รอยเตอร์ - โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ พ้นผิดในการพิจารณาถอดถอนพ้นจากตำแหน่งประธานาธิบดีในขั้นวุฒิสภาในวันพุธ (5 ก.พ.) หลังได้รับความอนุเคราะห์จากผองเพื่อนรีพับลินที่ปกป้องเขามาตลอด 9 เดือน ก่อนที่เขาจะร้องขอให้ผู้มีสิทธิออกเสียงในอเมริกาที่เต็มไปด้วยความแตกแยก มอบโอกาสให้เขาอยู่ในทำเนียบขาวต่อไปเป็นสมัยที่ 2
ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ที่ถูกรัฐสภาไต่สวนเพื่อการถอดถอน อย่างไรก็ตาม เขาพ้นจากข้อกล่าวหา และตอนนี้ทรัมป์ก็ดิ่งเข้าหาฤดูกาลเลือกตั้งซึ่งคาดหมายว่าจะนำพาประเทศแห่งนี้เข้าสู่การแบ่งฝักแบ่งฝ่ายหนักกว่าเดิม
สมาชิกวุฒิสภาซึ่งรีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ลงมติตตามกรอบของพรรคให้ทรัมป์พ้นจากญัตติถอดถอนทั้ง 2 ข้อกล่าวหา หลังจากสภาผู้แทนราษฎรที่ควบคุมโดยพรรคเดโมแครตโหวตเห็นชอบญัตติถอดถอนเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม อย่างไรก็ตาม ในชั้นวุฒิสภาซึ่งมีทั้งหมด 100 เสียง ผลโหวตที่ออกมานั้นห่างไกลพอสมควรจากการได้เสียงสนับสนุน 2 ใน 3 สำหรับถอดถอนเขาพ้นจากตำแหน่งภายใต้ข้อกำหนดของรัฐธรรมนูญ
วุฒิสมาชิกลงมติ 52-48 ให้ทรัมป์พ้นผิดจากข้อกล่าวหาใช้อำนาจโดยมิชอบ ซึ่งมีต้นตอจากกรณีที่เขาร้องขอให้ยูเครนสืบสวน โจ ไบเดน คู่แข่งทางการเมืองและตัวเต็งที่จะก้าวมาเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีกับเขาในศึกเลือกตั้งวันที่ 3 พฤศจิกายน อย่างไรก็ตาม มิตต์ รอมนีย์ วุฒิสมาชิกจากรีพับลิกัน เข้าร่วมกับฝ่ายเดโมแครต โหวตให้ทรัมป์มีความผิด ขณะที่ฝ่ายเดโมแครตไม่มีใครแหกคอกโหวตให้ทรัมป์พ้นผิดแม้แต่รายเดียว
จากนั้นวุฒิสภาก็ลงมติ 53-47 ให้ทรัมป์พ้นผิดจากข้อกล่าวหาขัดขวางกระบวนการสอบสวนของสภาคองเกรส ด้วยการสกัดพยานและเอกสารที่รัฐสภาต้องการ ทั้งนี้หากลงมติว่ามีความผิดตามข้อหาใดข้อหาหนึ่ง มันจะเพิ่มโอกาสที่ ไมค์ เพนซ์ รองปะธานาธิบดี สมาชิกรีพับลิกันอีกคน จะก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแทนทรัมป์
ในข้อกล่าวหาขัดขวางกระบวนการสอบสวนของสภาคองเกรส รอมนีย์ลงมติให้ทรัมป์พ้นผิดเช่นเดียวกับวุฒิสมาชิกรีพับลิกันคนอื่นๆ ส่วนฝ่ายเดโมแครตนั้นไม่มีใครโหวตให้ทรัมป์พ้นผิดแม้แต่รายเดียว
แต่ละข้อกล่าวหานั้น สมาชิกวุฒิสภาลงคะแนนแบบขานชื่อรายตัว โดยมี จอห์น โรเบิร์ตส์ ประธานศาลสูงสุดสหรัฐฯเป็นประธาน
แนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครต ที่ลงมติให้ดำเนินการถอดถอนทรัมป์เมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา กล่าวหารีพับลิกันสมรู้ร่วมคิดในการปิดบังความผิดของประธานาธิบดี
เดโมแครตต้องการสอบปากคำโบลตัน หลังมีรายงานที่อ้างอิงต้นฉบับหนังสือที่กำลังจะตีพิมพ์ว่า เขาได้รับการบอกเล่าจากทรัมป์ว่า การให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนอิงกับการที่เคียฟเปิดสอบสวนอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตัวเก็งผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต
มิตช์ แม็กคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากของพรรครีพับลิกันในสภาสูงและเป็นพันธมิตรของทรัมป์ โต้ว่า คณะอัยการจากสภาผู้แทนราษฎรเสนอหลักฐานมากพอแล้วและไม่จำเป็นต้องเรียกพยานเพิ่ม
ตลอดดราม่าแห่งการถอดถอน ทรัมป์และพันธมิตรรีพับลิกันของเขาโจมตีอย่างไม่ลดละต่อความซื่อสัตย์ของไบเดน และจนถึงตอนนี้ยังคงไม่แน่ชัดว่ามันจะสร้างความเสียหายทางการเมืองแก่แต่ละฝ่ายมากน้อยแค่ไหน
อย่างไรก็ตาม ในการหยั่งเสียงสนามแรกที่ไอโอวา เพื่อชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครตลงศึกแย่งชิงเก้าอี้ทำเนียบขาวกับทรัมป์ ปรากฏว่า ไบเดน มีผลงานน่าผิดหวัง โดยมีคะแนนเป็นอันดับ 4 ท่ามกลางความอลวนจนไม่สามารถประกาศผลอย่างเป็นทางการได้ ขณะที่ แบรด ปาร์สเกล ผู้จัดการทีมหาเสียงของทรัมป์ ได้ทีออกมาวิจารณ์เดโมแครตว่า แม้แต่จัดการหยั่งเสียงเบื้องต้นยังล่ม นับประสาอะไรจะไปบริหารประเทศ