xs
xsm
sm
md
lg

ยอดตายโควิด-19 ทั่วโลกพุ่งเกิน 1.3 แสน-ติดเชื้อทะลุ 2 ล้าน แต่ยุโรปดีขึ้นหลายชาติเล็งผ่อนล็อกดาวน์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก พุ่งเกิน 131,000 คนแล้ว ในนั้น 2 ใน 3 อยู่ในยุโรป จากการนับรวมข้อมูลจากแหล่งข่าวอย่างเป็นทางการของสำนักข่าวเอเอฟพีในวันพุธ (15 เม.ย.) นับเป็นหลักชัยอันน่าเศร้าใหม่ หลังจากก่อนหน้านี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมทั่้วโลกเพิ่งพุ่งเกิน 2 ล้านคนไปหมาดๆ

ในจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 131,319 คน ในนั้น 88,716 ศพอยู่ในยุโรป ขณะที่สหรัฐฯ เป็นชาติที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลก ตามมาด้วย อิตาลี, สเปน, ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร

ตัวเลขดังกล่าวถือเป็นหลักชัยอันน่าเศร้าใหม่ซึ่งเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกพุ่งเหนือ 2 ล้านคน โดยสหรัฐฯ เป็นชาติที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุดในโลก ตามมาด้วย สเปน, อิตาลี, ฝรั่งเศส, เยอรมนีและสหราชอาณาจักร

หากแยกดูสถานการณ์ของแต่ละประเทศนั้น ในฝรั่งเศส เจอโรม โซโลมอน ผู้อำนวยการสำนักงานสาธารณสุข เผยว่ายอดผู้เสียชีวิตสะสมจากโควิด-19 ทั้งในโรงพยาบาล และบ้านพักคนชรา พุ่งเหนือ 17,000 ศพแล้ว โดยอยู่ที่ 17,167 ศพ เพิ่มขึ้นจาก 15,729 ศพหนึ่งวันก่อนหน้านี้

จำนวนที่เพิ่มขึ้น 1,438 คน หรือ 9.1% ถือเป็นการเพิ่มขึ้นรายวันสูงที่สุดนับตั้งแต่บันทึกสถิติมา แต่เป็นเพราะมีการนับรวมผู้เสียชีวิตตามบ้านพักคนชราในช่วงวันหยุดยาว 3 วันช่วงเทศกาลอีสเตอร์เข้าไปด้วย

อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่งก็มีข่าวดี เมื่อตัวเลขผู้ป่วยที่รักษาตัวในโรงพยาบาลลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่โควิด-19 แพร่ระบาดในประเทศ โดยปัจจุบันมีคนไข้ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อยู่ในโรงพยาบาลลดลงจากหนึ่งวันก่อนหน้านี้ 513 คน “มันยังเป็นจำนวนที่ค่อนข้างสูง แต่โดยรวมแล้วแสดงให้เห็นว่ามีการลดลงเป็นครั้งแรก ผลจากผู้ป่วยที่หายไข้และออกจากโรงพยาบาลแล้ว”

นอกจากนี้แล้วยังพบสัญญาณด้านบวกอีกอัน เมื่อจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ที่ต้องรักษาตัวในห้องไอซียูลดลงเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน โดยคราวนี้ลดลงเหลือ 273 คน

ในสเปน นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ ระบุในวันพุธ (15 พ.ค.) ให้สัญญาตรวจเชื้อโควิด-19 ให้ครอบคลุมมากขึ้น ในความพยายามสานต่อตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันที่ลดลง ซึ่งเปิดทางให้สเปนเริ่มคิดผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ที่ก่อความเสียหายแก่เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง

เจ้าหน้าที่หวังว่าการตรวจเชื้อโควิด-19 เพิ่มเติม จะช่วยมอบข้อมูลที่ชัดเจนขึ้นว่าพื้นที่ไหนที่สามารถผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ได้เพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้นี้ “สเปนเป็นหนึ่งในประเทศที่ตรวจเชื้อในทุกวัน มากกว่า 20,000 คนและเรากำลังเพิ่มจำนวน” ชานเชซกล่าวกับรัฐสภาที่เกือบจะว่างเปล่า

ความเคลื่อนไหวเตรียมผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ของสเปน มีขึ้นหลังจากตัวเลขผู้เสียชีวิตในวันพุธ (15 เม.ย.) ลดลงเหลือ 523 คน จาก 567 คนหนึ่งวันก่อนหน้านี้ ขณะที่จุดพีกสุดเมื่อวันที่ 2 เมษายน พบผู้เสียชีวิตถึง 950 คน




ที่อิตาลี สถานการณ์ค่อยๆ ดีขึ้นเช่นกัน โดยพบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มเติม 578 คนในวันพุธ (15 เม.ย.) ลดลงจาก 602 คนหนึ่งวันก่อนหน้านี้ ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ก็ชะลอตัวลงเหลือ 2,667 คนจาก 2,972 คนหนึ่งก่อนหน้านี้ เข้าสู่แนวโน้มขาลงอย่างต่อเนื่อง

จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ถือว่าต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม แต่ตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันถือว่ายังสูงอยู่ โดยมันแกว่งตัวอยู่ระหว่าง 525 ถึง 636 คนในช่วง 11 วันหลังสุด ยกเว้นแต่วันอิสเตอร์เมื่อวันอาทิตย์ (12 เม.ย.) ซึ่งจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันลดลงเหลือ 431 คน

ยอดผู้เสียชีวิตสะสมในอิตาลีนับตั้งไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดในประเทศ อยู่ที่ 21,645 ศพ ถือว่ามากสุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อที่ยืนยันอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 165,155 คน สูงสุดอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐฯ และสเปน แต่ในนั้นมีถึง 38,092 คนที่หายป่วยแล้ว

กระนั้นก็ตาม จำนวนผู้ป่วยที่อยู่ในห้องไอซียูในวันพุธ (15 เม.ย.) ลดลงเหลือ 3,079 คน จาก 3,186 คนเมื่อวันอังคาร (14 เม.ย.) นับเป็นการลดลง 12 วันติดต่อกัน

ด้านสหราชอาณาจักร เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าบางทีวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศอาจถึงจุดสุงสุดแล้ว แต่ชี้ว่ายังเร็วเกินไปที่จะเริ่มผ่อนปรนข้อจำกัดต่างๆ อย่างไรก็ตาม พวกนักวิจารณ์เตือนว่าประเทศแห่งนี้อาจจบลงด้วยการเป็นชาติที่มีอัตราการเสียชีวิตเลวร้ายที่สุดในยุโรป สืบเนื่องจากความล้มเหลวของรัฐบาล

จากข้อมูลในวันพุธ (15 เม.ย.) สหราชอาณาจักร พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,603 คน ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 98,476 คน ขณะเดียวกันพบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 761 คน ลดลงจาก 778 คนของหนึ่งวันก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตสะสมเป็น 12,868 คน

คริส วิทตี ที่ปรึกษาด้านการแพทย์สูงสุดของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน บอกว่าข้อมูลเกี่ยวกับขอบเขตและผลกระทบของการแพร่ระบาดดูแล้วใจชื้นขึ้น แต่ยังเร็วเกินไปที่จะพุ่งเป้าความสนใจไปยังขั้นตอนต่อไปในมาตรการตอบสนองของรัฐบาล



กำลังโหลดความคิดเห็น