3 รายใหญ่ ลอบขนจากช่องทางชายแดนดอยอ่างขาง-ฝาง เชียงใหม่ ยึดยาบ้ารวมเบ็ดเสร็จเกือบ 18 ล้านเม็ด จับเป็น 5 วิสามัญอีก 1
วันนี้ (1 มิ.ย.) ตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วยฝ่ายทหาร-ฝ่ายปกครอง และ ป.ป.ส.ภาค 5 ได้ร่วมแถลงผลการจับกุมคดียาเสพติดรายใหญ่ 3 ราย สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 5 คน ถูกวิสามัญฆาตกรรม 1 ราย ยึดของกลางยาบ้าได้รวมทั้งสิ้นประมาณ 17,826,000 เม็ด
คดีแรกเกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ ฉก.ม.4 กกล.ผาเมือง จัดกำลังปฏิบัติภารกิจซุ่มโจมตีบริเวณบ้านหินแตว หมู่ 6 ต.เปียงหลวง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ เมื่อ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยประมาณ 8-10 คน แบกเป้สะพายสีดำเดินมาตามเส้นทางในเวลาประมาณ 03.30 น. เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งสัญญาณให้หยุดเพื่อทำการตรวจค้น แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ทิ้งเป้สะพายหลังและอาศัยความมืดหลบหนีไปได้ จากการตรวจสอบพื้นที่ในเบื้องต้นตรวจพบเป้สะพายหลัง 3 เป้ เมื่อจัดกำลังตรวจสอบเพิ่มเติมบเป้สะพายหลังสีดำอีก 8 เป้ รวมเป็น 11 เป้ ยึดยาบ้าได้ประมาณ 2,100,000 เม็ด ซึ่งมีการนำของกลางทั้งหมดส่งให้ สภ.เวียงแหง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีที่ 2 เกิดขึ้นหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 บช.ปส.ได้รับแจ้งจากสายลับว่ากลุ่มนักค้ายาเสพติดของนายปกรณ์ ธานีจิรัฐิติกาล อายุประมาณ 40 ปี กับพวก จะใช้รถยนต์กระบะบรรทุกอีซูซุ ดีแมคซ์ สีฟ้า ทะเบียน นง 8934 เชียงใหม่ และรถยนต์กระบะบรรทุกอีซูซุ ดีแมคซ์ สีเทา ทะเบียน ยง 4270 เชียงใหม่ ลำเลียงยาเสพติดออกจากพื้นที่ ต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ผ่านทางหลวงชนบทหมายเลข 1249 (ทางขึ้น-ลงดอยอ่างขาง) แล้วลำเลียงเข้าพื้นที่ตอนในของประเทศ เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนกระจายกำลังเฝ้าสืบสวนตามเส้นทางดังกล่าว
ต่อมาเวลาประมาณ 20.00 น. (29 พ.ค.) เจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะบรรทุกทั้ง 2 คันตรงตามที่ได้รับแจ้ง ขับมาตามถนน 1249 ผ่านโรงเรียนบ้านปางควาย มุ่งหน้าขึ้นไปทางดอยอ่างขาง เจ้าหน้าที่จึงได้เฝ้าสังเกตการณ์และพบว่า รถยนต์กระบะบรรทุกอีซูซุ ดีแมคซ์ สีเทา ทะเบียน ยง 4270 เชียงใหม่ ซึ่งขับนำหน้าได้วิ่งกลับลงมา ผ่านโรงเรียนบ้านปางควาย เมื่อรถคันดังกล่าวถึงจุดสกัด เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้น พร้อมควบคุมตัวผู้ขับขี่รถทราบชื่อภายหลัง คือ นางสุรีย์ แซ่ลี ส่วนผู้ขับขี่รถยนต์กระบะบรรทุกอีซูซุ ดีแมคซ์ สีฟ้า ทะเบียน นง 8934 เชียงใหม่ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นและควบคุมตัวนางสุรีย์ ได้พยายามขับรถพุ่งชนรถเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพร้อมใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงยิงตอบโต้ หลังเกิดเหตุพบผู้ขับขี่รถดังกล่าวเสียชีวิตภายในรถ ทราบชื่อต่อมาคือ นายปกรณ์ ธานีจิรัฐิติกาล
ตรวจสอบเบื้องต้นพบกระสอบลักษณะบรรจุยาบ้าจำนวนหลายกระสอบอยู่ภายในรถยนต์ ได้สอบถามนางสุรีย์ให้การรับว่านายปกรณ์เป็นสามี ได้ขึ้นไปรับยาบ้าที่บริเวณทางขึ้นลงดอยอ่างขาง นางสุรีย์มีหน้าที่ขับรถนำและตรวจดูเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนนายปกรณ์มีหน้าที่ขับรถขนยาบ้า
เจ้าหน้าที่จึงนำตัวนางสุรีย์ไปทำการตรวจค้นรถยนต์กระบะบรรทุกอีซูซุ ดีแมคซ์ สีฟ้า ทะเบียน นง 8934 เชียงใหม่ พบยาเสพติด (ยาบ้า) 18 กระสอบ จำนวนประมาณ 1,726,000 เม็ด พบอาวุธปืนพกสั้น 1 กระบอกอยู่ภายในรถยนต์ ก่อนนำตัวนางสุรีย์ไปตรวจค้นรถยนต์กระบะบรรทุกอีซูซุ ดีแมคซ์ สีเทา ทะเบียน ยง 4270 เชียงใหม่ แต่ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย จึงแจ้งข้อกล่าวหาและนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่ง พงส.สภ.ฝาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีที่ 3 เกิดขึ้นหลัง ตำรวจ สภ.ฝาง, ชปส.ศอ.ปส.ภ.5, ชุดสกัดกั้นแนวชายแดน ภ.5, ศป.บส.ชน., กกล.ผาเมือง, ตชด.334, ป.ป.ส.ภาค 5 และฝ่ายปกครอง ได้รับแจ้งว่าจะมีรถกระบะบรรทุกติดโครงหลังคาตู้ทึบ ป้ายทะเบียนต่างจังหวัด เข้ามาในพื้นที่ อ.ฝาง เพื่อลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ จึงได้ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และออกสืบสวนในพื้นที่ตลอดคืน 29-30 พ.ค. กระทั่งเวลาประมาณ 00.10 น.วันที่ 30 พ.ค. เจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะติดโครงหลังคาตู้ทึบยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน ยต 628 นครราชสีมา ลักษณะตรงตามที่มีข้อมูล บริเวณบนถนนสายเลี่ยงเมืองฝาง ขับมุ่งหน้าไปทาง อ.ไชยปราการ จึงได้ติดตามรถคันกล่าวไป กระทั่งรถคันดังกล่าวได้เข้าไปจอดอยู่ที่บริเวณลานจอดรถของโรงแรมพื้นที่หมู่ 3 ต.สันทราย อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ จึงประสานกับเจ้าของโรงแรมจนทราบชื่อเข้าของรถคันดังกล่าวคือ น.ส.ณิศมน สมัครณรงค์ ได้มาเช่าพักอยู่ห้องที่ 101 เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบภายในห้อง พบตัว น.ส.ณิศมนอยู่ภายในห้อง
สอบถามเรื่องรถยนต์ น.ส.ณิศมนให้การว่าก่อนหน้านี้ได้โดยสารรถมากับนายสุทัศน์ โนนทอง คนขับรถยนต์คันดังกล่าวเพื่อไปรับยาเสพติดจริง และนายสุทัศน์ได้เช่าพักห้องเลขที่ 202 จึงไปตรวจสอบที่ห้องดังกล่าว พบตัวนายสุทัศน์ โนนทอง อยู่ภายในห้องเลขที่ 202 ซึ่งนายสุทัศน์ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ได้ขับรถยนต์ดังกล่าวไปรับยาบ้า โดยมี น.ส.ณิศมนนั่งโดยสารไปด้วยเพื่อจะนำยาบ้าไปส่งที่กรุงเทพฯ โดยได้จ้างให้นายยอดรัก กลางนา ทำหน้าที่ขับรถนำ และได้เช่าพักอยู่ที่ห้อง 205 เจ้าหน้าที่จึงได้ไปตรวจสอบและจับกุมนายยอดรักได้อีกราย และเมื่อนำผู้ต้องหาทั้ง 3 ไปตรวจสอบรถยนต์บรรทุก พบยาบ้า 77 กระสอบ จำนวนประมาณ 14 ล้านเม็ด อยู่ภายในโครงหลังคาตู้ทึบรถดังกล่าว จึงได้จับกุมตัวทั้งสามคนพร้อมของกลางนำส่ง พงส.สภ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
