เอเจนซีส์ – พรรครีพับลิกันถูกวิจารณ์หนักว่าช่วยปกปิดความผิดผู้นำทำเนียบขาวและละเลยการปฏิบัติหน้าที่ หลังวุฒิสภาโหวตขวางเดโมแครตเรียกสอบพยานเพิ่มเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (31 ม.ค.) และปูทางอุ้มทรัมป์หลุดคดีถอดถอนกลางสัปดาห์นี้
เมื่อวันเสาร์ (1 ก.พ.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวิตว่า คะแนนนิยมของตัวเองสูงที่สุดนับจากได้รับเลือกตั้ง ขณะที่วุฒิสภาเตรียมยกเลิกข้อกล่าวหาทรัมป์กรณีใช้อำนาจโดยมิชอบและขัดขวางการสอบสวนตามมติถอดถอนในวันพุธ (5 ก.พ.)
อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์เรียลเคลียร์โพลิติกส์แย้งว่า คะแนนนิยมของทรัมป์จากโพลล์ของหลายสำนักขณะนี้อยู่ที่ 44.6% เกือบเท่ากับตอนที่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม 2017
คำกล่าวอ้างของทรัมป์มีขึ้นขณะที่วอชิงตันกำลังรอผลการหยั่งเสียงขั้นต้นแบบคอคัสที่ไอโอวาในวันจันทร์ (3 ก.พ.) ว่าผู้สมัครคนใดใน 11 คนของพรรคเดโมแครตจะได้คะแนนในสนามแรกในการขับเคี่ยวเพื่อเป็นตัวแทนพรรคลงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายน
ทั้งนี้ วันศุกร์ที่ผ่านมา วุฒิสภาลงมติคัดค้านข้อเรียกร้องขอเบิกตัวพยานเพิ่มของเดโมแครตในคดีถอดถอนทรัมป์ ซึ่งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่สามที่เข้าสู่กระบวนการนี้
ทรัมป์มั่นใจมากว่า วุฒิสภาซึ่งรีพับลิกันครองที่นั่งอยู่ถึง 53 ที่นั่ง ส่วน 47 ที่นั่งที่เหลือเป็นของเดโมแครต จะประกาศให้ตนพ้นจากความผิด เนื่องจากต้องใช้เสียงถึง 2 ใน 3 คือ 67 เสียงในการลงมติถอดถอนประธานาธิบดีจากตำแหน่ง
ในการลงมติเมื่อวันศุกร์มีวุฒิสมาชิกรีพับลิกันเพียง 2 คนคือ มิตต์ รอมนีย์ และซูซาน คอลลินส์ ที่โหวตสนับสนุนข้อเรียกร้องของเดโมแครตที่ต้องการเรียกตัวจอห์น โบลตัน อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ และมิก มัลเวนีย์ รักษาการหัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาว และพยานคนอื่นๆ ไปให้การ
ชัค ชูเมอร์ ผู้นำพรรคเดโมแครตในสภาสูง วิจารณ์ว่า การลงมติดังกล่าวเป็น “โศกนาฏกรรมเลวร้าย” และชาวอเมริกันจะจดจำว่า วุฒิสภาละเลยความรับผิดชอบ หันหลังให้ความจริง และสนับสนุนการไต่สวนจอมปลอม
แนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครต ที่ลงมติให้ดำเนินการถอดถอนทรัมป์เมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา กล่าวหารีพับลิกันสมรู้ร่วมคิดในการปิดบังความผิดของประธานาธิบดี
เดโมแครตต้องการสอบปากคำโบลตัน หลังมีรายงานที่อ้างอิงต้นฉบับหนังสือที่กำลังจะตีพิมพ์ว่า เขาได้รับการบอกเล่าจากทรัมป์ว่า การให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนอิงกับการที่เคียฟเปิดสอบสวนอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตัวเก็งผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต
มิตช์ แม็กคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากของพรรครีพับลิกันในสภาสูงและเป็นพันธมิตรของทรัมป์ โต้ว่า คณะอัยการจากสภาผู้แทนราษฎรเสนอหลักฐานมากพอแล้วและไม่จำเป็นต้องเรียกพยานเพิ่ม
ภายหลังการลงมติค้านการเบิกพยานใหม่ไม่นาน สื่ออเมริกันรายงานว่า สำนักงานบริหารและงบประมาณ (โอเอ็มบี) ของคณะบริหารระบุในเอกสารที่ยื่นต่อศาลว่า ได้แก้ไขบางส่วนของเอกสาร 24 ฉบับโดยอาศัยสิทธิพิเศษในการสื่อสารของประธานาธิบดี
เฮเธอร์ วอลช์ รองที่ปรึกษาทั่วไปของโอเอ็มบีระบุในเอกสารว่า อีเมลเหล่านั้นแสดงการสื่อสารของประธานาธิบดี รองประธานาธิบดี หรือที่ปรึกษาใกล้ชิดของประธานาธิบดีเกี่ยวกับการตัดสินใจของประธานาธิบดีในเรื่องขอบเขต ระยะเวลา และวัตถุประสงค์ในการระงับการให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน
แม็กคอนเนลล์สำทับว่า วุฒิสภาจะเปิดประชุมอีกครั้งในวันจันทร์ (3 ก.พ.) เพื่อฟังการซักค้านรอบสุดท้ายก่อนลงมติในวันพุธเกี่ยวกับข้อกล่าวหาเพื่อถอดถอนทรัมป์ 2 ข้อ
