xs
xsm
sm
md
lg

จีนเตือนสหรัฐฯ กำลังผลักดันความสัมพันธ์ให้เข้าสู่ ‘ขอบเหวของสงครามเย็นครั้งใหม่’

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


หวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศของจีน พูดระหว่างการแถลงข่าวผ่านวิดีโอลิงก์ออนไลน์ เนื่องในโอกาสการประชุมเต็มคณะของสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติของจีน ณ ศูนย์สื่อมวลชนในกรุงปักกิ่ง วันอาทิตย์ (24 พ.ค.)
เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – สหรัฐฯกำลังผลักดันความสัมพันธ์ที่มีอยู่กับจีนให้เข้าสู่ “ขอบเหวของสงครามเย็นครั้งใหม่” รัฐมนตรีต่างประเทศ หวัง อี้ ของจีน แถลงในวันอาทิตย์ (24 พ.ค.) ขณะเดียวกับที่ปฏิเสธ “การโกหกต่างๆ” ของวอชิงตันในเรื่องไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ พร้อมกับย้ำว่าปักกิ่งเปิดกว้างต้อนรับความพยายามของนานาชาติในการค้นหาต้นตอแหล่งที่มาของเชื้อร้ายนี้

หวัง ซึ่งยังมีตำแหน่งเป็นมนตรีแห่งรัฐ (State Councillor) ที่ตามระบบของจีนเทียบเท่ากับรองนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า สหรัฐฯกำลังมีเชื้อ “ไวรัสทางการเมือง” แพร่ไปทั่วประเทศ ซึ่งแสดงอาการด้วยการกระตุ้นให้พวกบุคคลวงการเมืองในประเทศนั้นคอยโจมตีจีนอย่างต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน

“ไวรัสทางการเมืองนี้ใช้โอกาสทุกๆ โอกาสเพื่อโจมตีและป้ายสีจีน นักการเมืองบางคนนั้นถึงกับไม่แยแสต่อข้อเท็จจริงพื้นฐานทั้งหลาย และเสกสรรปั้นแต่งการโกหกต่างๆ มากมายเหลือเกินเพื่อเล่นงานจีน รวมทั้งวางแผนกโลบายแบบทฤษฎีสมคบคิดมากมายเหลือเกิน”

“มันทำให้เราใส่ใจมองเห็นว่า มีกลุ่มพลังทางการเมืองบางกลุ่มในสหรัฐฯกำลังจับเอาความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯไปเป็นตัวประกัน และกำลังผลักดันประเทศทั้งสองของเราให้เข้าสู่ขอบเหวของสงครามเย็นครั้งใหม่” หวังบอกกับพวกผู้สื่อข่าวระหว่างการแถลงข่าวเนื่องในโอกาสการประชุมเต็มคณะของสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ (รัฐสภาจีน) ที่ปกติจัดขึ้นปีละครั้งและกินเวลาราว 1 สัปดาห์

หวัง ไม่ได้ระบุว่า “กลุ่มพลัง” อะไรที่เขากำลังพาดพิงถึง แต่เท่าที่ผ่านมาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ รวมทั้งรัฐมนตรีต่างประเทศ ไมค์ พอมเพโอ ของอเมริกา เป็นผู้นำในการวิพากษ์โจมตีจีน ตั้งแต่กล่าวหาในลักษณะเสนอทฤษฎีสมคบคิดโดยไม่เคยนำเสนอหลักฐานพิสูจน์ยืนยัน ว่าไวรัสนี้ออกมาจากห้องแล็บในเมืองอู่ฮั่นของจีน ไปจนถึงการประณามว่าปักกิ่งปกปิดอำพรางข้อมูลในช่วงแรกๆ ที่เกิดการระบาด ซึ่งจนถึงเวลานี้เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตไปทั่วโลกมากกว่า 340,000 คน และเศรษฐกิจพากันย่ำแย่เลวร้าย

ถึงแม้เสียงวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ของวอชิงตันถูกมองกันอย่างกว้างขวางในสหรัฐฯ ว่าเป็นความพยายามของทรัมป์ที่จะหันเหความสนใจออกไปจากความผิดพลาดล้มเหลวของทำเนียบขาวเองในการรับมือกับโควิด-19 รวมทั้งมุ่งหวังที่จะหาคะแนนเสียงจากอารมณ์ความรู้สึกในปัจจุบันของคนอเมริกัน ซึ่งผลโพลชี้ว่ามีแนวโน้มที่จะมองจีนในแง่ลบเพิ่มขึ้นมาก


ในการแถลงข่าวครั้งนี้ หวังดูเหมือนจะฟาดกระหน่ำกลับใส่สหรัฐฯที่ยังคงต้องดิ้นรนหนักในการควบคุมไวรัสให้อยู่มือ ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อและจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในอเมริกาต่างติดอันดับ 1 ของโลก

“ผมเรียกร้องสหรัฐฯให้ยุติการผลาญเวลาให้เสียเปล่า และยุติการปล่อยให้ชีวิตอันมีค่าต้องเสียไปอย่างสูญเปล่า” หวัง บอก

เขากล่าวว่า จีน “เปิดกว้าง” สำหรับความร่วมมือระดับระหว่างประเทศในทางวิทยาศาสตร์ เพื่อระบุบ่งบอกต้นตอของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แต่ย้ำว่าการสอบสวนใดๆ ในเรื่องนี้ต้อง “ปลอดจากการแทรกแซงทางการเมือง” ต้องอิงอยู่กับวิทยาศาสตร์ และนำโดยองค์การอนามัยโลก

หวังระบุว่า “บุคคลในวงการเมืองบางคนในสหรัฐฯเร่งรีบที่จะประทับตราไวรัสนี้ และมุ่งทำให้ต้นตอแหล่งที่มาของมันกลายเป็นเรื่องการเมือง ด้วยการประทับตราบาปใส่จีน” มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศจีนบอก พร้อมกับเสริมว่า การสอบสวนใดๆ ของนานาชาติในเรื่องนี้จะต้อง “คัดค้านการตั้งสมมุติฐานเอาไว้ล่วงหน้าว่าใครกระทำความผิด”

นอกจากเรื่องไวรัสโคโรนาแล้ว การที่จีนเสนอร่างกฎหมายฉบับใหม่ต่อสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติเมื่อวันศุกร์ (22) ซึ่งมีเนื้อหาให้บังคับใช้กฎหมายความมั่นคงในฮ่องกง ก็กำลังถูกสหรัฐฯและโลกตะวันตกประณาม โดยบอกว่ามุ่งที่จะใช้มาปราบปรามขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยในเขตบริหารพิเศษของจีนแห่งนั้น

แต่ หวัง แถลงปกป้องแผนการนี้ โดยยืนยันว่าจะต้องนำกฎหมายนี้ออกมาบังคับใช้ “อย่างไม่มีการลังเลแม้แต่นิดเดียว” พร้อมกับเสริมว่า การประท้วงที่ดำเนินอยู่หลายเดือนและมักเป็นไปอย่างรุนแรงในฮ่องกงเมื่อปีที่แล้ว เพื่อคัดค้านต่อต้านอิทธิพลของจีนในศูนย์กลางทางการเงินแห่งนั้น ได้ก่อให้เกิด “อันตรายอย่างร้ายแรงต่อความมั่นคงแห่งชาติของจีน”
กำลังโหลดความคิดเห็น