รอยเตอร์ - นายกรัฐมนตรีสเปนเตือนในวันพฤหัสบดี (9 เม.ย.) ว่า มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ อาจยืดเยื้อไปจนถึงเดือนพฤษภาคม แม้เขาบอกว่าน่าจะผ่านพ้นสถานการณ์เลวร้ายที่สุดเร็วๆ นี้ หลังยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เริ่มชะลอตัว
ในการปราศรัยต่อรัฐสภาที่เกือบจะว่างเปล่า เนื่องจาก ส.ส.มากกว่า 300 คน ใช้วิธีร่วมประชุมทางไกล นายกรัฐมนตรี เปโดร ซานเชซ ระบุข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่า สเปนให้ถึงจุดเริ่มของทางลงในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่แล้ว “ไฟใกล้เริ่มอยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว”
เหล่าสาชิกสภาผู้แทนราษฎรเตรียมอนุมัติขยายกรอบเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอีก 2 สัปดาห์ ห้ามประชาชนออกจากที่พักอาศัย ยกเว้นในกรณีที่ออกไปทำงาน, ซื้ออาหารและยา ไปจนถึงวันที่ 26 เมษายน
อย่างไรก็ตาม ซานเชซ บอกว่า บางทีในช่วง 15 วันข้างหน้า เขาอาจร้องขอรัฐสภาขยายเวลาล็อกดาวน์ต่อไปอีก 2 สัปดาห์ จนถึงเดือนพฤษภาคม หลังจากประกาศบังคับใช้มาตรการดงกล่าวเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 มีนาคม
หลังจากเพิ่มขึ้นมา 2 วัน จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รายวันของสเปน ลดลงเหลือ 683 ศพ ในวันพฤหัสบดี (9 เม.ย.) จาก 757 ศพในวันพุธ (8 เม.ย.) ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตเป็น 15,238 ศพ สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากอิตาลี แม้ว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯกำลังเพิ่มขึ้นเป็นทวีคุณและน่าจะแซงสเปนขึ้นไปในไม่ช้านี้
ในส่วนของผู้ติดเชื้อนั้น สเปนพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมอีก 4,226 คน ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเป็น 152,446 คน “อัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อไวรัสกำลังลดลงทั่วสเปน” มาเรีย โฮเซ เซียร์นา รองผู้อำนวยการศูนย์สถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข กล่าว
แม้คาดหมายว่าจะขยายมาตรการล็อกดาวน์ในภาพรวมออกไป ทว่า นับตั้งแต่วันอาทิตย์ (12 เม.ย.) เป็นต้นไป รัฐบาลจะเริ่มผ่อนปรนข้อจำกัดต่างๆ ที่กำหนดต่อภาคธุรกิจ หลังจากก่อนหน้านี้ ได้สั่งปิดทุกปฏิบัติการที่ไม่มีความจำเป็นมานานเกือบ 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ซานเชซ บอกว่า การยกเลิกจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป และขึ้นอยู่กับข้อมูลด้านสาธารณสุข
นายกรัฐมนตรีรายนี้ บอกว่า มาตรการต่างสำหรับจำกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเข้มข้นที่สุดชาติหนึ่งในยุโรป ช่วยปกป้องหลายชีวิตและหั่นอัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อรายใหม่จาก 22% เหลือเพียง 4%
อย่างไรก็ตาม เขาเตือนเกี่ยวกับสถานการณ์อันเลวร้ายหลังจากนี้โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ ด้วยเชื่อกันว่า เศรษฐกิจในปีนี้จะหดตัวถึง 9% แต่เขายืนยันวาจะใช้ทรัพยากรทุกอย่างที่มีฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้
