เอเจนซีส์ - การหยั่งเสียงสนามแรกเพื่อชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครตลงศึกทำเนียบขาวเริ่มต้นขึ้นอย่างชุลมุนเมื่อวันจันทร์ (3 ก.พ.) เนื่องจากเกิด “ความไม่สอดคล้องกัน” จนไม่สามารถประกาศผลได้ ทำให้ทางฝ่ายรีพับลิกันได้ทีติฉิน อย่างไรก็ดี ล่าสุดมีรายงานว่า แซนเดอร์สมีคะแนนนำ ขณะที่ไบเดนหลุดไปอยู่อันดับ 4
ผู้มีสิทธิออกเสียงของพรรคเดโมแคตพากันไปยังที่ประชุม “คอคัส” ในไอโอวา ซึ่งถือเป็นรัฐแรกที่มีการหยั่งเสียงเพื่อคัดเลือกตัวแทนพรรคที่จะได้ลงสนามชิงตำแหน่งประธานาธิบดีกับฝ่ายรีพับลิกัน ในเดือนพฤศจิกายนนี้
ทว่า แมนดี้ แมคคลัวร์ โฆษกหญิงพรรคเดโมแครตแถลงในเวลาต่อมาว่า พรรคยังไม่สามารถรายงานผลการนับคะแนนได้ เนื่องจากต้องตรวจสอบคุณภาพหลังพบความไม่สอดคล้องในการรายงานข้อมูลจากเขตต่างๆ
เนื่องจากการหยั่งเสียงที่ไอโอวาเป็นแบบคอคัส หมายความว่าผู้มีสิทธิออกเสียงต้องประชุมกันก่อน แล้วจึงจะลงคะแนนว่าจะเลือกใครในผู้สมัคร 11 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีทั้งวุฒิสมาชิกเบอร์นี แซนเดอร์ส จากรัฐเวอร์มอนต์ และอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน
แหล่งข่าวในทีมหาเสียงของพีท บุตติเจช นายกเทศมนตรีเมืองเซาท์เบนด์ รัฐอินดีแอนา หนึ่งในผู้สมัคร วิจารณ์ว่า ความล่าช้านี้จะบ่อนทำลายความชอบธรรมของผู้ชนะ
ขณะที่ แบรด ปาร์สเกล ผู้จัดการทีมหาเสียงของทรัมป์ ออกมาวิจารณ์เดโมแครตว่า แม้แต่จัดการหยั่งเสียงเบื้องต้นยังล่ม นับประสาอะไรจะไปบริหารประเทศ
อย่างไรก็ตาม รีพับลิกันเองเคยมีประวัติความอลหม่านในการหยั่งเสียงแบบคอคัสในรัฐนี้เช่นเดียวกัน เรื่องเกิดขึ้นในปี 2012 ที่มีการประกาศว่า มิตต์ รอมนีย์ เฉือนเข้าเส้นชัยด้วยคะแนนนำเฉียดฉิวเพียง 8 คะแนน ก่อนที่ใน 2 สัปดาห์ต่อมา รีพับลิกันจะประกาศใหม่ว่า ริก แซนโทรัม คือผู้ชนะตัวจริง
ในช่วงหยั่งเสียงที่จะดำเนินไปหลายเดือนนี้ แต่ละพรรคจะมีการทยอยจัดหยั่งเสียงตามรัฐต่างๆ โดยที่บางรัฐอาจจะจัดแบบคอคัส และบางรัฐจัดแบบไพรมารี นั่นคือ ผู้มีสิทธิออกเสียงมาใช้สิทธิหย่อนบัตรกันเลย สิ่งที่ผู้ชนะจะได้จากการหยั่งเสียงนี้ ก็คือ จำนวนตัวแทนที่จะไปเข้าประชุมใหญ่ระดับชาติของพรรค โดยที่การลงคะแนนในที่ประชุมใหญ่นี้จะเป็นตัวตัดสินว่าใครจะได้เป็นผู้สมัครประธานาธิบดีในนามพรรค
ดังนั้น แม้มีผู้สมัครที่ชนะขาดลอยในไอโอวา ซึ่งมีตัวแทนที่จะไปร่วมประชุมใหญ่พรรค 41 คนให้แย่งชิง ก็ยังคงห่างไกลจากการได้คำตอบที่ชัดเจนว่าใครจะได้เป็นตัวแทนเดโมแครตลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคราวนี้ ทั้งนี้ผู้ที่จะชนะคือผู้ที่สามารถรวบรวมจำนวนตัวแทนที่จะเข้าประชุมใหญ่ได้อย่างน้อย 1,991 คนขึ้นไป
สำหรับในเดือนกุมภาพันธ์นี้ยังจะมีการหยั่งเสียงขั้นต้นรออยู่อีก 3 รัฐ ได้แก่ นิวแฮมป์เชียร์ เนวาดา และเซาท์แคโรไลนา ขณะที่วันสำคัญที่ใครๆ จับตามอง คือ ซูเปอร์ทิวส์เดย์ในวันที่ 3 มีนาคม ซึ่งจะมีการหยั่งเสียงพร้อมกัน 15 รัฐ
ผลโพลจากหลายสำนักในไอโอวาชี้ว่า แซนเดอร์สมีคะแนนนำไบเดน ขณะที่วุฒิสมาชิกเอลิซาเบธ วอร์เรน จากรัฐแมสซาชูเสตส์ และบุตติเจชไล่ตามมาไม่ห่าง นอกจากนั้นยังพบว่า ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงกลุ่มใหญ่ยังไม่ตัดสินใจ
62% ของผู้ตอบแบบสำรวจที่จัดทำโดยเนชันแนล อิเล็กชัน พูล บอกว่า การเอาชนะทรัมป์คือเหตุผลที่ออกไปใช้สิทธิ์หยั่งเสียงในครั้งนี้ และ 36% ต้องการตัวแทนพรรคที่มีความคิดเห็นสอดคล้องกับตนในประเด็นปัญหาสำคัญ
ล่าสุดในวันอังคาร (4) ทีมหาเสียงของแซนเดอร์สอ้างอิงผลการนับคะแนนเกือบ 40% ของพื้นที่ในไอโอวา ซึ่งระบุว่า แซนเดอร์สได้คะแนนถึง 28.62% ตามด้วยบุตติเจช 25.71%, วอร์เรน 18.42% และไบเดน 15.08%
อนึ่ง ในวันจันทร์พรรครีพับลิกันจัดการหยั่งเสียงในไอโอวาเช่นกัน โดยสื่อสำนักต่างๆ คาดหมายว่า ทรัมป์ซึ่งได้คะแนนสนับสนุนราว 90% ในพรรค คือผู้ชนะ