มาร์เกตวอตช์/เอเอฟพี - วอลล์สตรีทพุ่งแรง โดยดาวโจนส์ขยับขึ้นกว่า 500 จุด ในวันพุธ (29 เม.ย.) และทองคำดิ่งหนัก จากความหวังเฟดเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ หลังลงมติคงอัตราดอกเบี้ยและสัญญาณทางบวกเกี่ยวกับความคืบหน้าในการพัฒนายารักษาโควิด-19 ขณะที่น้ำมันทะยานกว่า 2 ดอลลาร์ พบสต๊อกปิโตรเลียมเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 532.31 จุด (2.21 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 24,633.86 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 76.12 จุด (2.66 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,939.51 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 306.98 จุด (3.57 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,914.71 จุด
เบื้องต้นตลาดต้องเจอกับข่าวร้าย หลังข้อมูลรัฐบาลเผยว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ หดตัวถึง 4.8% ในไตรมาสแรก นับเป็นการหดตัวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 12 ปี อย่างไรก็ตาม ตลาดได้แรงหนุนจากแนวทางตอบสนองต่อวิกฤตของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และความหวังที่มีมากขึ้นว่าแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจจะกลับมาในจีนและตลาดอื่นๆ ที่ผ่านพ้นวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
หลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับร้อยละศูนย์ พร้อมเตือนว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ไม่ใช่แค่จะกัดเซาะการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในระยะสั้น แต่ยังเป็นความเสี่ยงมหึมาในระยะกลางด้วย นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดบอกว่า เฟด “มีความมุ่งมั่นที่จะใช้เครื่องมือต่างๆ เท่าที่มีอย่างเต็มกำหลังเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ”
นอกจากนี้แล้ว ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังได้แรงบวกจากความเห็นของ นพ.แอนโธนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติของสหรัฐฯ และทางบริษัท Gilead Sciences Inc ซึ่งบ่งชี้ว่า ผลทดลองทางคลินิกของ remdesivir ยาต้านไวรัส มีประสิทธิผลช่วยปกป้องชีวิตคนไข้ผู้มีอาการสาหัสจากการติดเชื้อโควิด-19
คำแถลงดังกล่าวช่วยดันให้หุ้นของ Gilead Sciences Inc ทะยานขึ้น 5.7%
ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ กัดเซาะอุปสงค์โลหะมีค่าซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ฉุดราคาทองคำในวันพุธ (29 เม.ย.) ปิดลบแรง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 8.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,713.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนราคาน้ำมันในวันพุธ (29 เม.ย.) ปิดบวกแรง หลังข้อมูลรัฐบาลสหรัฐฯ เผยให้เห็นคลังปิโตรเลียมสำรองเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาด ขณะที่กำลังผลิตภายในประเทศก็ลดลงเช่นกัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 2.72 ดอลลาร์ ปิดที่ 15.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 2.08 ดอลลาร์ ปิดที่ 22.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานในวันพุธ (29 เม.ย.) ระบุว่า คลังน้ำมันดิบสำรองของอเมริกา เพิ่มขึ้น 9 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 เมษายน ถือเป็นการเพิ่มขึ้น 14 สัปดาห์ติด ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตาม นับว่าน้อยกว่าที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าน่าจะเพิ่มขึ้นราวๆ 9.8 ล้านบาร์เรล
ขณะเดียวกัน ข้อมูลของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ ยังพบด้วยว่ากำลังผลิตน้ำมันโดยรวมภายในประเทศ ลดลง 100,000 บาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ที่แล้ว เหลือ 12.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
