รอยเตอร์ - ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหัฐฯ ในวันอังคาร (7 เม.ย.) วิพากษ์วิจารณ์องค์การอนามัยโลก (WHO) อย่างดุเดือด กล่าวหาให้ความสำคัญกับจีนมากเกินไป และออกคำแนะนำแย่ๆ ระหว่างการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ขณะที่สถานการณ์ของโควิด-19 ในอเมริกา โดยเฉพาะนิวยอร์ก เริ่มสาหัสสากรรจ์ขึ้นเรื่อยๆ
“องค์การอนามัยโลกเป็นผู้แพร่กระจายมัน” ทรัมป์เขียนบนทวิตเตอร์ “สำหรับเหตุผลบางประการ องค์กรที่ได้รับการอุดหนุนเงินส่วนใหญ่จากสหรัฐฯ แต่มีจีนเป็นศูนย์กลาง เคราะห์ดีที่ผมปฏิเสธคำแนะนำของพวกเขาที่แนะว่าให้เปิดพรมแดนต้อนรับจีนในช่วงแรกๆ ทำไมพวกเขาถึงมอบคำแนะนำที่ผิดพลาดให้พวกเรา?”
รอยเตอร์พยายามติดต่อสอบถามเกี่ยวกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของทรัมป์ไปยังองค์การอนามัยโลก แต่ทางองค์การอนามัยโลกยังไม่ตอบกลับ
เมื่อวันที่ 31 มีนาคม องค์การอนามัยโลก ซึ่งเป็นองค์การด้านสาธารณสุขของสหประชาชาติ ออกคำแนะนำประเทศต่างๆ ให้เปิดพรมแดนตามปกติ แม้มีการแพร่ระบาด แม้อีกด้านหนึ่งพวกเขาได้เน้นย้ำว่าประเทศต่างๆ มีสิทธิ์ใช้มาตรการต่างๆ ในการปกป้องพลเมืองของตนเอง ซึ่งต่อมาในวันเดียวกันนั้น รัฐบาลของทรัมป์ตัดสินใจออกมาตรการจำกัดการเดินทางสำหรับนักเดินทางที่มาจากจีน
ก่อนหน้านี้ พวกนักการเมืองหัวอนุรักษนิยมในสหรัฐฯต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์องค์การอนามัยโลกหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ต่อแนวทางของพวกเขาระหว่างโรคระบาดระดับโลก โดยบอกว่า องค์การแห่งนี้พึ่งแต่ข้อมูลที่ผิดพลาดจากจีนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มาร์โก รูบิโอ วุฒิสมาชิกจากรีพับลิกัน เรียกร้องให้ เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ลาออกจากตำแหน่ง โดยบอกว่า “เขาปล่อยให้จีนใช้องค์การนามัยโลกชักจูงปะชาคมโลกไปในทางที่ผิด”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของทรัมป์มีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ไม่ค่อยสู้ดีนักในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในนิวยอร์ก ซึ่งจากการนับของสำนักข่าวรอยเตอร์ พบว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อในรัฐแห่งนี้ มีจำนวนแซงหน้าอิตาลีเป็นที่เรียบร้อยแล้วในวันอังคาร (7 เม.ย.) ทั้งที่แดนมะกะโรนี คือ ชาติที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดอันดับ 3 ของโลกรองจากสหรัฐฯ และสเปน
จากการนับของรอยเตอร์พบว่าในนิวยอร์ก มีผู้ติดเชื้อ 138,836 คน มากกว่า 135,586 คนของทั่วทั้งประเทศอิตาลี ขณะที่สหรัฐฯเป็นชาติที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุดที่ราวๆ 380,000 คน ในนั้นเสียชีวิตราว 11,800 คน ตามมาด้วยสเปน ซึ่งพบผู้ติดเชื้อมากกว่า 140,000 คนและเสียชีวิตกว่า 13,000 คน
ตัวเลขดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมาในขณะที่สหรัฐฯกำลังเตรียมตัวเผชิญกับมือกับสถานการณ์เลวร้ายในสัปดาห์นี้ ที่เจ้าหน้าที่รายหนึ่งเรียกว่า “สัปดาห์พีคสุดของการเสียชีวิต” จากโควิด-19
รัฐนิวยอร์ก พบผู้เสียชีวิตรายวันมากที่สุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาด ด้วยจำนวน 731 ศพ รวมเป็น 5,489 คน แม้ก่อนหน้านี้ แอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ระบุในวันอังคาร (7 เม.ย.) ว่า ตัวเลขผู้ป่วยเข้ารักษาตัวตามโรงพยาบาลต่างๆ ดูเหมือนจะอยู่ในระดับทรงตัวแล้วก็ตาม