น้ำมันลง หุ้นสหรัฐฯ ดิ่ง-ทองพุ่ง กังวลสถานการณ์มะกัน-อิหร่าน

รอยเตอร์/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันขยับลงในวันอังคาร (7 ม.ค.) นักลงทุนหันไปจับตาตัวเลขคลังปิโตรเลียมสำรองสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม วอลล์สตรีทปิดลบหนักและทองคำบวกแรง ยังกังวลสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 57 เซ็นต์ ปิดที่ 62.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 64 เซ็นต์ ปิดที่ 68.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (อีไอเอ) มีกำหนดเผยแพร่ข้อมูลคลังปิโตรเลียมสำรองในวันพุธ (8 ม.ค.) ในขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นพวกนักวิเคราะห์ซึ่งจัดทำโดยเอสแอนด์พี โกลบอล แพลตส์ คาดหมายว่าสต๊อกน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่แล้ว น่าจะลดลง 3.7 ล้านบาร์เรล

อย่างไรก็ตาม พวกนักวิเคราะห์คาดหมายว่าคลังเบนซินสำรองรายสัปดาห์น่าจะเพิ่มขึ้นถึง 4.5 ล้านบาร์เรล และสต๊อกน้ำมันกลั่นน่าจะเพิ่มขึ้นกว่า 5 ล้านบาร์เรล

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร(7ม.ค.) ปิดลบแรง ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน จากสถานการณ์ความตึงเครียดที่ลุกลามบานปลายขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างวอชิงตันกับอิหร่าน ต่อกรณีอเมริกาปฏิบัติการสังหารพลเอกกาเซ็ม โซไลมานี

ดาวโจนส์ ลดลง 119.70 จุด (0.42 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 28,583.68 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 9.10 จุด (0.28 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,237.18 จุด แนสแดค ลดลง 2.88 จุด (0.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 9,068.58 จุด

นักลงทุนมีความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อพัฒนาการล่าสุดของสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน นับตั้งแต่อเมริกาปฏิบัติการโดรนโจมตีสังหารพลเอกกาเซ็ม โซไลมานี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษ “คุดส์” ซึ่งถูกมองอย่างกว้างขวางว่าเป็นบุคคลทรงอิทธิพลสุดอันดับ 2 ของอิหร่านเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว โหมกระพือความขัดแย้งในภูมิภาค

อิหร่านขู่แก้แค้นให้โซไลมานี ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตือนกลับมาว่าอเมริกาเล็งเป้าหมายพื้นที่สำคัญ 52 จุดของอิหร่าน พร้อมจะโจมตีอย่างรวดเร็วและรุนแรง ถ้าเตหะรานเล่นงานพลเมืองหรือสินทรัพย์ของอเมริกา

ในส่วนปัจจัยทางเศรษฐกิจ ทางกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 โดยลดลง 8.2% สู่ระดับ 4.31 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2016 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.38 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 4.69 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนตุลาคม สืบเนื่องจากการนำเข้าที่ลดลงทั้งในส่วนของน้ำมันดิบ, คอมพิวเตอร์และซัพพลายภาคอุตสาหกรรม

ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร (7 ม.ค.) ขยับขึ้น 10 วันติด ยาวนานที่สุดในรอบ 2 ปีและปิดระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2013 จากแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 5.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,574.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์