เอเอฟพี/รอยเตอร์ - สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในยุโรป ส่งสัญญาณในทางบวกต่อเนื่องในหลายชาติ โดยอิตาลีจำนวนผู้ป่วยที่กำลังรักษาตัวจากการติดเชื้อเพิ่มในระดับไม่กี่ร้อยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาด ส่วนฝรั่งเศสจำนวนคนไข้ในโรงพยาบาลลดลง 3 วันติด ขณะที่สเปน ยอดผู้เสียชีวิตทรงตัวและลดลงจากระดับสูงสุดแล้วอย่างมาก ผิดกับอังกฤษ ซึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่มีเกือบครึ่งหมื่น ท่ามกลางคำเตือนว่ายอดตายในประเทศแห่งนี้อาจแตะระดับ 40,000 คน
ตัวเลขของหน่วยพิทักษ์พลเรือนของอิตาลีเผยให้เห็นว่าจำนวนผู้ป่วยที่กำลังรักษาตัวในโรงพยาบาลและรักษาตัวอยู่ที่บ้านภายใต้การสังเกตอาการด้านการแพทย์ เพิ่มขึ้นเพียง 355 คน เป็น 106,926 คนในวันศุกร์(17เม.ย.) ในนั้นอยู่ในแคว้นลอมบาร์ดี ศูนย์กลางของการแพร่ระบาดของประเทศ ซึ่งมีมิลานเป็นเมืองเอก 344 คน ส่วนที่ดินแดนอื่นๆเพิ่มขึ้นเพียง 11 คน
ข้อมูลดังกล่าวถือว่าดีขึ้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา ตัวเลขจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยๆ 1,000 เคสต่อวัน "เรามีจำนวนคนไข้ที่ฟื้นตัวมากที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตเริ่มต้นขึ้น" อังเจโล เบอร์เรลลี ผู้อำนวยการสำนักงานพิทักษ์พลเรือนบอกกับผู้สื่อข่าว
สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันอย่างเป็นทางการของอิตาลีในวันศุกร์ (17 เม.ย.) อยู่ที่ 575 ศพ ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 22,745 คน รั้งอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ
ในอิตาลี จำนวนผ้ป่วยจากโควิด-19 จะนับแยกจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างเป็นทางการ ในขณะที่ในวันศุกร์ (17 เม.ย.) พบผ้ติดเชื้อรายใหม่ 3,493 คน อยู่ในระดับพอๆกับตลอดทั้งสัปดาหที่ผ่านมา ส่งผลให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 172,434 คน มากสุดเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐฯและสเปน
ภาพรวมที่ดีขึ้นโดยทั่วไปกระตุ้นให้หน่วยงานพิทักษ์พลเรือนแถลงว่าจะระงับการแถลงสรุปรายวัน โดยจะปรับเปลี่ยนเป็นการแถลง 2 ครั้งต่อสัปดาห์ อย่างไรก็ตามในส่วนของตัวเลขใหม่ๆ ในนั้นรวมจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต จะมีการประกาศเป็นรายวันเหมือนเดิม
รัฐบาลอิตาลีกำลังรอไฟเขียวจากคณะแแพทย์ชั้นนำในการเริ่มยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ต่างๆ ที่ก่อความเสียหายเลวร้ายแก่เศรษฐกิจและประชาชนหลายล้านคนต้องตกงาน โดยข้อจำกัดในปัจจุบันจะหมดอายุลงในวันที่ 4 พฤษภาคม และรัฐบาลมีแผนยกเลิกคำสั่งกักตัวเองอยู่ในบ้านในบางแคว้นซึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงอย่างฮวบฮาบ
ด้านฝรั่งเศส รายงานพบผู้เสียขีวิตจากโควิด-19 อีก 761 คนในวันศุกร์ (17 เม.ย.) ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 18,681 คน มากสุดอันดับ 4 ของโลก แต่ขณะเดียวกันจำนวนคนไข้ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลก็ลดลง 3 วันติดต่อกัน
ในอีกสัญญาณที่บ่งชี้ว่ามาตรการล็อกดาวน์ซึ่งบังคับใช้เมื่อ 1 เดือนก่อนกำลังได้ผล เจอโรม โซโลมอน ผู้อำนวยการสำนักงานสาธารณสุขของฝรั่งเศส บอกว่าจำนวนผู้ป่วยที่อยู่ในห้องไอซียู ลดลงมา 9 วันติด เหลือ 6,027 คน ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน
ตัวเลขผู้เสียชีวิตสะสม 18,681 คนนั้น ถือเป็นการเพิ่มขึ้นจาก 24 ชั่วโมงก่อนหน้านี้ 4.2% ถือเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่นั้น ทางเว็บไซต์ worldometers ระบุว่ามีเพียง 1,909 คน แต่ข้อมูลนี้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมของฝรั่งเศสอยู่ที่ 147,969 คน รั้งอันดับ 4 ของโลก รองจากสหรัฐฯ, สเปนและอิตาลี
ด้านสเปน รายงานผู้เสียชีวิตรายวันในวันศุกร์ (17 เม.ย.) จำนวน 585 ศพ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 551 ศพของหนึ่งวันก่อนหน้านี้ แต่ลดลงจากระดับสูงสุดในช่วงต้นเดือนเมษายนเป็นอย่างมาก ในขณะที่ประเทศแห่งนี้เริ่มผ่อนปรนข้อกำหนดในมาตรการล็อคดาวน์แล้วบางส่วน
ตัวเลขผู้เสียชีวิตใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ถือว่าน้อยกว่าระดับ 900 ศพที่พบเห็นในช่วงพีคสุดของการแพร่ระบาดในสเปน อย่างไรก็ตามจำนวนในวันศุกร์ (17 เม.ย.) ยังไม่นับรวมผู้ต้องสงสัยที่อาจเสียชีวิตจากไวรัส ซึ่งรัฐบาลสเปนเน้นว่าจะไม่นับผู้เสียชัวิตเหล่านี้รวมกับจำนวนผู้เสียชีวิจจากโควิด-19โดยรวม ดังเช่นกับอีกหลายประเทศ
ในส่วนของจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมนั้น ตัวเลขอย่างเป็นทางการของสเปนเพิ่มเป็น 188,068 คนในวันศุกร์ (17 เม.ย.) จากระดับ 182,816 คน หรือราวๆ 2.9% (5,252 คน)
สถานการณ์ของทั้ง 3 ชาติที่กล่าวมา สวนทางกับสหราอาณาจักร ซึ่งบ่งชี้ว่ายังไม่ผ่านพ้นจุดสูงสุดของวิกฤต หลังพบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 847 คนในวันศุกร์ (17 เม.ย.) ยอดผู้เสียชีวิตสะสมเป็น 14,576 คน ทั้งนี้ ตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันดังกล่าว ถือว่าลดเล็กน้อยจาก 861 ศพของหนึ่งวันก่อนหน้านี้
สหราชอาณาจักรยังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หนักหน่วงที่สุด และจากข้อมูลล่าสุดพบว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมพุ่งเกือบ 109,000 คนแล้ว หลังจากพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 5,599 คนในวันศุกร์ (17 เม.ย.)
แนวโน้มของสถานการณ์ที่ยังดูไม่ดีนัก ส่งผลให้รัฐบาลต้องขยายมาตรการล็อกดาวน์จัดการวิกฤตโควิด-19 ออกไปอย่างน้อยอีก 3 สัปดาห์ ในขณะที่มีเสียงเตือนมาจากผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขว่ายอดตายในประเทศแห่งนี้อาจแตะระดับ 40,000 คน อันเนื่องจากความเคลื่อนไหวตอบสนองที่ล่าช้าในหลายๆด้านของรัฐบาล
แอนโธนีบ คอสเตลโล ศาสตราจารย์ด้านสาธารณสุขชั้นนำบอกกับสมาชิกสภาสามัญชนในวันศุกร์ (17 เม.ย.) ว่า "ความผิดพลาดต่างๆ อย่างเป็นระบบ บางทีอาจนำเรากลายเป็นชาติที่มีอัตราการเสียชีวิตมากที่สุดในยุโรป" เขาตอบคำถามของคณะกรรมาธิการด้านสวัสดิการและสาธารณสุข "เราจำเป็นต้องยอมรับความจริงว่า เราช้าเกินไปในหลายๆ อย่าง ในตอนจบเราอาจเห็นผู้เสียชีวิตถึงระดับ 40,000 คน"