เอเจนซีส์ - ส.ว.เบอร์นีย์ แซนเดอร์ส ที่มีแนวความคิดแบบฝ่ายซ้าย เฉือนเข้าเส้นชัยในการหยั่งเสียงเพื่อเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตที่รัฐนิวแฮมป์เชียร์เมื่อวันอังคาร (11 ก.พ.) ตอกย้ำสถานะเป็นตัวเก็งเต็งหนึ่ง และทำให้ความหวังของอดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน ริบหรี่ลง หลังได้แค่อันดับ 5 ซึ่งถือเป็นความพ่ายแพ้ยับเยินติดต่อกัน 2 สนามแล้ว
พีท บุตติเจ็จ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองเซาธ์เบนด์ รัฐอินดีแอนา ยังคงเป็น “ม้ามืด” ซึ่งวิ่งได้แรง โดยได้ที่ 2 หลังจากในการหยั่งเสียงสนามแรกที่รัฐไอโอวาสัปดาห์ที่แล้ว เขาเข้าที่ 1 เอาชนะแซนเดอร์สได้อย่างเฉียดฉิว
วุฒิสมาชิกแซนเดอร์สจากรัฐเวอร์มอนต์ ซึ่งเป็นนักการเมืองหัวก้าวหน้า คว้าชัยในนิวแฮมป์เชียร์สำเร็จหลังจากหักล้างคำสบประมาทของพวกคู่แข่งที่เตือนว่า มุมมองฝ่ายซ้ายของเขาจะทำให้เดโมแครตพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 3 พฤศจิกายนที่จะถึง
แซนเดอร์สประกาศต่อผู้สนับสนุนในเมืองแมนเชสเตอร์ รัฐนิวแฮมป์เชียร์ว่า ชัยชนะครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทว่า เอ็กซิตโพลล์ชี้ว่า เขาได้คะแนนแค่ 2 ใน 3 จากที่เคยได้ในการหยั่งเสียงปี 2016 เมื่อตอนที่เขาต้องต่อสู้กับฮิลลารี คลินตัน ที่สุดท้ายได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต แต่พ่ายแพ้ต่อทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปลายปีเดียวกัน
การหยั่งเสียงครั้งนี้ยังเป็นโอกาสที่ดีสำหรับวุฒิสมาชิกเอมี โคลบูชาร์ ที่ได้คะแนนเป็นอันดับ 3 ขณะที่วุฒิสมาชิกเอลิซาเบธ วอร์เรน ที่เมื่อไม่เดือนมานี้ยังถูกมองว่า เป็นตัวเก็งในนิวแฮมป์เชียร์ ได้ที่ 4 ทำให้หลายคนสงสัยว่า เธอยังมีโอกาสมากน้อยแค่ไหนในการเป็นตัวเลือกฝ่ายนักการเมืองสายก้าวหน้าแทนที่แซนเดอร์ส
อย่างไรก็ดี เห็นกันว่าผลการหยั่งเสียงคราวนี้ยังไม่ถือเป็นคำตอบที่ชัดเจนสำหรับพรรคเดโมแครตในการตัดสินใจตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะไปฟาดฟันกับทรัมป์ ระหว่างบุตติเจ็จ นักการเมืองสายกลางที่ประกาศตัวว่าเป็นเกย์, โคลบูชาร์ หรือไบเดน หรือกระทั่งนักการเมืองสายก้าวหน้าอย่างแซนเดอร์สและวอร์เรน
ไบเดนแพ้หลุดลุ่ยเป็นสนามที่ 2 หลังจากได้คะแนนเป็นอันดับ 4 ในไอโอวา ซึ่งแน่นอนว่า เขาจะถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพของทีมหาเสียง และความสามารถของตัวเองในการแย่งชิงเสียงสนับสนุนจากกลุ่มที่มีแนวทางสายกลางกับบุตติเจ็จและโคลบูชาร์
ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยควินนิเพียคยังพบว่า แซนเดอร์สผงาดขึ้นมาเป็นตัวเก็งตัวแทนพรรคเดโมแครตด้วยคะแนนสนับสนุน 25% ขณะที่คะแนนของไบเดนร่วงจาก 26% อยู่ที่ 17%
ไบเดนยังจะต้องแข่งกับไมเคิล บลูมเบิร์ก เศรษฐีพันล้านและอดีตนายกเทศมนตรีนิวยอร์ก ที่รอลงสนามเมื่อถึงวันที่ 3 มี.ค. ซึ่งเรียกกันว่าซูเปอร์ทิวส์เดย์ โดยที่มีหลายๆ รัฐจัดการหยั่งเสียงพร้อมๆ กัน รวมทั้งรัฐที่มีจำนวนผู้แทนมากๆ อย่างแคลิฟอร์เนีย
ทั้งนี้ ในการหยั่งเสียงที่นิวแฮมป์เชียร์ที่นับคะแนนเสร็จสิ้นกว่า 91% ของเขตเลือกตั้งนั้น แซนเดอร์สได้คะแนน 26%, บุตติเจ็จ 25%, โคลบูชาร์ 20%, วอร์เรน 9% และไบเดน 8%
อย่างไรก็ตาม ไบเดนกล่าวว่า นี่เป็นเพียงการหยั่งเสียงใน 2 รัฐแรกเท่านั้นไม่ใช่ทั่วประเทศ เขาแสดงความหวังว่า ในการหยั่งเสียงอีก 2 สนามในเดือนนี้ คือที่รัฐเนวาดาวันที่ 22 และรัฐเซาท์แคโรไลนาวันที่ 29 เขาจะทำคะแนนได้ดีขึ้นอย่างจริงจัง โดยเฉพาะที่เซาท์แคโรไลนา ซึ่งเป็นรัฐทางใต้ที่เป็นถิ่นของชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกาที่ให้การสนับสนุนเขา
หลังการหยั่งเสียงในนิวแฮมป์เชียร์ ผู้สมัคร 2 คนที่มั่นใจแล้วว่า หมดหวังที่จะได้เป็นตัวแทนเดโมแครตคือนักธุรกิจ แอนดรูว์ หยาง และวุฒิสมาชิกไมเคิล เบนเน็ต ได้ประกาศถอนตัว และซีบีเอส นิวส์ยังรายงานว่า เดวาล แพทริก อดีตผู้ว่าการรัฐแมสซาชูเสตส์ จะประกาศถอนตัวในวันพุธ (12)
หลังจากไอโอวาและนิวแฮมป์เชียร์ ซึ่งเป็นรัฐชนบทขนาดเล็กที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นคนผิวขาว การหยั่งเสียงจะย้ายไปยังสนามที่หลากหลายและท้าทายมากขึ้นคือ เนวาดาที่มีประชากรเชื้อสายละตินจำนวนมาก และเซาท์แคโรไลนา
สำหรับการหยั่งเสียงของรีพับลิกันในนิวแฮมป์เชียร์นั้น ทรัมป์เอาชนะวิลเลียม เวลด์ อดีตผู้ว่าการรัฐแมสซาชูเสตส์อย่างง่ายดาย
