xs
xsm
sm
md
lg

ไม่รอด!! ‘พีท บุตติเจจ’ ถอนตัวหยั่งเสียงเลือกผู้แทนเดโมแครต จับตาตัวเก็ง ‘แซนเดอร์ส-ไบเดน’ ลุ้นผลศึกใหญ่ซูเปอร์ทิวสเดย์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พีท บุตติเจจ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองเซาท์เบนด์ รัฐอินดีแอนา ประกาศถอนตัวจากการหยั่งเสียงเพื่อคัดเลือกผู้แทนพรรคเดโมแครตลงชิงชัยในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปลายปีนี้
เอเอฟพี - พีท บุตติเจจ (Pete Buttigieg) อดีตนายกเทศมนตรีเมืองเซาท์เบนด์และผู้สมัครชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกที่ประกาศตัวเป็นเกย์อย่างเปิดเผย ตัดสินใจถอนตัวจากการหยั่งเสียงเพื่อชิงตำแหน่งผู้แทนพรรคเดโมแครตแล้วในวันอาทิตย์ (1 มี.ค.) นับเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าจะช่วยเพิ่มโอกาสให้แก่ผู้สมัครสายกลางอย่าง โจ ไบเดน

การถอนตัวอย่างกะทันหันของ บุตติเจจ วัย 38 ปี สร้างความประหลาดใจไม่น้อย และเกิดขึ้นเพียง 2 วันก่อนศึก “ซูเปอร์ทิวสเดย์” ซึ่ง 14 รัฐในอเมริกาจะจัดการเลือกตั้งขั้นต้นพร้อมกันในวันที่ 3 มี.ค. และอาจทำให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวนมากหันไปเทคะแนนให้แก่รองประธานาธิบดี โจ ไบเดน ซึ่งชนะศึกเลือกตั้งไพรแมรีที่รัฐเซาท์แคโรไลนามาหมาดๆ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (29 ก.พ.)

ไบเดน จะต้องฟาดฟันกับเต็งหนึ่งอย่าง เบอร์นี แซนเดอร์ส วุฒิสมาชิกรัฐเวอร์มอนต์ซึ่งชนะเลือกตั้งขั้นต้นที่รัฐนิวแฮมป์เชียร์และเนวาดามาแล้ว และมีแนวโน้มที่เก็บชัยชนะเพิ่มในรัฐสำคัญๆ รวมถึง ‘เพชรยอดมงกุฎ’ อย่างแคลิฟอร์เนียในวันอังคารนี้ (3)

บุตติเจจ ซึ่งเป็นอดีตนายทหารและนายกเทศมนตรีเมืองเซาท์เบนด์ รัฐอินดีแอนา ปราศรัยต่อผู้สนับสนุนที่เมืองบ้านเกิดของเขาว่า “ความเป็นจริงก็คือ เส้นทางของผมในการเป็นตัวแทนพรรคได้แคบลงจนเกือบจะตันแล้ว”

บุตติเจจ ไม่ได้กล่าวพาดพิงถึงแซนเดอร์ส แต่ก็เคยแสดงความคิดเห็นก่อนหน้านี้ว่า แนวคิดทางการเมืองที่ “ไร้ความยืดหยุ่น” ทำให้ แซนเดอร์ส วัย 78 ปี ไม่ใช่ผู้สมัครที่จะประมือกับ ทรัมป์ ได้อย่างสูสีในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี

“เราต้องชูวาระทางการเมืองที่ดึงดูดฐานเสียงในวงกว้าง และสามารถปฏิบัติได้จริงเพื่อชาวอเมริกัน ไม่ใช่ใครบางคนที่หมกมุ่นอยู่กับอุดมคติ” บุตติเจจ กล่าว ซึ่งเหมือนจะเป็นการโจมตี แซนเดอร์ส กลายๆ

อย่างไรก็ดี บุตติเจจ ก็ไม่ได้ประกาศตรงๆ ว่าสนับสนุน ไบเดน หรือผู้สมัครคนอื่น

นักการเมืองหนุ่มวัย 38 ปีผู้นี้ส่อแววเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงหลังจากชนะศึกคอคัสที่รัฐไอโอวา แต่แล้วคะแนนกลับร่วงลงมาเป็นที่ 3 ในการหยั่งเสียงของรัฐเนวาดา และทำผลงานได้แย่ลงอีกที่รัฐเซาท์แคโรไลนา ซึ่งบ่งบอกชัดเจนว่า บุตติเจจ ไม่สามารถดึงคะแนนจากกลุ่มชาวอเมริกันผิวสีซึ่งเป็นฐานเสียงสำคัญของเดโมแครตได้

ในทางตรงกันข้าม ชัยชนะที่เซาท์แคโรไลนาซึ่งเป็นรัฐตอนใต้แห่งแรกที่จัดเลือกตั้งทำให้ ไบเดน กลับมามีความหวังอีกครั้ง หลังจากที่แพ้ไปอย่างน่าเสียดายใน 3 รัฐแรก

ไบเดน ได้คะแนนโหวตที่เซาท์แคโรไลนา 48% หรือคิดเป็นกว่า 2 เท่าของ ไบเดน ที่ได้เพียง 20% ถึงกระนั้นผลสำรวจล่าสุดยังคงพบว่า แซนเดอร์ส เป็นผู้สมัครที่มีคะแนนนิยมสูงสุดในหลายรัฐซึ่งจะจัดการหยั่งเสียงในวันที่ 3 มี.ค. รวมถึงแคลิฟอร์เนีย

“ผมเชื่อว่าเรามีโอกาสสูงมากที่จะชนะในแคลิฟอร์เนีย, เทกซัส, แมสซาชูเซตส์ และอีกหลายรัฐ” แซนเดอร์ส ให้สัมภาษณ์กับ CBS เมื่อวานนี้ (1)

ผลเลือกตั้งที่รัฐเซาท์แคโรไลนายังชี้ให้เห็นแนวโน้มความอยู่รอดของผู้สมัครอีกหลายคน เช่น ทอม สเตเยอร์ มหาเศรษฐีนักธุรกิจซึ่งทุ่มเงินหาเสียงในรัฐแห่งนี้ถึง 23 ล้านดอลลาร์ และตัดสินใจถอนตัวออกจากการแข่งขันไปแล้วหลังได้คะแนนโหวตมาแค่ 11% ขณะที่สองวุฒิสมาชิกหญิงอย่าง เอลิซาเบธ วอร์เรน และ เอมี โคลบูชาร์ ก็มีแววจะต้องเดินออกจากสนามแข่งขันเช่นกัน

ทั้ง วอร์เรน และ โคลบูชาร์ ต่างยืนยันว่าจะยังคงสู้ไม่ถอย อย่างน้อยๆ ก็จนกว่าจะรู้ผลในศึกเลือกตั้งซูเปอร์ทิวสเดย์ ขณะที่มหาเศรษฐี ไมเคิล บลูมเบิร์ก ซึ่งยอมทุ่มเงินถึง 500 ล้านดอลลาร์ซื้อโฆษณาปูพรมทั่วประเทศก็จะลงแข่งในซูเปอร์ทิวสเดย์วันอังคารนี้ (3 มี.ค.) เป็นครั้งแรก

โจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ เบอร์นี แซนเดอร์ส ส.ว.รัฐเวอร์มอนต์ ซึ่งเป็น 2 ผู้สมัครตัวเต็งของเดโมแครตในเวลานี้
กำลังโหลดความคิดเห็น