xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นสหรัฐฯ บวก-ทองดิ่ง น้ำมันลง 5 วันติด คลายกังวลสงครามอเมริกา-อิหร่าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันขยับลง 5 วันติดในวันจันทร์ (13 ม.ค.) ด้วยสัญญาสหรัฐฯ แตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 สัปดาห์ หลังความเสี่ยงความขัดแย้งอเมริกา-อิหร่านลดลง ปัจจัยนี้ประกอบกับข้อตกลงการค้าเฟส 1 ดันวอลล์สตรีททุบสถิติต่อเนื่องและฉุดทองคำปิดลบแรง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 96 เซ็นต์ ปิดที่ 58.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 78 เซ็นต์ ปิดที่ 64.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ฮัสเซน ซาเยด หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์การตลาดของเอฟเอ็กซ์ทีเอ็ม ให้ความเห็นว่า "นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าอิหร่านจะไม่ปิดกั้นช่องแคบฮอร์มุซหรือทำการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน นั่นเพราะว่าการส่งออกไปยังจีนคือแหล่งรายได้สำคัญของรัฐบาลอิหร่าน และหากปราศจากมัน วิกฤตเศรษฐกิจของพวกเขาก็ยิ่งจะถูกซ้ำเติม"

นอกจากนี้แล้ว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ยังตีตัวออกห่างจากการเผชิญหน้าทางทหาร ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลางจะทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อผู้บริโภคและภคธุรกิจ อันเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาต้องการเห็นก่อนศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายน" เขากล่าว

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (13 ม.ค.) ได้แรงหนุนจากมุมมองในทางบวกเกี่ยวกับการลงนามในข้อตกลงการค้าเบื้องต้นระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่ง และจับตารายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ที่จะเริ่มเผยแพร่ออกมาในสัปดาห์นี้

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 83.28 จุด (0.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 28,907.05 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 22.78 จุด (0.70 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,288.13 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 95.07 จุด (1.04 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 9,273.93 จุด

สถานการณ์ในตะวันออกกลางที่ผ่อนคลายลงและข้อตกลงการค้าเฟส 1 ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งคาดหมายว่าจะมีการลงนามในวอชิงตันวันพุธนี้ (15 ม.ค.) เป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระบุว่า รัฐบาลทรัมป์มีแผนยกเลิกบัญชีดำจีนในฐานะพวกปั่นค่าเงิน ปัจจัยนี้ช่วยเสริมความเชื่อมั่นในตลาดทุนมากขึ้น

ขณะเดียวกัน นักลงทุนเฝ้ารอรายงานผลประกอบการจากบรรดาสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่อย่าง เจพีมอร์แกนเชส, ซิตีกรุ๊ป อิงก์ และเวลส์ ฟาร์โก ซึ่งเป็นบริษัทแรกที่จะเผยแพร่รายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ตั้งแต่วันอังคาร (14 ม.ค.) เป็นต้นไป

แม้คาดหมายว่าบริษัทต่างๆ ในเอสแอนด์พี 500 จะมีกำไรลดลง 0.6% นับเป็นการลดลง 2 ไตรมาสติดต่อกัน แต่นักลงทุนหลายคนคาดหมายว่าแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาสปัจจุบันน่าจะดีขึ้น เนื่องจากวอชิงตันกับปักกิ่งสามารถคลี่คลายข้อพิพาททางการค้ากันได้แล้ว

ส่วนราคาทองคำในวันจันทร์ (13 ม.ค.) ปิดลบแรง นักลงทุนหันไปเข้าซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงเพื่อเก็งกำไร จากสถานการณ์ที่คลี่คลายในความตึงเครียดอเมริกา-อิหร่าน และข้อพิพาทการค้าวอชิงตัน-ปักกิ่ง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 9.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,550.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กำลังโหลดความคิดเห็น