xs
xsm
sm
md
lg

ทรัมป์ยังชี้นิ้วที่ ‘จีน’ พร้อมโวย ‘โควิด’ เป็นการโจมตีอเมริกาเลวร้ายยิ่งกว่า 911-เพิร์ลฮาร์เบอร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ พูดเรื่องโรคระบาดโควิด-19 ที่ทำเนียบขาว เมื่อวันพุธ (6 พ.ค.)
เอเจนซีส์ - “ทรัมป์” ลั่นวิกฤตโรคระบาดเป็นการ “โจมตี” อเมริกาที่เลวร้ายกว่าเมื่อครั้ง “เพิร์ลฮาร์เบอร์” หรือ “9/11” พร้อมกันนั้น ก็ชี้นิ้วไปที่จีน แขวะซ้ำว่าควรหยุดยั้งไวรัสมรณะตั้งแต่ต้น แถมบอกว่าอีกไม่เกิน 2 สัปดาห์ จะได้รู้ว่า ปักกิ่งทำตามข้อตกลงการค้าเฟส 1 ที่ทำไว้กับวอชิงตันหรือไม่

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงทำ “สงครามน้ำลาย” ไม่หยุดในการกล่าวหาโจมตีจีนเรื่องโควิด-19 หลังจากเล่นไม่เลิกตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตและติดเชื้อในอเมริกายังไปเงเรื่อยๆ และตัวทรัมป์เองกระตือรือร้นอย่างที่สุดที่จะเปิดเมืองและฟื้นเศรษฐกิจที่นิ่งสนิท

ในวันพุธ (6 พ.ค.) ทรัมป์ย้ำว่า เรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้นและน่าจะจบตั้งแต่ที่จีนแล้ว ซึ่งเป็นการพาดพิงถึงโรคระบาดที่ปรากฏขึ้นเป็นที่แรกในเมืองอู่ฮั่น ทางภาคกลางของจีนเมื่อใกล้สิ้นปีที่ผ่านมา พร้อมกับสำทับว่านี่เป็นการโจมตีอเมริกาที่เลวร้ายกว่าตอนที่ญี่ปุ่นโจมตีฐานทัพเรือในอ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์ที่ฮาวายและนำอเมริกาเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 หรือวินาศกรรมเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 ที่มีผู้เสียชีวิตราว 3,000 คน และนำไปสู่สงครามต่อต้านการก่อการร้ายที่ยาวนานถึง 2 ทศวรรษ

ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักข่าวรอยเตอร์ มีชาวอเมริกันเสียชีวิตจากโควิด-19 ขณะนี้อย่างน้อย 71,000 คน และได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ 1.2 ล้านคน

นอกจากทรัมป์แล้ว วันเดียวกันนั้น ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยังออกมาวิจารณ์จีนอีกครั้งด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวว่า จีนเป็นต้นเหตุที่ทำให้ประชากรโลกนับแสนคนต้องล้มตาย และเรียกร้องปักกิ่งอย่าได้ปิดบัง ให้แบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับโรคระบาด

โรคติดต่อจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ถึงแม้ปรากฏขึ้นทีแรกในเมืองอู่ฮั่น แต่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เชื่อว่า ต้นตอของเชื้อโรคนี้มาจากตลาดขายเนื้อสัตว์ป่าในเมืองนั้นและเป็นการแพร่เชื้อจากสัตว์สู่คน แม้กระทั่งนายแพทย์แอนโทนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อ และเป็นสมาชิก “ดังที่สุด” ในทีมเฉพาะกิจรับมือไวรัสโคโรนาของทำเนียบขาว ยังระบุว่า หลักฐานที่ชัดเจนที่สุดแสดงให้เห็นว่า ไวรัสโคโรนาไม่ได้ถูกสร้างขึ้นในห้องแล็บแต่มีวิวัฒนาการในธรรมชาติและกลายพันธุ์

แต่พอมเพโอกลับกล่าวอ้างเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (3) ว่า มีหลักฐานมากมายชี้ว่า ไวรัสนี้มาจากห้องปฏิบัติการไวรัสวิทยาในอู่ฮั่น อย่างไรก็ดี ล่าสุดเมื่อวันพุธ รัฐมนตรีต่างประเทศเมืองลุงแซมเสียงอ่อนลงบ้างในจุดนี้ โดยบอกว่า อเมริกาไม่แน่ใจและกำลังพยายามค้นหาคำตอบ แต่มีหลักฐานมากมายบ่งชี้ว่า ไวรัสหลุดจากห้องปฏิบัติการ

ทางด้านสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่นยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว ขณะที่ หัว ชุนอิง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน สวนกลับว่า พอมเพโอไม่มีหลักฐาน เพราะได้แต่พูดแต่ไม่เคยนำมาแสดง และว่า ถ้ามีหลักฐานจริงควรส่งให้นักวิจัยหรือผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ตรวจสอบ ไม่ใช่นักการเมืองที่หวังผลประโยชน์ทางการเมืองในประเทศ

ชุย เทียนข่าย เอกอัครราชทูตจีนประจำวอชิงตัน ก็แสดงความเห็นผ่านบทความในวอชิงตันโพสต์ว่า การกล่าวหาจีนไม่ได้ช่วยให้โรคระบาดจบ แต่ตอนนี้เป็นเวลาที่ควรให้ความสนใจในการเอาชนะโรคและฟื้นความไว้วางใจระหว่างสองประเทศ

เคย์ลีห์ แมคเอนานี โฆษกทำเนียบขาวที่เพิ่งเข้าดำรงตำแหน่งหมาดๆ แถลงข่าวที่ทำเนียบขาววันพุธ (6 พ.ค.)
อดีตเจ้าหน้าที่ นักวิชาการ และคอลัมนิสต์บางคนที่วิจารณ์ทรัมป์ มองว่า แม้จีนต้องให้ความกระจ่างเกี่ยวกับมาตรการของตนเองในการรับมือการระบาดในช่วงแรกๆ แต่เห็นได้ชัดว่า สิ่งที่คณะบริหารของสหรัฐฯ ทำอยู่ตอนนี้มีจุดประสงค์เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไปจากความล่าช้าในการรับมือวิกฤตของวอชิงตันเอง

นอกจากประเด็นวิกฤตโรคระบาดแล้ว ทรัมป์ยังไล่เบี้ยปักกิ่งในประเด็นการค้า โดยบอกว่า ภายใน 1-2 สัปดาห์น่าจะสรุปได้ว่า จีนปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าเฟส 1 ที่ลงนามกันในเดือนมกราคม อย่างครบถ้วนหรือไม่

ทรัมป์ที่ก่อนหน้านี้ขู่ว่า อาจลงโทษจีนเรื่องการจัดการโรคระบาดที่สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจใหญ่หลวง ยังบอกอีกว่า จีนซื้อสินค้าเกษตรจากอเมริกาจำนวนมาก แต่คำถามคือ การจัดซื้อดังกล่าวมีมูลค่าถึง 200,000 ล้านดอลลาร์ที่กำหนดไว้ในข้อตกลงดังกล่าวซึ่งครอบคลุมสินค้าอุตสาหกรรม พลังงาน และบริการด้วยหรือไม่

วอชิงตันเคยออกปากว่า จะผลักดันเปิดเจรจาเฟส 2 เพื่อจัดการประเด็นการอุดหนุนภาครัฐและการบังคับถ่ายโอนเทคโนโลยี แต่แผนการนี้หยุดนิ่งนับจากไวรัสระบาดและเศรษฐกิจอเมริกาส่วนใหญ่ถูกล็อกดาวน์

เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามเกี่ยวกับมาตรการลงโทษจีนเรื่องไวรัส ที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เคยกล่าวว่า อาจรวมถึงการขึ้นภาษีศุลกากรหรือการย้ายห่วงโซ่อุปทานออกจากจีน ทรัมป์ตอบว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่จึงยังไม่อยากพูดถึงในตอนนี้

ทว่า เคย์ลีห์ แมคเอนานี โฆษกทำเนียบขาว ย้ำว่า ความสัมพันธ์กับจีนขณะนี้น่าผิดหวัง และทรัมป์ไม่พอใจการตัดสินใจบางอย่างของจีนที่ทำให้ชีวิตคนอเมริกันตกอยู่ในความเสี่ยง


กำลังโหลดความคิดเห็น