รอยเตอร์ – กองทัพของเกาหลีใต้ ระบุในวันอังคาร (21) ว่า พวกเขามีแผนเพิ่มกำลังหน่วยต่อต้านโจรสลัดที่ตอนนี้ปฏิบัติงานอยู่นอกชายฝั่งแอฟริกาจนถึงพื้นที่รอบๆ ช่องแคบฮอร์มุซ หลังจากถูกสหรัฐฯ กดดันให้ช่วยคุ้มกันเรือบรรทุกน้ำมัน
การโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันในช่องแคบฮอร์มุซนอกชายฝั่งอิหร่านเมื่อปีที่แล้วกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เรียกร้องพันธมิตรเข้าร่วมภารกิจการรักษาความปลอดภัยทางทะเล
ถึงแม้ว่าเกาหลีใต้จะจัดส่งกองกำลังไปยังพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงอ่าวเปอร์เซีย แต่พวกเขาจะไม่เข้าร่วมกองกำลังพันธมิตรนานาชาติ กระทรวงกลาโหม ระบุ
“รัฐบาลเกาหลีใต้ตัดสินใจเพิ่มการจัดส่งหน่วยทหารชองแกเนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันในตะวันออกกลาง เพื่อรับประกันความปลอดภัยของพลเมืองเราและเสรีภาพในการเดินเรือ” เจ้าหน้าที่กระทรวงฯ บอกผู้สื่อข่าว
หน่วยชองแกถูกประจำการในอ่าวเอเดนนับตั้งแต่ปี 2009 และมีหน้าที่ป้องกันการปล้นสะดมทางทะเลร่วมกับกลุ่มประเทศแอฟริกา รวมทั้งสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป
หน่วยกำลังพล 302 นายนี้มีเรือพิฆาตขนาด 4,500 ตันหนึ่งลำ เฮลิคอปเตอร์ต่อต้านเรือดำน้ำ ลิงซ์ หนึ่งลำ และเรือเร็ว 3 ลำ อ้างจากสมุดปกขาวกลาโหมปี 2018 ของเกาหลีใต้
ปฏิบัติการของหน่วยนี้รวมถึงการช่วยเหลือเรือเกาหลีใต้และลูกเรือเมื่อปี 2011 มีการยิงผู้ต้องสงสัย 8 คนและจับอีก 5 คนในช่วงเวลานั้น
ทหารเกาหลีใต้ยังเคยอพยพพลเมืองเกาหลีใต้ออกจากเยเมนและลิเบีย และเคยคุ้มกันเรือเกาหลีใต้และเรือต่างชาติประมาณ 18,750 ลำจนถึงเดือนพฤศษจิกายนปี 2018
เกาหลีใต้ ผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่อันดับ 5 ของโลกและหนึ่งในลูกค้าน้ำมันรายใหญ่ของอิหร่าน หยุดการนำเข้าน้ำมันดิบอิหร่านตั้งแต่เดือนพฤษภาคม หลังจากสิทธิละเว้นการคว่ำบาตรอิหร่านหมดอายุเมื่อต้นเดือนนั้น