เอเอฟพี - ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ขู่ตัดเงินอุดหนุนองค์การอนามัยโลก (WHO) โทษฐานลำเอียงให้ความสำคัญกับจีนมากเกินไป และยังให้คำแนะนำที่ไร้ประสิทธิภาพจนทำให้ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ระบาดรุนแรงทั่วโลก ขณะที่จีนเริ่มอนุญาตให้ประชาชนเดินทางออกจากเมืองอู่ฮั่นได้แล้วในวันนี้ (8) หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย
ในขณะที่ยอดคนตายในสหรัฐฯ พุ่งเกือบ 2,000 คนในรอบ 24 ชั่วโมง จีนกลับไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเลยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ไวรัสเริ่มระบาดที่อู่ฮั่นเมื่อปลายเดือน ธ.ค.
ด้านนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน แห่งอังกฤษซึ่งมีผลตรวจยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 เมื่อกว่า 10 วันก่อน ถูกส่งเข้าโรงพยาบาลในกรุงลอนดอนเมื่อวันจันทร์ (6) เนื่องจากมีไข้สูง และยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียูด้วยอาการคงที่
โฆษกของ จอห์นสัน ยืนยันว่า ผู้นำพรรคคอนเซอร์เวทีฟวัย 55 ปี “มีกำลังใจที่ดี” และแพทย์ได้ให้ออกซิเจนตามมาตรฐานทั่วไป แต่ยังไม่จำเป็นต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ
แม้ผู้เชี่ยวชาญจะเตือนว่า ‘สถานการณ์ขั้นเลวร้ายที่สุด’ ยังมาไม่ถึงด้วยซ้ำ ทว่าไวรัสโควิด-19 ก็ได้คร่าชีวิตคนไปแล้วมากกว่า 82,000 คน และมีผู้ติดเชื้อกว่า 1.4 ล้านคนทั่วโลก นอกจากนี้ยังทำให้ประชากรกว่า 4,000 ล้านคนหรือกว่าครึ่งโลกต้องตกอยู่ภายใต้มาตรการล็อคดาวน์รูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์สื่อที่วอชิงตันวานนี้ (7 เม.ย.) ว่ามีแผนจะหั่นเงินอุดหนุนต่อ WHO พร้อมกล่าวหาหน่วยงานสหประชาชาติแห่งนี้ว่า “ให้ความสำคัญกับจีนมากไป”
“พวกเขาออกคำเตือนผิดพลาด” ทรัมป์ ระบุ โดยกล่าวหาว่า WHO ตัดสินใจล่าช้ากว่าจะออกคำเตือนการเดินทางไปจีน “พวกเขาควรประกาศตั้งแต่หลายเดือนก่อนหน้านั้น”
ทั้งนี้ ผู้นำสหรัฐฯ ยังไม่ได้ระบุชัดเจนว่าจะตัดเงินอุดหนุน WHO มากน้อยแค่ไหน และในอีกไม่กี่นาทีต่อมาก็เริ่มเข้าเกียร์ถอย โดยบอกว่าเพียงแค่ “จะพิจารณา” ดูเท่านั้น
สหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19 แล้วไม่ต่ำกว่า 12,800 คน และมีผู้ป่วยสะสมทั่วประเทศเกือบ 400,000 คน มากเป็นอันดับ 1 ของโลก ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตยังพุ่งสูงขึ้นถึง 1,939 รายในรอบ 24 ชั่วโมงจนถึงค่ำวันอังคาร (7) ตามฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์
จีนได้ยกเลิกคำสั่งห้ามเดินทางเข้า-ออกเมืองอู่ฮั่นในวันนี้ (8) หลังจากที่เริ่มบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค. เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา โดยคาดว่าจะมีชาวจีนหลายหมื่นคนแห่เดินทางออกจากเมืองหลังจากที่รถไฟและเที่ยวบินกลับมาเปิดให้บริการ
รัฐบาลจีนเริ่มผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางและฟื้นฟูกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็ยังคงมาตรการควบคุมเอาไว้บางส่วนเพื่อป้องกันไวรัสแพร่ระบาดซ้ำ โดยเน้นเฝ้าระวังคนเดินทางจากต่างประเทศ หรือผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการแต่ยังสามารถแพร่เชื้อสู่บุคคลอื่นได้
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจีนระบุวานนี้ (7) ว่า ประชาชนชาวอู่ฮั่นยังคงได้รับคำแนะนำให้งดออกจากชุมชน เมือง หรือแม้กระทั่งมณฑลหากยังไม่มีความจำเป็น ส่วนผู้ที่จะเดินทางก็ต้องมีรหัสสุขภาพ “สีเขียว” หรือมีเอกสารชี้แจงเหตุผลในการเดินทาง
คณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติจีน (NHC) แถลงยืนยันวานนี้ (7) ว่ายอดผู้เสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19 ลดลงเป็น “ศูนย์” ในรอบ 24 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นวันแรกนับตั้งแต่ปักกิ่งเริ่มประกาศตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตรายวันในเดือน ม.ค.
ทั้งนี้ ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอย่างเป็นทางการในจีนอยู่ที่ราวๆ 81,000 คน และเสียชีวิตกว่า 3,300 คน แต่ก็มีหลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่าตัวเลขที่แท้จริงอาจสูงกว่านี้
อังกฤษและรัฐนิวยอร์กมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 786 รายและ 731 รายตามลำดับในรอบ 24 ชั่วโมง ขณะที่สเปน ฝรั่งเศส และอิตาลี ล้วนมียอดผู้เสียชีวิตรายวันเพิ่มสูงขึ้นทั้งสิ้น
ผลการศึกษาล่าสุดพบว่า กราฟผู้เสียชีวิตในอังกฤษนั้นพุ่งชันกว่าหลายๆ ประเทศ และคาดว่าเมืองผู้ดีจะมีคนล้มตายจากเชื้อไวรัสมากถึง 66,000 คนภายในเดือน ก.ค. แซงหน้าอิตาลีซึ่งรั้งสถิติผู้เสียชีวิตสูงสุด 17,127 รายในเวลานี้
