รอยเตอร์ - สหราชอาณาจักรขยายเวลาล็อกดาวน์ทั่วประเทศออกไปอีกอย่างน้อย 3 สัปดาห์ในวันพฤหัสบดี (16 เม.ย.) หลังยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังอยู่ในระดับสูง สวนทางกับสวิตเซอร์แลนด์ ที่ประกาศจะกลับมาเปิดธุรกิจบางประเภทในวันที่ 27 เมษายน ส่วนหนึ่งในแผนปรนข้อจำกัดอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังสถานการณ์แพร่ระบาดดีขึ้นอย่างมาก
โดมินิก ราบ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ซึ่่งอยู่ระหว่างการพักฟื้นหลังหายป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19 ออกคำสั่งให้ชาวสหราชอาณาจักรอยู่แต่ในบ้านพักต่อไป เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่คร่าชีวิตคนทั่วโลกไปแล้วกว่า 140,000 ศพ “การผ่อนปรนมาตรการใดๆ ที่บังคับใช้ในปัจจุบันจะเสี่ยงก่อความเสียหายต่อสุขภาพของประชาชนและเศรษฐกิจ”
คำประกาศขยายมาตรการล็อกดาวน์ มีขึ้นในขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่รายวันในสหราชอาณาจักรยังคงสูงลิ่ว โดยในวันพฤหัสบดี (16 เม.ย.) อยู่ที่ 4,617 คน ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเป็น 103,093 คน ส่วนผู้เสียชีวิตนั้นพบเพิ่มเติมอีก 861 คน ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 13,729 คน
ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรเป็นชาติที่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลก รองจากสหรัฐฯ, อิตาลี, สเปน และฝรั่งเศส แต่ตัวเลขของสหราชอาณาจักรนั้น นับรวมเฉพาะบุคคลที่เสียชีวิตตามโรงพยาบาลต่างๆ เท่านั้น ดังนั้น ตัวเลขที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้มาก
ถ้อยแถลงขยายล็อกดาวน์ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมาย หมายความว่า ชาวสหราชอาณาจักรต้องอยู่แต่ในที่พักอาศัย ยกเว้นต่อกรณีออกมาจับจ่ายซื้อข้าวของที่จำเป็นหรือเดินทางไปพบแพทย์ นอกจากนี้ พลเมืองยังได้รับอนุญาตให้ออกกำลังกายในสถานที่สาธารณะเพียง 1 ครั้งต่อวัน และสามารถเดินทางไปทำงานได้ก็คือเมื่อหน้าที่การงานดังกล่าวไม่สามารถทำจากที่บ้านได้
มาตรการล็อกดาวน์ในเบื้องต้นบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม และมีระยะเวลา 3 สัปดาห์ ก่อนล่าสุดจะมีคำประกาศขยายกรอบเวลาออกไป
สถานการณ์ในสหราชอาณาจักร สวนทางโดยสิ้นเชิงกับสวิตเซอร์แลนด์ โดยในวันพฤหัสบดี (16 เม.ย.) แถลงว่า จะอนุญาตให้ร้านทำผม, ร้านเสริมสวยและธุรกิจอื่นๆ บางประเภทกลับมาเปิดบริการอีกครั้งนับตั้งแต่วันที่ 27 เมษายนเป็นต้นไป ส่วนหนึ่งในการปลดมาตรการล็อกดาวน์แบบค่อยเป็นค่อยไป หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ชะลอตัวลง
คำแถลงนี้มีขึ้นในวันเดีวกับที่ ฮันส์ คลูจ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกประจำภาคพื้นยุโรป ออกมาแนะนำว่า ประเทศต่างๆ ในยุโรปควรเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังอย่างที่สุดหากจะพิจารณาผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์
แต่หลังจากชาติเพื่อนบ้านอย่างออสเตรีย และเยอรมนี เริ่มทดลองออกจากการชัตดาวน์ เหล่าภาคธุรกิจต่างๆ กดดันให้รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ผ่อนปรนข้อจำกัดต่างๆ ของตนเองเช่นกัน เพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากวิกฤตครั้งนี้
สถานพยาบาลต่างๆ จะได้รับอนุญาตให้กลับมาปฏิบัติการได้เต็มรูปแบบ ไม่เว้นแม้กระทั่งการนัดผ่าตัดล่วงหน้า เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 เมษายนเป็นต้นไป ส่วนร้านตัดผม, ร้านเสริมสวยและสถานอาบอบนวด ก็จะได้รับอนุญาตให้เปิดบริการเช่นกัน
จากนั้นร้านค้าทั้งหมด, โรงเรียนและตลาดขายอาหารก็จะได้รับอนุญาตให้เปิดทำการตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม ในขณะที่ในปัจจุบันมีเพียงร้านขายของชำ, ร้านขายยาและธุรกิจอื่นๆ ที่มีความจำเป็นเท่านั้นที่เปิดทำการได้
ในขั้นที่ 3 จะเป็นการเปิดการเรียนการสอนระดับอาชีวะและมหาวิทยาลัย ตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตา มรัฐบาลระบุว่าความเคลื่อนไหวปลดล็อกดาวน์ในแต่ละขั้นนั้น จะเคลื่อนสู่ขั้นต่อไปก็ต่อเมื่อไม่พบเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งกำหนดมาตรการล็อกดาวน์เมื่อเดือนที่แล้ว รายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียง 396 คน ในวันพฤหัสบดี (16 เม.ย.) ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 26,732 คน เสียชีวิต 1,281 ราย ในนั้น 42 คน เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่
กระนั้นอัตราการติดเชื้อชะลอตัวลงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากช่วงพีกสุดตอนปลายเดือนมีนาคม มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เกือบๆ 1,500 คนต่อวัน ขณะที่ปัจจุบันตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ราวๆ 200 คนต่อวัน