เอเอฟพี/รอยเตอร์ - สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในยุโรปดีขึ้นต่อเนื่องในวันจันทร์ (20 เม.ย.) อิตาลีพบจำนวนผู้ป่วยลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เริ่มแพร่ระบาดในประเทศเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนสเปนอัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อใหม่ลดลง และฝรั่งเศสพบข้อมูลบ่งชี้อัตราการแพร่เชื้อสู่คนรอบข้างลดลงเหลือแค่ 1 คนโดยเฉลี่ย ขณะที่สหราชอาณาจักรตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์
สำนักงานพิทักษ์พลเรือนของอิตาลีระบุว่า มีคนไข้ 108,237 คน ที่ทั้งกำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลหรือพักฟื้นอยู่ที่บ้านหลังจากมีผลตรวจออกมาเป็นบวก ลดลดจากตัวเลขที่รายงานจากเมื่อวันอาทิตย์ (19 เม.ย.) 20 คน “เป็นครั้งแรกที่เราพบเป็นพัฒนาการทางบวกใหม่ จำนวนผู้มีผลตรวจเป็นบวกในปัจจุบันลดลง”
ในส่วนของผู้ติดเชื้อใหม่รายวันในอิตาลี อยู่ที่ 2,256 คน ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเป็น 181,228 คน รั้งอันดับ 2 ของโลก ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันพบเพิ่ม 454 คน ตัวเลขผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 24,114 คน มากที่สุดอันดับ 2 ของโลกเช่นกัน แม้คณะแพทย์อิตาลีส่วนใหญ่เชื่อว่ายอดตายและติดเชื้อของประเทศน่าจะสูงกว่าตัวเลขอย่างเป็นทางการค่อนข้างมาก
ตัวเลขผู้เสียชีวิตดังกล่าวยังไม่นับรวมผู้ที่เสียชีวิตที่ตามบ้านเรือนหรือบ้านพักคนชรา และแคว้นบางแห่งซึ่งได้รับผลกระทบหนักหน่วงสุด ยังคงตรวจโรคเฉพาะบุคคลที่แสดงอาการป่วยเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลหรือพักฟื้นอยู่ที่บ้าน และจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวันที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง จะเป็นข้อมูลสำคัญที่อิตาลีจะเอาคำนวณว่ามาตรการไหนบ้างในคำสั่งล็อกดาวน์ที่สามารถยกเลิกได้ ในขณะที่คำสั่งล็อกดาวน์ในปัจจุบันมีกำหนดหมดอายุลงในวันที่ 4 พฤษภาคม
ด้านสเปน การแพร่ระบาดของโควิด-19 ดูเหมือนชะลอตัว แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อทะลุ 200,000 คน จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ในวันจันทร์ (20 เม.ย.) โดยตัวเลขล่าสุดขยับขึ้นเป็น 200,210 คน สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐฯ แต่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวันเพียงแค่ 1,536 คนเท่านั้น
เฟอร์นานโด ซิมง หัวหน้าฝ่ายประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินของกระทรวงสาธารณสุขแถลงกับผู้สื่อข่าวว่า อัตราของผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังคงลดลง แม้ทางการได้ยกระดับการตรวจเชื้อ บ่งชี้ว่าการแพร่ระบาดโดยรวมของโควิด-19 ในหมู่ประชาชน อาจต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้
ในส่วนของตัวเลขผู้เสียชีวิตนั้น ยอดสะสมเพิ่มเป็น 20,852 คน หลังพบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 399 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
สเปนเป็นประเทศที่กำหนดมาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ในความพยายามควบคุมอัตราการแพร่เชื้อและตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวัน แม้แต่แลกกับความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ด้วยธนาคารกลางของประเทศประมาณการว่าเศรษฐกิจของสเปนจะหดตัวราว 6.8 ถึง 12.4% ในปีนี้ ขึ้นอยู่กับระยะเวลาของการล็อกดาวน์
นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ (19 เม.ย.) ว่าเขาจะขอให้รัฐสภาเห็นชอบขยายมาตรการล็อกดาวน์ออกไปอีก 2 สัปดาห์ จนถึงวันที่ 9 พฤษภาคม แต่จะผ่อนปรนข้อจำกัดบางประการ
ขณะเดียวกัน ในสหราชอาณาจักร กระทรวงสาธารณสุขระบุว่าพบผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาลจากโควิด-19 เพิ่มเติมอีก 449 คนในวันจันทร์ (20 เม.ย.) ต่ำที่สุดในรอบ 2 สัปดาห์ ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวตสะสมเป็น 16,509 คน ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังไม่นับรวมผู้ที่เสียชีวิตตามชุมนุม ในนั้นรวมถึงบ้านพักคนชรา และมักออกมาต่ำเสมอในทุกวันจันทร์ เนื่องจากในช่วงสุดสัปดาห์มีการรายงานตัวเลขล่าช้า
อย่างไรก็ตาม เดวิด สปีเกลฮัลเตอร์ จากศูนย์ปฏิบัติการวิจัยด้านสถิติ มหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ บอกว่าข้อมูลใหม่แสดงให้ว่าสถานการณ์ในสหราชอาณาจักรดีขึ้นอย่างชัดเจน "ข้อมูลบ่งชี้ชัดเจนว่าเราอยู่ในสถานะทรงตัว ไม่ใช่ชะลอตัว แต่เป็นสถานะที่ดีขึ้นจากจุดพีคของจำนวนผู้เสียชีวิตเมื่อ 12 วันก่อน หรือวันที่ 8 เมษายน" เขากล่าว "กระนั้น หากตัดสินจากประสบการณ์ในอิตาลี มันอาจเป็นกระบวนการอีกยาว"
สหราชอาณาจักรพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันจันทร์ (20 เม.ย.) จำนวน 4,676 คน ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเป็น 124,743 คน มากสุดเป็นอันดับที่ 6 ของโลก แต่ตัวเลขของวันจันทร์นั้น ถือว่าต่ำกว่ามากจากระดับ 5,850 คนของวันอาทิตย์ (19 เม.ย.) และ 5,525 คนในเสาร์ (18 เม.ย.)
ส่วนฝรั่งเศส ในวันจันทร์ (20 เม.ย.) แถลงว่าพวกเขากลายเป็นชาติที่ 4 ของโลกที่พบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เกิน 20,000 คน หลังพบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 547 คน "คืนนี้ ประเทศของเราผ่านได้ผ่านหลักชัยอันน่าเจ็บปวด" เจอโรม โซโลมอน ผู้อำนวยการสำนักงานสาธารณสุขของฝรั่งเศสกล่าว
เขาแถลงว่ายอดผู้เสียชีวิตในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 20,265 คน เป็นรองเพียงสหรัฐฯ, อิตาลี และสเปน ในนั้นแบ่งเป็นผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาล 12,513 คน และเสียชีวิตในบ้านพักคนชรา 7,752 คน แต่ขณะเดียวกันก็เผยถึงข่าวดีที่จำนวนผู้รักษาตัวในโรงพยาบาลและคนไข้ที่อยู่ในห้องไอซียูลดต่ำสุดเป็นสถิติใหม่
จำนวนคนไข้โควิด-19 ที่อยู่ในห้องไอซียูลดลง 12 วันติด จำนวน 61 คน เหลือ 5,862 คน ขณะที่ผู้ป่วนที่รักษาตัวในโรงพยาบาล ลดลง 26 คน ถือเป็นการลดลง 6 วันติด เหลือ 30,584 คหน
นอกจากนี้แล้ว โซโลมอนยังเผยข้อมูลด้านบวกอีกอย่างที่บ่งชี้ว่าอัตราการแพร่เชื้อสู่คนรอบข้างในฝรั่เศสลดลงเหลือแค่ 1 คนโดยเฉลี่ย จากก่อนหน้านี้เคยอยู่ที่ระดับ 1 ต่อ 3 คนก่อนที่ประเทศจะเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์เมื่อกว่า 1 เดือนก่อน