มาร์เก็ตวอตช์/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันขยับลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 วัน ในวันพุธ (6 พ.ค.) จากความกังวลล้นคลังจัดเก็บ แม้สต๊อกปิโตรเลียมเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบ หลังประธานาธิบดี ทรัมป์ ก่อข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเฟส 1 ระหว่างสหรัฐฯกับจีน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 57 เซนต์ ปิดที่ 23.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 1.25 ดอลลาร์ ปิดที่ 29.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (อีไอเอ) เผยแพร่รายงานในวันพุธ (6 พ.ค.) ระบุคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 1 พฤษภาคม เพิ่มขึ้น 4.6 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่บรรดานักวิเคราะห์คาดหมายไว้
อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อมูลอีกด้านของอีไอเอ ระบุว่า สต๊อกน้ำมันดิบที่ศูนย์ส่งมอบน้ำมันสัญญาเวสต์เทกซัส ในเมืองคุชชิง รัฐโอโคลาโฮมา เพิ่มขึ้นอีก 2 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์เดียวกัน ปัจจัยนี้จึงฉุดราคาน้ำมันปิดแดนลบ “ยังพอมีที่ว่างเหลืออยู่ก่อนที่คลังน้ำมันในเมืองคุชชิงจะเต็มความจุ แต่มันจะเต็มภายใน 2 เดือน” ฟิล ฟลีนน์ นักวิเคราะห์ตลาดระดับอาวุโสของไฟรซ์ฟีเจอร์กรุ๊ป กล่าว
ด้าน ดาวโจนส์ และ เอสแอนด์พี 500 ปิดลบในวันพุธ (6 พ.ค.) หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ก่อข้อสงสัยต่อข้อตกลงการค้าระหว่างอเมริกากับจีน และข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่านายจ้างเอกชนอเมริกามีการปลดพนักงาน 20 ล้านคน ในเดือนเมษายน ตอกย้ำผลกระทบเลวร้ายทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
ดาวโจนส์ ลดลง 218.45 จุด (0.91 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 23,664.64 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 20.02 จุด (0.70 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,848.42 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 45.27 จุด (0.51 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,854.39 จุด
ประธานาธิบดี ทรัมป์ บอกในวันพุธ (6 พ.ค). ว่า เขาจะสามารถรายงานได้ภายใน 1 หรือ 2 สัปดาห์ ว่า จีนจะทำตามพันธสัญญาภายใต้ข้อตกลงการค้าเฟส 1 ที่ทั้งสองชาติลงนามกันไปเมื่อเดือนมกราคมหรือไม่ ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่งดำดิ่งคืนสู่จุดต่ำสุดอีกครั้ง ท่ามกลางข้อพิพาทโยนบาปกันไปมาเกี่ยวกับการรับมือที่ผิดพลาดต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19
ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และ มูดีส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯลดลง 20,236,000 ตำแหน่งในเดือนเมษายน แต่ยังดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 22,000,000 ตำแหน่ง
การดิ่งลงของตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ มีสาเหตุจากการที่ภาคธุรกิจได้พากันปิดกิจการ จากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้มีการปลดพนักงานจำนวนมาก
ส่วนราคาทองคำในวันพุธ (6 พ.ค.) ขยับลงแรงจากดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และนักลงทุนลดความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ หลังหลายประเทศทั่วโลกเริ่มทยอยเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 22.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,688.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
